Good Grief | ให้ตายเถอะความโศก (2023)

Good Grief เปิดด้วยเรื่องของมาร์คกับโอลิเวอร์ซึ่งเป็นคู่แต่งงานที่ดูรักกันดี ทั้งสองคนจัดปาร์ตี้คริสต์มาส/ปีใหม่ในบ้านที่ลอนดอน เพื่อนฝูงมากันมากโข แต่มาร์คจะมีโซฟีกับโธมัสเป็นสองเพื่อนซี้ที่ก็มาปาร์ตี้นี้ด้วย โอลิเวอร์เป็นนักเขียนและเขาจำเป็นจะต้องออกจากปาร์ตี้นี้ไปเร็วหน่อยเพราะต้องขึ้นเครื่องบินไป book signing ที่ปารีส แต่ปรากฏว่ารถแท็กซี่ที่เขานั่งและเพิ่งวิ่งออกจากบ้านไปไม่ไกลกลับไปมีอุบัติเหตุรถชน และโอลิเวอร์ก็เสียชีวิตทันทีในที่เกิดเหตุ

ชีวิตมาร์คเสียศูนย์ไปในทันทีนับแต่นั้น แต่ก็ยังดีที่มีเพื่อนรักสองคนคอยอยู่เป็นกำลังใจ กาลเวลาผ่านไปไม่นานหลังจากนั้น มาร์คยังไม่ทันจะดีขึ้นนางก็มาค้นพบในโน้ตที่สามีทิ้งไว้ให้ว่า โอลิเวอร์ได้พบกับใครอีกคนและนางอยากลองไปสำรวจตรวจดูความสัมพันธ์ใหม่นี้ ไม่พอ มาร์คยังไปรู้ทีหลังอีกว่าสามีแอบเช่าอพาร์ตเมนต์หลังงามในปารีสไว้หลังหนึ่ง จากที่เศร้าอยู่เลยกลายเป็นโกรธและสับสนเฉย แต่ใด ๆ แล้วนางก็เลยตัดสินใจออกอุบายชวนเพื่อนไปปารีสกันเพื่อไปพักใจโดยไม่ได้บอกเพื่อน ๆ หรอกว่าอะไรเป็นอะไร เพื่อน ๆ ก็เข้าใจกันไปว่า อะ เราจะได้ไปพักผ่อนกันหลังจากอยู่ในอารมณ์เศร้ากันมานานในอพาร์ตเมนต์ที่มาร์คกับโอลิเวอร์เช่าไว้ในปารีส

จากตรงนั้น การผจญภัยของสามเพื่อนซี้ก็เริ่มขึ้น มาร์คมาถึงอพาร์ตเมนต์ในปารีสเพื่อที่จะค้นพบว่า ที่นี่ดูจะเหมือนเป็นรังรักของโอลิเวอร์กับใครอีกคนที่ชื่อลูก้า ในช่วงเวลาเดียวกัน มาร์คก็ได้พบกับหนุ่มฝรั่งเศสอีกคนชื่อเธโอที่เหมือนจะเข้ามาสนใจมาร์ค ส่วนเพื่อนอีกสองคนจริง ๆ แล้วก็มีปัญหาของตัวเองด้วย โธมัสยังไม่ได้พบกับรักที่ดีเท่าไหร่ ส่วนโซฟีเองก็รัก ๆ เลิก ๆ กับหนุ่ม ๆ อีกหลายราย และทำไปทำมา ลูก้าก็ปรากฏตัวขึ้นที่อพาร์ตเมนต์..

ทุกอย่างที่เกิดขึ้น ในที่สุดแล้วล้วนกลายเป็นสิ่งที่นำพาให้มาร์คได้ก้าวไป make peace กับความรักที่ผ่านพ้นและ make peace กับปมของตัวเองด้วย มาร์คเคยเป็น painter แต่หลังจากแม่เสียชีวิตไป มาร์คก็ไม่อาจวาดภาพได้อีกและถอยตัวเองไปเป็น illustrator วาดภาพประกอบหนังสือ นัยว่าอยู่ภายใต้เงาของคนอื่นจะปลอดภัยกว่า แต่หลังจากทุกอย่างที่ผ่านเข้ามาและผ่านพ้นไป มาร์คก็สามารถกลับมาวาดภาพได้ใหม่อีกครั้ง ซึ่งจุดนี้แหละที่น่าสนใจ..

เพราะแดน เลวี่ ซึ่งทุกคนคงรู้จักจากการเป็น creator/writer/actor ของซีรีส์ดังอย่าง Schitt’s Creek และลุกขึ้นมาเขียนบทและกำกับหนังเรื่อง Good Grief เป็นเรื่องแรกในชีวิต เลือกเขียนบทให้ตัวเองแสดงเป็นจิตรกร เขียนเสร็จก็โทรไปชวน Kris Knight จิตรกรตัวจริงชาวแคนาดา (คนบ้านเดียวกับแดน) ที่วาดภาพ portrait สวยมาก ๆ ให้มาเป็น ghost painter ให้กับหนัง สาเหตุที่แดนโทรชวนคริสก็เพราะแดนเป็นแฟนผลงานของคริสและสะสมผลงานของคริสมาเองอยู่แล้ว (อยากทำบ้างเพราะส่วนตัวก็เป็นแฟนผลงานของ Kris Knight ด้วยเหมือนกันและเคยถึงขนาดเขียนอีเมลไปถามราคาภาพของนางมาแล้วและก็พบว่า ไม่สู้จ้า ลาก่อย)

และเมื่อคริสตอบตกลง ภาพวาด portrait ที่เราได้เห็นในหนังทั้งหมด ทั้งในฉากที่ถ่ายในบ้านตัวเอก (ส่วนนี้มีทั้งภาพเก่าที่เราเคยเห็นแล้วและภาพใหม่ที่คริสวาดเพื่อใช้ในหนัง) และในฉากสุดท้ายที่มีนิทรรศการภาพวาดของตัวละครมาร์ค (ส่วนนี้เป็นภาพใหม่หมด) จึงเป็นภาพที่มาจากฝีมือการวาดของ Kris Knight ทั้งหมด โดยส่วนตัวเลยตื่นเต้นไปกับหนังแบบสุด ๆ ในทุกฉากที่ได้เห็นภาพวาดเหล่านี้ (ไม่รวมว่า Kris Knight แอบมี cameo ในฉากสุดท้ายด้วยแบบไม่มีบทพูด) นี่ก็กำลังรอว่า ภาพที่คริสวาดในหนังจะมีทำขายในเวอร์ชัน print ออกมาไหม ถ้ามีก็คิดว่าน่าจะพอซื้อไหว จะได้มีงานของคริสเก็บสะสมไว้บ้างตามอัตภาพ เอิ่ม