Vindicta (2023)

โครงเรื่องหมุนรอบเมืองที่ถูกคุกคามจากฆาตกรต่อเนื่องผู้โหดเหี้ยม โดยมีนักสืบและหน่วยกู้ภัยเป็นเป้าหมายหลัก และกุมความลับจากอดีต ภาพยนตร์เรื่องนี้สร้างด้วยงบประมาณต่ำและได้รับการวิจารณ์ที่หลากหลายจากผู้ชมและนักวิจารณ์เมื่อออกฉาย อย่างไรก็ตาม มันสามารถบรรยายถึงแก่นแท้ของอารมณ์ความรู้สึกของมนุษย์ได้ โดยเจาะลึกความซับซ้อนของการแก้แค้น สำรวจว่าโศกนาฏกรรมสามารถทิ้งรอยแผลเป็นที่ลบไม่ออกได้อย่างไร และแสดงให้เห็นถึงความอุตสาหะของตัวละครมนุษย์ องค์ประกอบเหล่านี้ทำให้ภาพยนตร์มีแก่นของอารมณ์และยกระดับให้เหนือกว่าหนังระทึกขวัญที่ตรงไปตรงมา

นักสืบเฮลและคู่หูมุ่งหน้าไปยังอาคารที่เสียหายเพื่อช่วยเหลือใครบางคนและสืบสวนความผิดปกติ ขณะที่พวกเขาสำรวจภายในอาคาร พวกเขาก็ได้ยินเสียงฝีเท้ากะทันหัน และเขาก็รีบหันไฟฉายไปหาเพื่อนร่วมทีมสืบสวนของเขา มีคนอยู่กับพวกเขาภายในอาคารที่โจมตีพวกเขาถึงแก่ชีวิต ในไม่ช้านักสืบทั้งสองก็ถือว่าหายตัวไป

วันรุ่งขึ้นหลังจากที่นักสืบเฮลหายตัวไป ผู้คนก็ค้นพบร่างไร้ชีวิตของคู่หูของเขาในรถที่ศีรษะหายไป เหตุการณ์ที่น่าสยดสยองนี้ทำให้เกิดความตื่นตระหนกและแจ้งเตือนชุมชนให้ทราบถึงการปรากฏตัวของอาชญากรตัวใหม่ที่เป็นอันตรายในละแวกบ้าน ในอีกส่วนหนึ่ง ลูกำลังจะเริ่มงานใหม่ของเธอในฐานะแพทย์ ระหว่างที่เธอฝึก มีช่วงหนึ่งที่เธอทำข้อสอบผิดพลาด เธออุทิศเวลาเพิ่มเติมให้กับผู้ป่วยที่เธอเชื่อว่าสามารถช่วยชีวิตได้ และไม่สามารถปฏิบัติตามระเบียบการเรื่องเวลาอย่างเคร่งครัด เนื่องจากเธอไม่สามารถช่วยเหลือผู้ป่วยรายต่อไปได้

อย่างไรก็ตาม เหตุการณ์ดังกล่าวยังเชื่อมโยงกับความบอบช้ำทางจิตใจในวัยเด็กที่เธอประสบเมื่อแม่ของเธอเสียชีวิตด้วย เมื่อ Lou ยังเป็นเด็ก แม่ของเธอได้ฝึกเธอเกี่ยวกับวิธีใช้ EpiPen ที่เธอสามารถใช้รักษาอาการแพ้อย่างรุนแรงในช่วงเวลาฉุกเฉินได้ เมื่อช่วงเวลาที่แม่ของเธอต้องการมัน Lou ไม่สามารถดำเนินการได้ทันเวลาเนื่องจากความกลัวและความตกใจ และเธอก็ไม่สามารถช่วยแม่ของเธอได้ ประสบการณ์นี้ทำให้เธอรู้สึกผิดอย่างลึกซึ้งที่เธอแบกรับติดตัวมานับแต่นั้นมา ความรู้สึกเดียวกันนี้ยังเป็นแรงบันดาลใจให้เธอก้าวต่อไป