Secret Agent (1936)

ภาพยนตร์แนวระทึกขวัญแนวจารกรรมที่มีฉากเกิดขึ้นในช่วงสงครามโลกครั้งที่ 1 Secret Agent เป็นผลงานภาคต่อของฮิตช์ค็อกกับภาพยนตร์ชื่อดังของเขาเรื่อง The 39 Steps บทภาพยนตร์สำหรับ Secret Agent สร้างจากสองเรื่องโดยซัมเมอร์เซ็ท มอห์ม (“The Traitor” และ “The Hairless Mexican”) มอห์แฮมเองก็เคยทำงานเป็นสายลับ และเรื่องราวของเขาก็เป็นแรงบันดาลใจให้กับเอียน เฟลมมิงอย่างไม่น่าแปลกใจ และถึงแม้จะมีชื่อคล้ายกับนวนิยายชื่อดังของโจเซฟ คอนราดเรื่อง "สายลับ" แต่สายลับของฮิตช์ค็อกก็มีอะไรที่เหมือนกันกับหนังสือของคอนราดเพียงเล็กน้อย (จริงๆ แล้วฮิตช์ค็อกจะยืมมาจากนวนิยายของคอนราดเพื่อใช้ในภาพยนตร์เรื่อง Sabotage ในปี 1936 ของเขาในภายหลัง) ปัจจุบัน สายลับของฮิตช์ค็อกมักติดอันดับหนึ่งในภาพยนตร์ Gaumont ของอังกฤษที่ดีกว่าของเขา โดยมีธีมคลาสสิกของฮิตช์ค็อก นั่นคือชายธรรมดาที่บังเอิญตกอยู่ในสถานการณ์ที่ไม่ธรรมดา (ดู Blackmail, The 39 Steps, The Man Who Knew Too Much, Notorious, Rear Window, North by Northwest และอื่นๆ)

นักแสดงละครเวทีชาวอังกฤษ จอห์น กิลกุด แสดงใน Secret Agent รับบทเป็น เอ็ดการ์ โบรดี นักประพันธ์ชาวอังกฤษและกัปตันในกองทัพซึ่งมีฉากการตายของเขาอย่างลึกลับ เขาตกใจมากเมื่อกลับบ้านเพียงแต่พบว่าข่าวมรณกรรมของเขาได้รับการตีพิมพ์ในหนังสือพิมพ์แล้ว! จากนั้น โบรดี้ที่สับสนก็เผชิญหน้ากับชายลึกลับที่รู้จักกันในชื่อ “อาร์” เท่านั้น ซึ่งส่งเขาไปทำภารกิจอันตรายภายใต้นามแฝงของริชาร์ด แอชเชนเดน เพื่อค้นหาและสังหารสายลับชาวเยอรมันที่เข้าใจยากซึ่งปัจจุบันกำลังเดินทางไปอาระเบียผ่านกรุงคอนสแตนติโนเปิล แอชเชนเดนได้รับผู้ช่วยในภารกิจนี้ ซึ่งเป็นนักเลงเจ้าเล่ห์ที่เล่นโวหารและเป็นที่รู้จักในนาม "นายพล" หรือ "ชาวเม็กซิกันไร้ขน" หรือแม้แต่ "นายพลปอมเปลิว ม็อกเตซูมา เด ลา เบลลา เดล คอนเด y เดอ ลอนบัส" (ปีเตอร์ ลอร์เร) เมื่อมาถึงสวิตเซอร์แลนด์ที่โรงแรม Excelsior Ashenden พบว่าเขาได้รับ "ภรรยา" คนหนึ่งซึ่งรอเขาอยู่ในห้องของเขา ชื่อของเธอคือ เอลซ่า แคร์ริงตัน (แมดเดอลีน แคร์โรลล์) เห็นได้ชัดว่าเธอถูกส่งโดย "R" เพื่อปฏิบัติภารกิจนี้ แต่เธอก็ถูกไล่ตามอย่างสนุกสนานโดยตัวละครสันโดษที่มีเสน่ห์ชื่อโรเบิร์ต มาร์วิน (โรเบิร์ต ยัง)

ในสวิตเซอร์แลนด์ ทั้งสามคนได้พบกับชายที่น่าสงสัยกับสุนัขพันธุ์ดัชชุนด์ซึ่งเราถูกชักจูงให้เชื่อว่าเป็นสายลับชาวเยอรมัน อย่างไรก็ตาม แม้ว่าจะมีการฆาตกรรมบนยอดเขาก็ตาม สายลับที่แท้จริงก็ถูกเปิดเผยในเวลาต่อมาว่าเป็นคนที่แตกต่างไปจากเดิมอย่างสิ้นเชิง ความลึกลับนำพวกเขาออกทัวร์ผ่านสถานที่สำคัญต่างๆ ในสวิตเซอร์แลนด์ ตั้งแต่ทะเลสาบกว้างใหญ่และเนินเขาเขียวขจี ไปจนถึงโบสถ์เก่า (ซึ่งพบว่านักเล่นออร์แกนถูกรัดคอตายเพราะกุญแจของเขา) รวมถึงโรงงานช็อกโกแลตที่พลุกพล่าน แต่สปอยเลอร์เตือน และเป็นสิ่งที่คาดเดาได้พอสมควร ในท้ายที่สุด สายลับศัตรูกลับกลายเป็นใครอื่นนอกจากมาร์วิน ในกรณีนี้ ผู้ร้ายซ่อนตัวอยู่ในสายตาของผู้ร้ายด้วยบุคลิกใจดีและมีอัธยาศัยดี ซึ่งเป็นบุคคลที่เราสงสัยน้อยที่สุด สายลับจบลงด้วยการเผชิญหน้าแบบคลาสสิกบนรถไฟที่กำลังเคลื่อนที่ ในขณะที่ตัวละครเอกทั้งสามโต้เถียงกันเรื่องจริยธรรมในการสังหารมาร์วิน ทันใดนั้นการโจมตีทางอากาศจาก Royal Flying Corps ก็มาถึงและโจมตีรถไฟที่นำไปสู่อุบัติเหตุ และหลังจาก "The General" ถูกยิงอย่างโง่เขลา มีเพียง Ashenden และ Elsa เท่านั้นที่ยังมีชีวิตอยู่ (พวกเขาตกหลุมรักการผจญภัยครั้งนี้ด้วยกัน)