ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Left Behind (2014) อุบัติการณ์สวรรค์สั่ง เต็มเรื่อง

ดูหนัง Left Behind (2014) อุบัติการณ์สวรรค์สั่ง เต็มเรื่อง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง Left Behind (2014) อุบัติการณ์สวรรค์สั่ง เต็มเรื่อง

ดูหนัง Left Behind (2014) อุบัติการณ์สวรรค์สั่ง เต็มเรื่อง

 

 

เรื่องย่อ : Left Behind (2014) อุบัติการณ์สวรรค์สั่ง
Left Behind (2014) อุบัติการณ์สวรรค์สั่ง HD เรื่องราวเกี่ยวกับหายนะครั้งใหญ่ของโลก เมื่ออยู่ ๆ ผู้คนบางส่วนก็หายไปอย่างลึกลับ เหลือเพียงเสื้อผ้า ปราศจากร่องรอยหรือสัญญาณเตือนใด ๆ ทำให้ทั่วโลกเหมือนอยู่ในฝันร้าย เมื่อต้องมาเห็นคนสำคัญหายไปต่อหน้าต่อตา และไม่รู้ว่าพวกเขาเป็นตายร้ายดีอย่างไร แถมบ้านเมือยังเสียหาย เพราะรถที่คนขับหายไปเฉย ๆ ยังไปพุ่งชนอาคารบ้านเรือนต่าง ๆ อีกด้วย ทั้งนี้เรื่องความโกลาหลนี้จะถูกถ่ายทอดผ่านตัวเอกบอก 3 คน ได้แก่ เรย์ สตีล นักบินเครื่องจัมโบ้เจ็ท ที่ต้องเป็นเสาหลักหาทางพาผู้โดยสารที่ขวัญเสียทั้งหลายลงสู่พื้น ท่ามกลางสนามบินที่ลุกเป็นไฟเสียหายไปทั่ว ทั้ง ๆ ที่ใจยังคงพะวงอยากโทรหาพูดคุยดูว่าครอบครัวของตัวเองปลอดภัยหรือไม่เป็นครั้งสุดท้าย ส่วนอีกด้าน บั๊ค วิลเลียมส์ นักข่าวชื่อดังก็ติดอยู่ใต้พื้นต่ำกว่า 30,000 ฟุต จึงต้องพยายามหาทางเอาชีวิตรอด และสุดท้ายคือ โคลอี สตีล ลูกสาวของเรย์ที่พยายามตามหาแม่และน้องชายแทนพ่อ‪ หนังมีกำหนดเข้าฉาย 3 ตุลาคมนี้ในอเมริกาครับ

IMDB : tt2467046

คะแนน : 3.1

รับชม : 618 ครั้ง

เล่น : 132 ครั้ง

ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง



Left Behind (2014) อุบัติการณ์สวรรค์สั่ง

movieposter

Left Behind ทำเอาผมอ้าปากค้างไปพอสมควร คือไม่นึกว่าหนังจะออกมาธรรมดาเกินคาดหมายขนาดนี้

เรื่องว่าด้วยจู่ๆ ผู้คนนับล้านก็หายไป เหลือไว้เพียงเสื้อผ้า เหตุการณ์นี้เกิดทั่วไม่ว่าจะในเมืองหรือบนเครื่องบิน ซึ่งเหตุการณ์หลังจากนั้นก็เป็นการพยายามหาคำตอบของคนที่ยังเหลืออยู่ว่ามันเกิดอะไรขึ้นกับคนที่หายไปกันแน่

จำได้ว่าฉบับนิยายมีชื่อเสียงพอสมควร ในบ้านเราก็พูดถึงกันพักหนึ่ง และอันที่จริงนิยายชุดนี้ก็เคยมีการทำออกมาเป็นหนังไตรภาคแล้วรอบหนึ่ง (เป็นหนังลงวีดีโอเลยครับ) ซึ่งฉบับนั้นผมยังไม่เคยดูเลยบอกไม่ได้ว่ารสชาติประมาณไหน แต่กับฉบับนี้บอกได้เลยว่านิ่งมาก

พอเข้าใจครับว่าหนังจะเน้นไปที่ความเชื่อเรื่องพระเจ้า วันพิพากษา และวันสิ้นโลกอะไรประมาณนั้น บทสนทนาในเรื่องก็จะมีประเด็นเหล่านี้ถูกพูดถึงอยู่ตลอด ซึ่งจริงๆ แล้วหากมีการผูกบทสนทนาให้น่าสนใจ ให้มันสะกิดต่อมคิด หรือไม่ก็ไปในเชิงปรัชญาสักหน่อย หนังจะน่าสนใจมากเลยครับ เพราะหนังตั้งคำถามถึงการมีตัวตนของพระเจ้า การตัดสินใจของพระองค์ และอื่นๆ ซึ่งมันเปิดช่องให้เล่นกับความคิดของคนไ้ด้อย่างดี

แต่น่าเสียดายครับที่บทพูดไม่เร้าสมองขนาดนั้น การเดินเรื่องก็ถือว่าเรื่อยๆ ไม่มีจุดเร้าเท่าไรนัก คือถ้าจะมีตอนให้ตื่นเต้นก็คือตอนที่เกิดเหตุคนหายเป็นครั้งแรกนั่นแหละครับ อารมณ์มันก็ดูวุ่นวายและน่าตื่นตระหนกพอใช้ได้ แต่หลังจากนั้นมาหนังกลับไปไม่ถึงไหน ยิ่งบทสนทนาไม่ได้น่าสนใจด้วยแล้ว อะไรๆ มันเลยกลายเป็นความน่าเบื่อไปเสียแทน

จุดที่น่าเสียดายคือหนังสามารถเล่นกับความลึกลับได้ เพราะปมมันเยอะนะครับ จู่ๆ คนหายไป มันเกิดอะไรขึ้น คือแทนที่หนังจะมีการถกเถียงที่ออกรส หนังกลับมีแต่การพูดแบบ “พูดไปอย่างนั้น” เหมือนจะถกแต่ก็ไม่ถก

ก็พอเข้าใจครับว่าสุดท้ายแล้วหนังจะลงเอยสรุปมาที่เรื่องของพระเจ้า แต่อย่างน้อยชั้นเชิงการนำเสนอ ชั้นเชิงการไล่ลำดับเหตุผลก็น่าจะมีมากกว่านี้ หากมีการถกแบบจริงจัง ไล่เรียงเหตุผลความคิดแบบจัดเต็ม แล้วค่อยตลบมาที่เรื่องพระเจ้า หนังก็จะทำให้เราคล้อยตามได้มากกว่าที่เป็น

เสียดายแทน Nicolas Cage ครับ เป็นอีกหนึ่งหนังแป๊กในระยะหลังของเขา แต่อย่างน้อยหนังก็ไม่ถึงกับขาดทุน เพราะลงไป $16 ล้าน ได้คืนมาจากทั่วโลกประมาณ $19.6 ล้าน อย่างน้อยตอนออกแผ่น และตอนขายลิขสิทธิ์ฉายทีวีก็น่าจะได้เงินคืนทุน

ป๋า Cage แกก็ไม่ได้เล่นแย่นะครับ แต่บทไม่เอื้อให้เล่นอะไรเท่าไร ในขณะที่ดาราที่ผมจดจำไกลับเป็น 2 ดาราสาวอย่าง Nicky Whelan ในบทแฮตตี้ แอร์โฮสเตสสาว กับ Cassi Thomson ในบทโคลอี้ ลูกของป๋า Cage ซึ่งพวกเธอสวยครับ น่ารักดี แล้วก็มีบทบาทแสดงอารมณ์ได้โอเคในระดับหนึ่ง

ดูเรื่องนี้แล้วนึกถึง The Man From Earth ขึ้นมาทันที เพราะเป็นหนังที่เน้นพูดแล้วก็มีการกล่าวถึงเรื่องความเชื่อกับเรื่องพระเจ้าเช่นกัน แต่เรื่องนั้นพูดแล้วต่อมคิดทำงานแบบบานตะไท ยิ่งดูยิ่งเพลิน ยิ่งดูยิ่งสนุกคิด แม้จะพูดทั้งเรื่องโดยไม่มี Effect อะไรมาเจือปนแต่ก็ดูสนุกได้ น่าติดตามได้ และลุ้นได้อย่างยอดเยี่ยม (เรื่องนั้นลงทุน $2 แสนเองครับ)

อีกเรื่องก็ The Langoliers ที่ดัดแปลงจากเรื่องสั้นขนาดยาวของ Stephen King เรื่องนั้นก็ว่าด้วยคนหายเช่นกัน แต่การเดินเรื่อง ตามปม และเฉลยปมทำได้ดีกว่ากันมาก

เอาเป็นว่าเรื่องนี้ ผ่านมาแล้วผ่านไปครับ