The Judge (2014) ภาพยนตร์ดราม่าทริลเลอร์เรื่องราวของ Hank Palmer ทนายความจากเมืองใหญ่ต้องกลับมายังบ้านเกิดเพื่อแก้ต่างคดีฆาตรกรรมของผู้เป็นพ่อ, ผู้พิพากษา Joseph Palmer
ตัวละครหลักที่ดำเนินเรื่องไปข้างหน้านั้นอยู่ที่ Hank (Robert Dawney Jr.) ที่ต้องกลับมาที่งานศพของแม่ที่รัฐอินเดียนน่า Hank เป็นทนายความที่เคยว่าความแพ้สักครั้ง ซ้ำยังเป็นคนที่เก่ง ฉลาด เสียที่ทำทุกอย่างเพื่อเงินแม้จะต้องว่าความให้กับคนที่ไม่ดี หรือคนผิดก็ตาม ซ้ำไม่เคยมีเวลาให้ภรรยาจนเธอต้องไปนอกใจและอยู่ในขั้นตอหย่าร้าง ชีวิตเขาเหลือเพียงลูกสาวคนเดียวที่เชื่อมั่นในตัวเขา การกลับไปบ้านที่อินเดียนน่าครั้งนี้เขาได้พบกับพี่น้องของเขา พี่ชาย Glen Palmer (Vincent D’Onofrio) น้องชายที่ไม่ค่อยปรกติ Dale Palmer (Jeremy Strong) และแฟนเก่า Samantha (Vera Farmiga) ทุกสิ่งในเมืองนี้ยังคงเหมือนเดิม มีเพียงเรื่องเดียวที่เขาไม่สะดวกใจคือการพบกับพ่อที่ไม่ค่อยลงรอย นั่นคือ ผู้พิพากษา Joseph Palmer (Rober Duvall)
เหตุการณ์กระทบกระทั่งและบอกเล่าเรื่องราวของตัวละครดำเนินไปอย่างเรื่อยๆ จนกระทั่งคืนหนึ่งที่ 3 พี่น้องต้องพบว่ารถของผู้เป็นพ่อเสียหาย และเช้าวันต่อมา ผู้เป็นพ่อ ผู้พิพากษา ผู้เที่ยงตรงอย่าง Joseph ต้องตกมากลายเป็นผู้ต้องหาคดีเจตนาฆ่า Mark Blackwell (Mark Kiely) โดย DNA ของเลือดผู้เสียชีวิตปรากฏในรถของผู้เป็นพ่อ และแม่ของ Mark (Grace Zabriskie) นั้นก็เตรียมพร้อมที่จะเอาเรื่องให้ถึงที่สุด โดยการว่าจ้างทนายที่เก่งที่สุดอีกคน Dwight Dickham (Billy Bob Thornton) มาว่าความเพื่อเรียกร้องความบริสุทธิ์แก่ลูกชาย
ประเด็นของเรื่องถูกแบ่งออกเป็นหลายจุด แต่ทั้งหลายจุดนั้นอยู่บนเส้นเรื่องเดียวกัน ทำให้ความพอดีของหนังอยู่ในเกณฑ์ดราม่ากำลังดีไม่ใช่ดราม่าประดิษฐ์
เราจะเห็นประเด็นแรกคือเรื่องของความขัดแย้ง เมื่อผู้พิพากษาผู้ที่ซื่อตรง ต้องกลายมาเป็นฆาตรกร ผู้เป็นลูกต้องเข้ามาช่วยแก้ต่างให้ทั้งที่คนเป็นพ่อก็จำเหตุการณ์ไม่ได้ หนังโยงประเด็นของการดื่มสุรา และ อาการป่วยเป็นโรคมะเร็งเข้ามาให้คนดูเป๋ไปมาให้เราเกิดความขัดแย้ง โดยความขัดแย้งหลักๆ อยู่ที่ Hank ที่เขาเองทั้งรักทั้งชังพ่อตัวเองอู่ในท่าทีที่ไม่รู้ว่าจะยังไงช่วยดีไหม หรือไม่ช่วยดี ซ้ำร้ายเขาเคยว่าความให้กับคนร้ายมามากมายแต่ คนที่เสียชีวิตอย่าง Mark Blackwell นั้นเป็นมากกว่าปิศาจร้าย ชายคนนี้เคยถูกพ่อของเขาลดโทษให้ออกจากคุกเร็วขึ้นแล้วกลับมาฆ่าคนทำให้เขา และหลายๆคนสงสัยว่า ผู้พิพากษา Plamer นั้นพยายามฆ่าชายคนนี้เพราะคิดว่าเป็นการกำจัดปัญหาที่ตัวเองก่อขึ้นหรือเปล่า ยิ่งทำให้ Hank สับสนในตัวพ่อของเขามากขึ้น
ประเด็นต่อมาคือเรื่องความรัก ที่ทำให้หนังตลกออกมาได้เรียบๆ เช่นประเด็นลูกสาวของ Samantha ที่ Hank นั้นเครียดจุกอก
ประเด็นสุดท้ายที่เป็นแก่นของหนังเรื่องนี้จริงๆ คือ “ความรัก” และ “ความสัมพันธ์” ของพ่อลูก ในท้ายเรื่องที่ Dale ฉายวีดีโอให้ทุกคนในครอบครัวดู เราจะเห็นว่า Hank มีอดีตที่เจ็บปวดจากพ่อ เพราะ Joseph ตัดสินโทษเขาในวัย 13 ปี เมาแล้วขับให้ไปอยู่กรมพินิจ โดยไม่สนใจใดๆ Hank เองเข้าใจว่าพ่อไม่รักเขา และเหตุการณ์อุบัติเหตเมาแล้วขับครั้งนั้นทำให้พี่ชาย Glen ไม่สามารถเล่นเบสบอลได้อีกทั้งที่อนาคตยังรุ่ง กลายเป็นปมที่ทำให้ Hank ไม่กลับบ้านอีกเลย และตั้งใจสร้างเนื้อสร้างตัวแบบไม่ง้อพ่อของเค้า จนกระทั่งเราจะเห็นการปรับความเข้าใจระหว่างพ่อลูก 2 คนที่ทำให้ช่องว่างของความสัมพันธ์ลดลงเรื่อยๆ ในระยะเวลาจำกัดด้วยโรคมะเร็งร้ายขั้น 4
ในฉากว่าความครั้งสุดท้ายคือการสารภาพความรักที่มีต่อลูกของผู้เป็นพ่อที่หัวรั้น ที่มากพอจะให้ Hank ยกโทษให้อภัยและกอบกู้ศักดิ์ศรีของพ่อกลับมา