หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังตลก
เรื่องย่อ : My Spy: The Eternal City | พยัคฆ์ร้าย สปายแสบ: คู่ป่วนตะลุยเมืองศักดิ์สิทธิ์ (2024)
ชื่อภาพยนตร์ : My Spy: The Eternal City | พยัคฆ์ร้าย สปายแสบ: คู่ป่วนตะลุยเมืองศักดิ์สิทธิ์
แนว/ประเภท : Comedy, Action
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Peter Segal
บทภาพยนตร์ : Erich Hoeber, Jon Hoeber, Peter Segal
นักแสดง : Dave Bautista, Chloe Coleman, Kristen Schaal
วันที่ออกฉาย : 2024
คู่หูพยัคฆ์ร้ายเปี่ยมพลังกลับมาตามคำเรียกร้อง อดีตเจ้าหน้าที่ซีไอเอ เจเจ (เดฟ บอทิสตา) และลูกเลี้ยงวัย 14 ปีผู้อยู่ในความดูแลของเขา โซฟี (โคลอี้ โคลแมน) กลับมาร่วมมือกันกอบกู้โลก เมื่อทัวร์วงประสานเสียงของโรงเรียนมัธยมปลาย ณ อิตาลีต้องถูกขัดขวางโดยแผนการร้ายนิวเคลียร์ที่มีนครวาติกันเป็นเป้าหมาย
IMDB : tt12930350
คะแนน : 7.1
รับชม : 206 ครั้ง
เล่น : 31 ครั้ง
ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง
ภาคต่อจากหนังบู๊ใส ๆ เรื่องฮิตเมื่อ 4 ปีก่อน กลับมาในฉบับอัปเกรดเวอร์ชันใน "My Spy the Eternal City" ที่เป็นการจับคู่บู๊เดือดระหว่างคู่หูต่างวัย ที่ในภาคนี้เด็กน้อยได้เติบใหญ่กลายเป็นสาวน้อย มาพร้อมกับภารกิจใหม่ที่เสี่ยงอันตรายมากขึ้นแบบยกระดับ แต่อรรถรสความสนุกจะถูกยกระดับตามมาด้วยหรือไม่นะ?
My Spy the Eternal City ค่อนข้างทำได้ดีใช้ได้ ในแง่การปลูกฝันและเชื่อมสัมพันธ์ระหว่างลูกสาววัยรุ่นและพ่อเลี้ยงที่ต้องดูแลกันเพียงลำพัง ถือว่าในจุดนี้หนังมีการเติบโตขึ้นจากหนังภาคแรก แต่ก็เพราะว่าตัวละครนำอายุมากขึ้นและโตขึ้นก็เท่านั้น พล็อตในส่วนนี้ก็เป็นไฮไลต์ที่คนดูก็เคยเห็นมาก่อนในหนังที่ออกฉายช่วง 8-9 ปีที่ผ่านมา การขอคำแนะนำการเลี้ยงลูกวัยรุ่นที่เป็นเส้นเรื่องที่ไม่มีอะไรใหม่เลย
ส่วนอีกประเด็นเกี่ยวกับการก่อการ้ายครั้งใหม่ของหนังภาคนี้ ก็ต้องยอมรับว่าโครงสร้างไม่ต่างกับหนังเกรดบี หรือหนังแผ่นแบบสมัยก่อน ลักษณะเดียวกับหนังที่สร้างออกมาเพื่อฉายทางทีวีในช่วงวันหยุดที่ไม่มีอะไรดู สไตล์ของหนังก็คล้าย ๆ กับ The Pacifier ของ วิน ดีเซล หรือพวกหนังบู๊จากดิสนีย์ที่เน้นครอบครัวไม่เน้นบู๊จริงจัง ช่างเป็นพล็อตที่แสนซ้ำซาก เดาทิศทางได้สบาย ๆ และยังมาพร้อมกับสตอรี่ที่เกิดขึ้นในอิตาลี แบบว่านึกอะไรไม่ออก...ก็ไปอิตาลี
ดังนั้นในภาพรวมแล้ว My Spy the Eternal City เป็นหนังภาคต่อที่เอาจริง ๆ ก็ไม่ต้องสร้างภาคต่อออกมาก็ได้ เพราะกลายเป็นว่าภาคนี้ค่อนข้างเลอะเลือนความสดใสแบบภาคแรกไปเกือบทั้งหมด แทรกเข้ามาด้วยบรรยากาศของการเติบโตของวัยรุ่น และความพยายามจูนให้ติดระหว่างลูกเลี้ยงกับพ่อเลี้ยง ที่พลอยทำให้หนังดูเยิ่นเย้อไปสักหน่อย แต่กระนั้นหนังก็ยังเป็นคอนเทนท์ที่ดูได้เพลิน ๆ เรื่อย ๆ แบบไม่มีจุดเด่นอะไรให้น่าจดจำ ย่อยง่าย สนุกง่าย แต่ไม่ค่อยมีรสชาติมากนัก