Shrapnel (2023)

ภาพยนตร์เริ่มต้นด้วยฉากการต่อสู้ในสงครามอิรัก อดีตนาวิกโยธิน เจมส์ ฮาร์เปอร์ (แสดงโดย Bruce Willis) ถูกลูกหลงกระสุนปืนทำให้บาดเจ็บสาหัส เขาได้รับการช่วยเหลือจากเพื่อนร่วมรบอย่าง ไมค์ โคล (แสดงโดย Jason Momoa) และทั้งคู่ก็ได้กลายเป็นเพื่อนสนิทกันหลังจากสงครามผ่านศึกมาด้วยกัน จนกระทั่งหลายปีต่อมา เจมส์กลับมาใช้ชีวิตอย่างสงบสุขกับภรรยาและลูกสาวของเขา วันหนึ่งลูกสาวของเขา เคลลี (แสดงโดย Sofia Pernas) ก็ได้หายตัวไปอย่างลึกลับ ซึ่งเจมส์เชื่อว่ากลุ่มพันธมิตรเม็กซิกันที่ทำงานอยู่ในละแวกนั้นอาจมีส่วนเกี่ยวข้องกับการหายตัวไปของลูกสาวของเขา

เจมส์จึงตัดสินใจออกตามหาลูกสาวด้วยตัวเอง โดยขอให้ไมค์มาช่วยด้วยในครั้งนี้ จนทั้งคู่ก็ได้ออกเดินทางตามหาเคลลี ในระหว่างการเดินทาง ได้เผชิญกับอันตรายมากมาย ทั้งจากกลุ่มพันธมิตรเม็กซิกันและจากเจ้าหน้าที่รัฐที่พยายามขัดขวาง ซึ่งในที่สุดก็พบเคลลีที่กำลังถูกกลุ่มพันธมิตรเม็กซิกันจับตัวไปและถูกบังคับให้ทำงานเป็นโสเภณี เจมส์และไมค์จึงต้องต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรเม็กซิกันเพื่อช่วยเหลือลูกสาวออกมาให้ได้

จุดเด่นของภาพยนตร์เรื่องนี้คือการแสดงของ Bruce Willis และ Jason Momoa ทั้งสองนักแสดงแสดงได้อย่างยอดเยี่ยม โดยเฉพาะฉากแอ็คชั่นที่ต้องต่อสู้กับกลุ่มพันธมิตรเม็กซิกัน ทั้งตื่นเต้นและระทึกใจกับการเป็นคู่หูที่ต่อสู้เคียงบ่าเคียงไหล่กันอย่างเข้าขา ซึ่งตัวหนังยังสะท้อนแง่มุมความรุนแรงในสงครามได้เป็นอย่างดี ที่เจมส์และไมค์ต่างก็ได้รับผลกระทบจากสงคราม เพราะพวกเขาต้องสูญเสียเพื่อนร่วมรบไปมากมาย และต้องเผชิญกับบาดแผลทางจิตใจจากสงครามมาเป็นเวลาหลายปี