เรื่องย่อ : ดูหนัง Sing Street หนังเพลงรักกระแสแรง 2016 เต็มเรื่อง
ดูหนัง Sing Street หนังเพลงรักกระแสแรง 2016 เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ : Sing Street หนังเพลงรักกระแสแรง 2016
Sing Street รักใครให้ร้องเพลงรัก เรื่องย่อ ว่าด้วยเรื่องราวของ Conor ลูกชายคนสุดท้องของครอบครัว ที่ต้องย้ายจากโรงเรียนดีๆ มาเข้าเรียนที่โรงเรียนห่วยๆ ใกล้บ้านของเขา ถึงแม้ว่าโรงเรียนจะห่วยเพียงใดก็ต้องมีเรื่องดีๆเกิดขึ้นเสมอเมื่อเขาไปแอบชอบผู้หญิงคนหนึ่งซึ่งจะยืนอยู่ตรงข้ามโรงเรียนของเขาเป็นประจำ และนั่นเองทำให้เขาตั้งวงดนตรีขึ้นมาเพื่อไปจีบสาวคนนั้น เรื่องราวของเขาจะเป็นยังไงไปติดตามลุ้นกันได้ในหนังนะครับ
ตรงนี้ต้องพูดเลยล่ะ ว่าแม้จะเป็นหนังที่ใช้ธีมร็อกแอนด์โรลยุค 80s แต่บอกเลยว่าไม่ว่าคุณจะชอบเพลงยุคนั้นหรือไม่ แต่เพลงในหนังเรื่องนี้มันก็ยังโคตรเพราะอยู่ดีล่ะ คือใครสาย 80s เพียว คุณก็จะได้ฟังเพลงจากวงหลักๆ ของบริเทนยุคหลังเดอะบีทเทิ้ล หลายต่อหลายเพลงเลยที่มีบทบาทในช่วงฝึกฝนของตัวเอก ไม่ว่าจะเป็น Stay Clean ของ Motörhead, Rio ของ Duran Duran, Town Called Malice ของ The Jam หรือ Inbetween Days ของ The Cure ก็ตาม ตรงนี้คงมาจากความทรงจำวัยเด็กของผู้กำกับล่ะนะ เพราะเน้นหนักมาจากเพลงฝั่งอังกฤษกันแบบเพียวๆ เลย
ส่วนใครไม่ใช่สายเพียว ต้องบอกว่าเพลงที่แต่งขึ้นใหม่เพื่อใช้ในหนังเรื่องนี้นี่คือพระเอกตัวจริงเลยล่ะ ได้อารมณ์แบบร่วมสมัยมากไม่เก่าไม่เชยเลยสักนิด ไม่ว่าจะ The Riddle Of The Model เพลงแรกที่คอร์เนอร์แต่งที่สื่ออ้อมๆ ถึงราฟิน่าที่อยากเป็นนางแบบ เพลง A Beautiful Sea ที่เริ่มมีลูกเล่นมากขึ้น เพลงที่พูดถึงความซับซ้อนของเหล่าเด็กสาวที่เข้าใจยากเสียเหลือเกินอย่าง Girls หรือเพลงตัวโปรโมทหนังอย่าง Drive It Like You Stole It ที่ทั้ง 4 เพลงเน้นอารมณ์แบบร็อกแอนด์โรลที่มีจังหวะแบบสนุกๆ ได้กระดิกเท้าแบบไม่รู้ตัว
ส่วนที่พลาดไม่ได้ในหนังเพลงของคาร์นีย์คงเป็นเพลงบัลลาด ที่แบบกินใจมากๆและเรียกได้ว่าคือไฮไลท์พิฆาตใจคนดูในโมเม้นท์สำคัญๆของหนังเลยล่ะ มารอบนี้มีหลายเพลงทีเดียวที่น่าฟังทั้ง Up บัลลาดที่มีจังหวะกลางๆ บอกเล่าความประทับใจที่ราฟิน่าทำให้ คอร์เนอร์รู้สึกมีพลังเหมือนลอยสูงขึ้นได้และเขาเองก็อยากให้กำลังใจเธอให้รู้สึกดีขึ้นจากเรื่องแย่ๆด้วย ซึ่งก็ถูกใช้บ่อยครั้งในหนัง To Find You เพลงไม้ตายในหนังเลยล่ะ หวานมากๆต้องเข้าไปฟังกันในโรงนะ ลองหาในยูทูบมีแต่เวอร์ชั่นคัฟเวอร์ซึ่งบอกเลยไม่ได้อารมณ์เท่ากับดูในหนังเลยสักนิด อันนี้แนะนำ สุดท้ายอีกหนึ่งเพลงโปรโมทกับ Go Now เพลงบัลลาดที่เล่นแบบช้าๆหวานๆก่อนจะระเบิดพลังในช่วงฮุค ผลงานจากศิลปินสุดเลิฟอย่าง Adam Levine ที่ตามมาทำเพลงนี้ให้หนังของคาร์นี่ย์ต่อ เรียกว่า 3 เพลงนี้โดนสุดๆเลย แนะนำว่าต้องฟังในโรงนะแจ๊ะ
ตรงนี้เป็นมนต์สเน่ห์ของเพลงแบบคาร์นีย์นะ เพราะมันแฝงความใสความสดมากๆ บางครั้งก็ดิบมากๆ แต่เข้าถึงใจเราได้แบบเต็มๆเลย เพราะมันจะมาในโมเม้นท์ที่ธรรมชาติมากๆอย่าง เล่นสดในร้านขายเครื่องดนตรีใน Once เล่นสดตามข้างถนนใน Begin again หลายทีคุณภาพมันไม่ใช่ระดับสตูดิโอมิกซ์หรอก แต่ด้วยการพามาของหนัง อารมณ์แบบสดๆของนักร้องนักแสดง ณ ตรงนั้น มันเป็นอะไรที่ตราตรึงใจมากทีเดียว