The Fall of the Roman Empire | อาณาจักรโรมันถล่ม (1964)

การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันแสดงให้เห็นว่าโรมเผชิญกับปัญหาเดียวกันบางประการในขณะที่เป็นจักรวรรดิที่รบกวนยุคสาธารณรัฐ Marcus Aurelius ตัดสินใจเสนอชื่อ Livius ให้เป็นผู้สืบทอดตำแหน่งจักรพรรดิแทน Commodus ลูกชายของเขาในภาพยนตร์เรื่องนี้ แทนที่จะตระหนักถึงอำนาจของ Patria Potestas เพื่อนของ Commodus ก็สังหารจักรพรรดิก่อนที่เขาจะประกาศการสืบทอดตำแหน่งอย่างเป็นทางการ Commodus เริ่มยกเลิกงานอันยิ่งใหญ่ของบิดา เช่น ปฏิเสธที่จะให้เกียรติสนธิสัญญาสันติภาพที่ Marcus Aurelius ทำกับผู้บุกรุกทางตอนเหนือ มาร์คัส ออเรลิอุสยังสัญญากับผู้นำแคว้นด้วยว่าประชาชนของพวกเขาจะกลายเป็นพลเมืองของโรม Commodus ตัดสินใจที่จะยึดติดกับสภาพที่เป็นอยู่และไม่อนุญาตให้มีการเปลี่ยนแปลงนี้ ในขณะเดียวกันก็เพิ่มภาษีเป็นสองเท่าในจังหวัดทางตะวันออกด้วย การตัดสินใจที่ไม่ดีเหล่านี้นำไปสู่ความสับสนวุ่นวายในเมือง การตายของคอมมูดัส และการประมูลบัลลังก์โรมันต่อสาธารณะ หนังเรื่องนี้เล่นได้ราวกับตำนานโรมันตั้งแต่ต้นภาคเรียนในหลายๆ ด้าน จากการค้นคว้าในช่วงเวลาที่ถ่ายทำภาพยนตร์เรื่องนี้ ปรากฏว่าการล่มสลายของจักรวรรดิโรมันไม่ได้ใกล้เคียงกับการถ่ายทอดเหตุการณ์ที่แม่นยำ การล่มสลายของจักรวรรดิโรมันไม่ได้เกิดขึ้นเป็นเวลาอย่างน้อย 200 ปีหลังจากเหตุการณ์เหล่านี้ ในความเป็นจริง ไม่ต้องสงสัยเลยว่าคอมโมดัสจะเป็นจักรพรรดิองค์ต่อไป และมาร์คัส ออเรลิอุสก็สิ้นพระชนม์ด้วยสาเหตุตามธรรมชาติ อย่างไรก็ตาม ตามที่ภาพยนตร์บอกเป็นนัย Commodus ถือเป็นสิ่งที่ตรงกันข้ามกับพ่อของเขาและเป็นจักรพรรดิผู้น่าสงสาร ภาพยนตร์เรื่องนี้แสดงให้เห็นว่าจะเกิดอะไรขึ้นเมื่อโรมตัดสินใจที่จะเพิกเฉยต่อประเพณีของตน เช่น การเคารพต่อ Patria Potestas ความกลัวการรุกรานจากทางเหนือ หรือการให้คุณค่ากับพันธมิตรที่เป็นไปได้ หากภาพยนตร์เรื่องนี้ฉายให้ชนชั้นสูงชาวโรมันในช่วงปลายสาธารณรัฐหรือจักรวรรดิเห็น พวกเขาคงจะชื่นชมการอ้างอิงถึงวัฒนธรรมที่ภาพยนตร์มีความถูกต้อง เช่น การปรึกษาหารือกับสำนักทำนาย ฉันคาดการณ์ว่าชาวโรมันจะถือว่าผลงานของหนังเรื่องนี้เป็นการเตือนว่าจะไม่ปล่อยให้โรมตกสู่สภาพนั้น หากภาพยนตร์เรื่องนี้เป็นเรื่องราวที่เล่าขานในสมัยโรมัน ก็คงจะมีความสำคัญเช่นเดียวกับตำนานการสร้างกรุงโรม