ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Last Knights (2015) อัศวินคนสุดท้าย เต็มเรื่อง

ดูหนัง Last Knights (2015) อัศวินคนสุดท้าย เต็มเรื่อง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังดราม่า , หนังผจญภัย

เรื่องย่อ : ดูหนัง Last Knights (2015) อัศวินคนสุดท้าย เต็มเรื่อง

ดูหนัง Last Knights (2015) อัศวินคนสุดท้าย เต็มเรื่อง

 

 

เรื่องย่อ : Last Knights (2015) อัศวินคนสุดท้าย

Last Knights บอกเล่าเรื่องราวของอัศวินผู้ตกอับและ ความจงรักภักดี ต่อศาสตราจารย์ที่ช่วยให้เขาผ่านพ้นช่วงย่ำแย่ในชีวิตของเขา ซึ่งหนังได้เล่าเรื่องราวผ่านตัวละครหลัก คือ หัวหน้านักรบอัศวิน เรเดน (ไคลฟ์ โอเว่น) และพรรคพวกของเขาที่ต้องต่อสู้กับ เกซ่า มอท ผู้ปกครองอันแสนเลวทราม เพื่อที่จะแก้แค้นให้กับการตายที่ไม่เป็นธรรมของผู้นำที่พวกเขาเคารพรัก ลอร์ด บาร์ทอค (มอร์แกน ฟรีแมน)

อัศวินผู้นำ เรเดน คือผู้ที่อยู่รอด และยังคงยึดถือกับความจงรักภักดีกับนักรบที่ล่วงลับ แต่แล้วความรุ่งเรื่องของเหล่านักรบรุ่นก่อนก็ต้องเสื่อมหายไป เมื่อถูกแทนที่ด้วยการปกครองของ เกซ่า มอท ผู้ปกครองอันแสนเลวทราม ที่ทุจริต คดโกง ทำให้หัวหน้าอันเป็นที่รักของ เรเดน นั่นก็คือ ลอร์ด บาร์ทอค ได้ทำการต่อต้านการปกครองอันแสนชั่วร้าย โดยได้รวมกำลังพลเข้าสู่ตัวเมือง ซึ่งระหว่างนั้น ลอร์ด บาร์ทอค ก็ถูกอำนาจมืดพิพากษ์ให้เป็น กบฎ และถูกสั่งให้ ประหารชีวิต รวมถึงพรรคพวกของ ลอร์ด บาร์ทอคและเรเดน ก็ถูกเนรเทศให้ออกจากเมืองด้วย ทำให้เรเดน ต้องเลือกระหว่างความจงรักภักดีต่อศาสตราจารย์ที่เขาเคารพรัก หรือ ความอยู่รอดของตนเอง 30 กรกฏาคมนี้ ไม่มีเพลิงแค้นครั้งไหนจะมันส์เท่าครั้งนี้

IMDB : tt2493486

คะแนน : 6.2

รับชม : 1543 ครั้ง

เล่น : 490 ครั้ง

ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง



Last Knights (2015) อัศวินคนสุดท้าย

14485132_1336581153039349_4028581525160255142_n

พอมาลองนึกๆ ดูแล้ว ผมว่าผมจำ Clive Owen ได้แบบแม่นๆ จากบทอาร์เธอร์ใน King Arthur ครับ แล้วหลังจากนั้นเขาก็ห่างหายจากบทอัศวินทำนองนี้ไปเลย จนกระทั่งมาถึงเรื่องนี่นี่แหละ

หนังนำเอาเรื่องราวของ 47 Ronin มาเล่าใหม่แบบไม่เป็นทางการครับ เพราะมีการดัดแปลงองค์ประกอบทั้งหมดให้เป็นหนังฝรั่งแทน ส่วนเรื่องราวก็คงเค้าเดิมไว้ครับ (ใครเคยดู 47 Ronin ของ Keanu Reeves มาก็จะพบว่ามันมีความคล้ายคลึงกันพอสมควร)

เรื่องของเหล่านักรบผู้กล้าที่นำโดย เรเดน (Clive Owen) ซึ่งถูกเจ้าเมืองผู้ชั่วร้ายทำลายเกียรติจนต้องหลบหนีออกมา ก่อนที่พวกเขาจะรวมตัวกันบุกไปทวงแค้นในท้ายสุด

ครับ หนังเป็นตะวันตกแบบเต็มขั้น แต่คนกำกับคือ Kazuaki Kiriya ผู้กำกับชาวญี่ปุ่นเจ้าของผลงาน Casshern และ Goemon ซึ่งเรื่องหลังนี่ผมว่ามันส์ดี แม้จะโม้ถล่มทลายก็เถอะ แต่มันตีกันได้เว่อร์สะใจและดูเอามันส์ได้เพลินดีแท้ๆ

สำหรับเรื่องนี้ก็ถือว่าโอเคครับ ดูได้เรื่อยๆ นะ จริงๆ พล็อตนั้นถือว่าลงสูตรครับ ว่าด้วยอัศวินผู้กล้าที่มิอาจปกป้องคนดีได้ ซ้ำยังโดนคนร้ายกดขี่จนต้องถอยกลับไปตั้งหลัก ครั้นพอถึงเวลาก็เดินทางมาสู้ ปราบคนชั่ว ก่อนจะจบลงด้วยการ “รักษาศักดิ์ศรี” ของตน ครบสูตรหนังอัศวินย้อนยุคทีเดียว

บทโอเคครับ แต่การเดินเรื่องถือว่าเชื่องช้าไปหน่อย โทนเรื่องก็เน้นสีขาวโพลนซึ่งก็ยิ่งทำให้อารมณ์มันอืดหนืดขึ้นไปอีก ดังนั้นใครอยากดูแอ็กชันหรือคาดหวังอะไรแบบ King Arthur ล่ะก็ ขอให้ปรับด่วนครับ มันไม่ได้มันส์แบบนั้นหรอก

Owen เล่นได้ดีครับ เพียงแต่บทไม่เปิดโอกาสให้ทำอะไรมากนัก เช่นเดียวกับ Morgan Freeman ที่ระยะหลังๆ นี่เขาชักจะได้เล่นบทแบบนี้บ่อยนะ บทผู้มีอำนาจและเป็นคนดี แต่ไม่ค่อยได้ทำอะไรเป็นชิ้นเป็นอัน เหมือนมาแผ่รัศมี แผ่บารมีน่ะครับ แต่ตัวบทกลับจะไม่เด่นเท่าที่ควร กล่าวคือลุงเขายังเล่นดีครับ แต่บทเริ่มซ้ำเท่านั้นเอง

หลายฉากได้อารมณ์คล้ายๆ Game of Thrones ครับ แต่หนังยังเข้มไม่ถึงระดับนั้น ซึ่งก็น่าเสียดายอยู่เหมือนกัน เพราะจริงๆ หนังสามารถทำให้ตัวเองออกมามันส์และเข้มข้นได้ในเวลาเดียวกัน แต่หนังกลับออกมากลางๆ ไม่ได้แย่ แต่ก็ไปไม่ถึงระดับที่สนุก

และออกจะแปลกใจพอสมควรเพราะ Kazuaki แกก็เคยทำหนังออกมาให้มันส์ได้นะครับ (ไม่เชื่อดู Goemon ได้เลย ฉากบู๊มโหระทึกมาก ช่วงหลังนึกว่า Spider-Man แน่ะ มันเหินมันโหนกันซะ…) ทว่ากับเรื่องนี้ฉากการต่อสู้ถือว่าเรื่อยๆ ครับ ไม่ได้เร้าใจอะไรนัก

โดยรวมแล้วหนังถือว่ากลางๆ ครับ มีองค์ประกอบดีๆ หลายอย่างแต่ดันได้ไม่สุด ในแง่เนื้อเรื่องก็ไม่ได้ใหม่อะไร มันก็มาจากพล็อตเดียวกับ 47 Ronin ของ Keanu นั่นแหละครับ (ซึ่งเรื่องนั้นก็รีเมคมาจากหนังญี่ปุ่นปี 1941 เหมือนกัน) แต่ถ้าว่ากันถึงทิศทางแล้ว ถือว่าไม่เลวครับ

เพราะหนังไม่ได้ไปในเชิงอภินิหาร แต่พยายามเอาประเด็นเกียรติยศศักดิ์ศรีมาพูดถึง ทว่าการเล่าเรื่องมันช้าไปครับ ถ้ากระชับกว่านี้และถ้าเติมความตื่นเต้นเร้าใจลงไปมากกว่านี้ก็คงจะแจ๋วมากขึ้นพอสมควรเลยล่ะ

สรุปว่าหากคอหนังแนวอัศวินจะลองดูก็ได้ครับ ลดความคาดหวังลงมาเยอะๆ หน่อยก็แล้วกันนะครับ ^_^