และแล้วการปลุกตำนานแฟรงเกนสไตน์ในหนนี้ก็ถือว่าไม่สำเร็จดังใจหมายครับ ถ้าว่าในแง่รายได้ก็ไม่เข้าเป้าอย่างแรง รวมจากทั่วโลกเพิ่งจะได้ $34 ล้านเท่านั้นเอง (ในขณะที่ทุนสร้าง $40 ล้าน ก็ติดตัวแดงไปพอประมาณครับ)
ถ้าว่ากันถึงพล็อตก็ไม่ได้แหวกอะไรไปจากเดิมมากครับ หลักๆ ยังคงว่าด้วยการทดลองท้าธรรมชาติของวิคเตอร์ แฟรงเกนสไตน์ (James McAvoy) นักวิทยาศาสตร์ที่ต้องการจะปลุกชีพของศพขึ้นมา และเมื่อถึงจุดที่เขาทำได้ เขาก็ตระหนักว่าตัวเองได้ทำความผิดพลาดครั้งใหญ่ขึ้นมาแล้ว
ตัววิคเตอร์นั้น ส่วนใหญ่จะถูกตีความให้เป็นคนมั่นใจในตัวเองสูง หยิ่งผยอง บางฉบับก็ถึงขั้นบ้าคลั่งเห็นแก่ตัวไปเลยก็มี สำหรับฉบับนี้พี่แกก็ไม่ถึงขนาดนั้นครับ แค่มั่นใจและดื้อดึงมากๆ เท่านั้นเอง แต่ก็ยังพอมีสติบ้างเมื่อถึงคราวจำเป็น
James McAvoy ถือว่าไม่เลวกับบทนี้ครับ ดูเขาดื้อดังทะเยอะทะยานมากมาย ต่างจากเวอร์ชั่นใจเย็นเป็นน้ำของโปสเฟสเซอร์เอ็กซ์ใน X-Men มากอยู่
จุดที่ถือว่าเปลี่ยนไปจริงๆ ของตำนานคือการกำหนดให้อิกอร์ (Daniel Radcliffe) กลายเป็นคู่คิดมากกว่าจะเป็นข้ารับใช้หลังค่อม (และแน่นอนว่าที่เปลี่ยนไปมากๆ คือการที่อิกอร์หลังไม่ค่อมอีกด้วย ซึ่งในหนังจะมีการอธิบายเรื่องนี้ไว้ครับ) ซึ่งผมว่าก็เป็นการเปลี่ยนที่ไม่เลวนะ เพียงแต่หนังก็ใช้ประโยชน์จากจุดนี้ไม่ได้มากสักเท่าไร
กล่าวคือจนแล้วจนรอด ว่ากันถึงปริมาณความเด่นแล้ว วิคเตอร์ยังดูนำอยู่ครับ ทั้งที่ดูๆ แล้วเหมือนอิกอร์จะมีพื้นที่บนจอมากกว่าด้วยซ้ำ แต่หนังก็ไม่เสริมความเด่นแบบน่าสนใจให้อิกอร์สักเท่าไร (ทั้งที่จริงๆ อิกอร์มีปมน่าสนใจหลายอย่าง ไม่ว่าจะเรื่องความรักหรือการต้องมาเป็นเพื่อนกับวิคเตอร์ที่บางครั้งก็คลั่งความสำเร็จมากจนลืมความปลอดภัยแบบนี้)
ครับ โดยหลักๆ แล้ววิคเตอร์ดูเด่นกว่า แต่เด่นที่ว่านี่ก็ยังไม่เยอะเท่าไรครับ แหม อธิบายยากอยู่เน้อะ เพราะผมบอกว่าวิคเตอร์เด่นกว่าอิกอร์ แต่ไปๆ มา ก็บอกว่าวิคเตอร์ไม่เด่นอีก (555)
คืออย่างนี้ครับ วิคเตอร์ดูมีองค์ประกอบ คาแรคเตอร์ และโมเมนท์ที่จัดว่าเด่นอยู่เยอะ แต่กระนั้นองค์ประกอบทั้งหลายมันก็ยังไม่สามารถขับเน้นความเด่นให้กับบทวิคเตอร์ได้อย่างที่ควรจะเป็น คือไม่เหมือนวิคเตอร์สมัยหนัง Universal ยุค 30, ไม่เหมือนหนัง Hammer เมื่อยุค 70 (ที่ Peter Cushing นำแสดง) หรือกระทั่งเวอร์ชั่นปี 1994 ที่ Kenneth Branagh แสดงไว้ เพราะแต่ละเรื่องที่ผมบอกไปนั้น ตัววิคเตอร์ถือว่ามีความเด่นเสมอ เรียกว่าไม่น้อยไปกว่าปีศาจที่ถูกประดิษฐ์ขึ้นมาเลย
แต่กับเวอร์ชั่นนี้เหมือนหนังจะพยายามแสดงมิติของวิคเตอร์ให้มากขึ้น ด้วยการเอาปมในอดีตของวิคเตอร์มาเป็นตัวอธิบายว่าทำไมวิคเตอร์ถึงต้องทำการทดลองปลุกคนตายแบบนี้ แต่ปมที่ว่ากลับไม่ค่อยมีผลในเชิงดราม่าครับ แต่มีผลเอาไว้เฉลยในจุดไคลแม็กซ์มากกว่า ดังนั้นเอาเข้าจริง หนังเหมือนๆ จะเพิ่มมิติให้วิคเตอร์ แต่เอาเข้าจริงแล้วความลึกของวิคเตอร์ก็ไม่มากเท่าไร
ไปๆ มาๆ ความลึกของอิกอร์จะมากกว่าด้วยครับ ^_^
โดยรวมแล้วหนังออกแนวดราม่าผสมไซไฟครับ ความสยองไม่เยอะ ความน่าตื่นเต้นไม่แยะ จริงๆ หนังดึงความสนใจของผมได้สำเร็จในตอนต้นนะครับ ตอนที่วิคเตอร์และอิกอร์ร่วมกันช่วยชีวิตคนเป็นครั้งแรก พวกกิมมิกการมองในมุมกายวิภาคของวิคเตอร์และอิกอร์ถือว่าเป็นลูกเล่นที่น่าสนใจมากครับ แต่เสียดายที่ลูกเล่นที่ว่ามีแค่ตอนขึ้นต้นและตอนจบเท่านั้น
อดคิดไม่ได้ว่าถ้าหนังดันความเทพของวิคเตอร์ให้มากกว่านี้ รสชาติหนังอาจจะเข้มกว่านี้ก็ได้
สรุปว่าหนังเรื่อยๆ ครับ เหมือนจะน่าสนใจ แต่ผลรวมยังไม่มีจุดเด่นที่มากพอ