ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง The Bourne Supremacy สุดยอดเกมล่าจารชน (2004) เต็มเรื่อง

ดูหนัง The Bourne Supremacy สุดยอดเกมล่าจารชน (2004) เต็มเรื่อง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังระทึกขวัญ , หนังดราม่า

เรื่องย่อ : ดูหนัง The Bourne Supremacy สุดยอดเกมล่าจารชน (2004) เต็มเรื่อง

ดูหนัง The Bourne Supremacy สุดยอดเกมล่าจารชน (2004) เต็มเรื่อง

 

 

เรื่องย่อ : The Bourne Supremacy สุดยอดเกมล่าจารชน (2004)
สองปีที่แล้ว เจสัน บอร์น (แมตต์ เดมอน) คิดว่าเขาสามารถหนีจากอดีตของเขาได้แล้ว แต่บัดนี้ อดีตของเขากำลังกลับมา.. บอร์น และ มาเรีย ยังคงใช้ชีวิต ที่ต้องปิดบังสถานะจริงของพวกเขาเอาไว้ บอร์นที่ยังคงฝันร้าย และถูกหลอกหลอนโดยภาพจากอดีต ที่เขาไม่สามารถจำได้ เขาพามาเรียเดินทางจากเมืองหนึ่งไปยังอีกเมืองหนึ่ง ทั้งนี้เพื่อก้าวล้ำหน้าจากโอกาสที่จะโดนคุกคาม เมื่อมีคนแปลกหน้าจ้องมองพวกเขาอย่างไม่มีสาเหตุ ทุกครั้งที่มีคนต่อโทรศัพท์เข้ามาผิด... เพราะทุกวินาที อาจหมายถึงบอร์นต้องถูกดึงตัว กลับสู่โลกที่เขาหวังจะทิ้งไว้เบื้องหลัง โดยปราศจากคำเตือน
เมื่อคนกลุ่มหนึ่งปรากฏตัวขึ้นที่หมู่บ้านอันเงียบสงบ ที่เป็นบ้านหลังล่าสุดของพวกเขา ชีวิตของบอร์นและมาเรียพังทลายลง และต้องหลบหนี อดีตของบอร์นมาเคาะที่ประตูบ้าน ทางเลือกเดียวของพวกเขาตอนนี้ คือการหนี
แต่เมื่อมีการก้าวล้ำเส้น และเดิมพันในเกมส์แมวจับหนูระดับโลกครั้งใหม่เริ่มต้นขึ้น เจสัน บอร์น ที่ถูกสร้างขึ้นโดย ทรีดสโตน หน่วยงานลับที่ผลิตมือสังหารอาชีพเลือดเย็น ที่ปัจจุบันกลายเป็นหน่วยงานที่ถูกล้มเลิกไปแล้วนั้น จึงคืนกลับมาอีกครั้ง
สองปีก่อน บอร์นหนีพ้นจากโลกอันตรายที่เคยสร้างเขาขึ้นมา พร้อมคำสัญญาว่า จะแก้แค้นใครก็ตาม ที่พยายามเข้ามายุ่งกับเขา บัดนี้ โลกใบเดิมได้กลับมาอีกครั้ง และบอร์นมุ่งมั่นที่จะรักษาคำสัตย์ ที่เขาเคยปฏิญาณเอาไว้
พวกนั้นควรจะเลิกยุ่งกับเขาได้แล้ว!

IMDB : tt0372183

คะแนน : 7.7

รับชม : 2410 ครั้ง

เล่น : 1330 ครั้ง

ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง



บทวิจารณ์หนังกับการย้อนรอย The Bourne Supremacy สุดยอดเกมส์ล่าจารชน กับการเดินทางอีกครั้งของ เจสัน บอร์น ก่อนจะไป The Bourne Legacy

The Bourne Supremacy สุดยอดเกมส์ล่าจารชน

เมื่อครั้งปี 2003 ผมได้มีโอกาสไปดูหนังเรื่อง Jurassic Park 3 ซึ่งแน่นอนที่ว่าก่อนจะได้ดูหนัง เราต้องได้เห็นตัวอย่างหนังกันก่อน และตัวอย่างหนังเรื่องที่ว่าก็คือ The Bourne Supremacy ที่ผมยังไม่ประสีประสาตามข่าวหนังแบบในสมัยนี้ อดตื่นเต้นไม่ได้ที่ว่า ว้าว! จะมีภาคต่อเหรอเนี่ย และเมื่อหนัง The Bourne Supremacy เข้าโรง ผมก็ได้เดินทางเข้าไปชม

The Bourne Supremacy สุดยอดเกมส์ล่าจารชน

The Bourne Supremacy ออกฉายในปี 2004 เรื่องราวกล่าวถึงชีวิตของ เจสัน บอร์น (แมท เดมอน คนเดิม) ที่ใช้ชีวิตอย่างสงบกับ มารี มาแล้วถึง 2 ปี แต่เขามักจะฝันร้ายไปถึงตัวตนที่แท้จริงของเขาเสมอว่าเป็นใครกันแน่เสมอ

ทุกอย่างดูเป็นปกติดี จนกระทั่ง CIA ได้ส่งคนมาสังหาร เจสัน บอร์น อีกครั้ง การสังหารสำเร็จแต่ไม่ใช่กับ บอร์น แต่เป็น แฟนสาวของเขานามว่า มารี เมื่อ บอร์น ตั้งตัวได้ เขาจึงออกเดินทางเพื่อตามหาความจริง และทวงแค้น

The Bourne Supremacy สุดยอดเกมส์ล่าจารชน

แม้โครงการเทรดสโตนส์ ที่สร้างตัวเขาขึ้นมาจะยุบลงไปแล้ว แต่ดูเหมือนว่าทางการจะไม่ต้องการให้ตัว เจสัน บอร์น มีชีวิตอยู่ต่อไป เขาจึงต้องเดินทางไปไล่ล่าแล้วงัดเอาทุกอย่างที่เขามีไปทำลายเหล่าผู้คนที่มายุ่งกับชีวิตเขา

ตัวหนังภาคที่ 2 ได้ผู้กำกับ พอล กรีนกราส มารับหน้าที่แทน ดั๊ก ไลแมน ซึ่ง พอล ได้สร้างความแตกต่างให้กับตัวหนังอย่างมาก ที่เห็นได้เด่นชัดที่สุดคือ การไล่ล่าที่มันส์ขึ้นแบบเต็มพิกัด

The Bourne Supremacy สุดยอดเกมส์ล่าจารชน

พอล กรีนกราส ได้นำเอาวิธีการถ่ายกล้องแบบนรก (Handgeld) ที่ผมเรียกแบบนั้นเพราะเป็นการถ่ายทำฉากไล่ล่าแบบเหวี่ยงมุมกล้อง ส่ายไปส่ายมา มึนหัวมากๆ แต่แปลกทำไมมันออกมาโคตรมันส์เลยหว่า

โดยการอนุมัติทุนสร้างที่มากกว่า ภาคที่ 2 จึงได้เดินทางไปหลากหลายโลเคชั่นของโลก แน่นอนว่าการไล่ล่าในแต่ละฉากทำออกมาได้สมจริง และแตกต่างสถานที่กันไปในแต่ละประเทศ

The Bourne Supremacy สุดยอดเกมส์ล่าจารชน

ฉากที่น่าตื่นตะลึงขอยกให้เป็นการไล่ล่าทางรถยนต์ระหว่างเหล่า ตำรวจ นักฆ่าที่รับบทโดย คาร์ล เออร์แบน และ เจสัน บอร์น ที่ทำออกมาได้ถึงใจอย่างมากถึงมากที่สุด

การแสดงของ แมท เดมอน บอกได้เลยว่าไม่มีที่ติใดๆ เขากลายเป็น เจสัน บอร์น แบบเต็มตัวไปแล้ว ตัวรายได้ของภาคนี้ก็ทำไปถึง 288 ล้านเหรียญสหรัฐ แน่นอนว่าเมื่อมาได้ดีก็ต้องมีภาคต่อไปครับ

The Bourne Supremacy สุดยอดเกมส์ล่าจารชน

คำวิจารณ์ของตัวหนังก็ออกมาในทางที่ดี กลายเป็นหนังภาคต่อที่สานเรื่องราวจากภาคแรกได้อย่างดีเยี่ยมและไม่เละเทะจนเกินไป ส่วนผสมที่ลงตัวทั้งผู้กำกับ และนักแสดงทำออกมาได้ยอดเยี่ยมมากๆ