หมวดหมู่ : หนังตลก , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนังไทย
เรื่องย่อ : อสุจ๊าก | The Sperm (2007)
ชื่อภาพยนตร์ : อสุจ๊าก | The Sperm
แนว/ประเภท : Comedy, Sci-Fi
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Taweewat Wantha
บทภาพยนตร์ : Siwaporn Pongsuwan, Kiat Songsanant, Taweewat Wantha
นักแสดง : Leo Putt, Pimpaporn Leenutapong, Nattawat Srimawk
ปีที่ออกฉาย : 2007
สุทิน นักดนตรีร็อควัยรุ่น ช่วยตัวเองอย่างสนุกสนานและบ่อยครั้ง บ่อยเกินไป. คืนหนึ่ง อสุจิที่บินหนีและทำให้ผู้หญิงในท้องถิ่นท้องได้ เด็กๆ เติบโตเป็นกองทัพของสิ่งมีชีวิตเล็กๆ ที่มีหัวแบบวัยรุ่น -- และความต้องการทางเพศ สัตว์ประหลาดตัวน้อยที่น่ารังเกียจไม่เพียงคิดถึงลูกไก่และกระตุกเท่านั้น แต่ยังมีแนวโน้มที่จะเสียชีวิตในขณะที่หลั่งน้ำอสุจิอีกด้วย เมืองนี้เริ่มตื่นตระหนกเมื่อมนุษย์ต่างดาวเปลี่ยนไข่ตัวหนึ่งให้กลายเป็นยักษ์โดยไม่ได้ตั้งใจ
IMDB : tmdb232393
คะแนน : 6.6
รับชม : 16 ครั้ง
เล่น : 5 ครั้ง
ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง
หนังไทยแนวคอมเมดี้ ไซไฟ 18+ ยุค2000 ที่โคตรบ้า และโครตกล้า โคตรแหวกแนวแบบสุดโต่งมากในยุคนั้น ถึงจะเป็นหนังทะลึ่งตึงตังที่เจ๊งแต่ก็เป็นหนึ่งในหนังที่โคตรดีในความทรงจำผมเลย คนหื่นก็มีหัวใจ 555
ส่วนที่ดีก็คือ ทุกอย่างในอสุจ๊ากอยู่นอกเหนือกรอบของความเป็นจริง ดังนั้นไม่จำเป็นต้องถามหาเหตุผลว่าไอ้นั่นไอ้นี่มันโผล่มาในหนังได้อย่างไร (ซึ่งมันเป็นการพยายามจะ cult* มากเกินไป) เรื่องของอสุจ๊ากก็เกี่ยวข้องกับสุธี (ลีโอ พุฒ) หนุ่มใต้ ที่พูดทองแดงตลอดเวลาแต่ไม่เนียนเอาซะเลย สุธีเป็นนักดนตรีที่ใฝ่ฝันจะออกเทปเลยเดินทางมากรุงเทพ เค้าคลั่งไคล้ดาราสาวที่ชื่อแลมมี่ (ผิง) เป็นอย่างยิ่ง ในวงของสุธีก็จะมีเพื่อนนิสัยแปลกๆ เช่น บ้ายูเอฟโอมาก เป็นต้น สุธีมักจะฝันเปียกอยู่เสมอ ในฝันนั้นมีน้องแลมมี่ทุกครั้งแต่ก็ไม่เคยได้เอากันซะที วันนึงสุธีโดนเพื่อนแกล้งให้กินยาปลุกเซ็กซ์ของด็อกเตอร์สติเฟื่องคนนึง สุธีเลยหื่นไม่เลิก และไปทำการปลดปล่อยความหื่นที่ตรอกแห่งหนึ่ง
จุดนั้นเองที่ทำให้สเปิร์มที่กลายพันธุ์เพราะยาของเค้าไหลลงไปตามท่อ แล้วก็ฟุ้งกระจายไปในอากาศ เข้าไปอยู่ในร่างกายของหญิงสาวที่เดินอยู่ตามถนน แล้วก็เกิดปรากฏการประหลาดขึ้นเมื่อผู้หญิงนับร้อยในกรุงเทพเกิดท้องขึ้นมาพร้อมกัน แล้ววันรุ่งขึ้นก็คลอดลูกออกมาพร้อมกัน ยิ่งไปกว่านั้น เด็กทุกคนหน้าเหมือนสุธี และคลั่งไคล้ในตัวแลมมี่เหมือนกับสุธีเด๊ะๆ
สิ่งที่อสุจ๊ากต้องการจะบอกก็คือ เด็กผู้ชาย (สเปิร์ม) ทุกคนเกิดมาเพื่อที่จะสืบพันธุ์ และการที่เด็กเหล่านั้นต้องการสืบพันธุ์ก่อนวัยอันควรก็เพราะสังคมรอบข้างมีแต่สิ่งยั่วยุเต็มไปหมด ซึ่งสิ่งยั่วยุเหล่านั้นจะเป็นใครไปไม่ได้นอกจาก ผู้หญิง
จุดนี้แหละคือสิ่งที่ทำให้เรารู้สึกเกลียดหนังเรื่องนี้ขึ้นมา ความจริงไอเดียที่ต้องการสะท้อนสังคมประเภทการมีเซ็กซ์ในวัยรุ่นก่อให้เกิดปัญหาตามมาเนี่ยจริงๆ แล้วเป็นเรื่องดี แต่สิ่งที่มันนำเสนอออกมาคือการที่ผู้ชายมีความต้องการทางเพศเป็นเรื่องธรรมชาติ (คือไม่ผิด) แต่ที่มันออกฤทธิ์ก่อนถึงเวลาอันเหมาะสมก็เพราะสังคมต่างหาก เพราะผู้หญิงแต่งตัวโป๊ต่างหาก เพราะมีสิ่งยั่วยุต่างหาก ฯลฯ มันคือการโยนความผิดใช่หรือไม่ และเด็กผู้ชายไม่จำเป็นต้องได้รับการอบรมให้เป็นสุภาพบุรุษ ไม่จำเป็นต้องรู้จักการยับยั้งช่างใจอย่างนั้นรึเปล่า
ความลักลั่นในหนังเรื่องนี้ยังไม่จบแค่นั้น เพราะตั้งแต่ต้นมาดูเหมือนมันกำลังสั่งสอนเราว่าเซ็กซ์ก่อนเวลาอันควร (ซึ่งอะไรคือเวลาอันควรวะ) เป็นสิ่งไม่ดี แล้วถ้าเกิดพลาดพลั้งขึ้นมาก็จะมีเด็กเกิดมาให้เป็นปัญหาสังคมอีก แต่ปรากฏว่าลงท้าย พระเอกก็ได้รับ “อนุญาต” ให้สำเร็จความใคร่กับนางเอกได้ เพราะสเปิร์มที่ออกมานั้นมาจากความรัก????? หืม แปลว่าไม่ว่าจะเป็นที่ไหนเวลาไหน เพียงมีข้ออ้างว่า “ความรัก” สเปิร์มก็ได้รับอนุญาตให้เจาะไข่ได้แล้วงั้นหรือ พอดูจบแล้วก็เลยไม่แน่ใจว่า ภาพยนตร์เรื่องนี้จะมีข้อคิดดีๆ ให้สังคมได้จริงรึเปล่า การสรุปทางออกหรือมีข้อชี้แนะแบบนั้น มันเป็นการมักง่ายเกินไปรึเปล่า
ไปๆ มาๆ ความพยายามเพี้ยนของหนังกลายเป็นสิ่งที่เราชอบมากกว่าการพยายามยัดเยียดข้อคิด (ที่ไม่แน่ใจว่าดีรึเปล่า) ใส่ปากตัวละครจนบางทีนึกว่าเรียนสุขศีกษาอยู่ซะด้วยซ้ำ เราชอบตอนจบนะ เป็นการหักมุมแบบบาแรมยูมากๆ (แล้วเสือกบอกก่อนด้วยนะว่าจะหักมุม) แต่ดูแล้วก็โอเค เสียแต่ว่าทั้งเรื่องมาไอ้ตรงที่เพี้ยนก็เพี้ยนแบบไม่มีวัตถุประสงค์ แต่ตรงที่เป็นไอเดียก็เอามายัดเยียดจนไม่เป็นธรรมชาติ คือมันขาดความลงตัวตรงนี้ เอาเป็นว่าเปลี่ยนทั้งเรื่องแล้วคงตอนจบไว้ คิดว่าหนังเรื่องนี้อาจจะดีขึ้น
แต่ที่จริงก็ไม่ใช่เรื่องใหม่อะไรหรอกนะ ตอนจบประเภทให้คนดูคิดเอาเองว่าตกลงกูดูความจริงหรือความฝันอยู่กันแน่ อะไรทำนองนี้ มันก็สร้างมาเป็นร้อยๆ เรื่องแล้ว แต่มันก็เป็นตอนจบที่น่าจะดีที่สุดของหนังเรื่องนี้นั่นแหละ