ดูหนัง Blade 3 Trinity เบลด 3 อำมหิต พันธุ์อมตะ (2004) เต็มเรื่อง

สัปดาห์นี้ MONO29 จะขอพาชาว Pantip ย้อนรอยกระแสหนังฮีโร่ไปช่วงเปลี่ยนระหว่างยุค 90 สู่ยุค 2000 ซึ่งเป็นช่วงที่วงการหนังต้องตื่นตัวกับกระแสฮีโร่สายดาร์ก อย่างหนังไตรภาคชุด Blade Trilogy !!

Blade เป็นตัวละครฮีโร่สายนักล่าแวมไพร์จากฝั่ง มาร์เวล คอมิกซ์ ที่ถูกแนะนำตัวเป็นครั้งแรกในฐานะตัวประกอบในคอมิกซ์ชุด The Tomb of Dracula ( เดอะทูมป์ ออฟ แดร็กคูล่า ) เมื่อปี 1973 ก่อนจะปรากฎตัวเป็นเรื่องแยกเล็กๆตามคอมิกซ์ขาวดำของมาร์เวลเรื่อยมา จนกระทั่งเบลดได้เปิดตัวกับคอมิกซ์ของตัวเองแถมยังพิมพ์สีทั้งเล่มด้วยใน Blade: The Vampire Hunter เมื่อปี 1994

( Comic book เรื่อง The Tomb of Dracula ปี 1973 )

จังหวะเดียวกันกับที่ Blade มีพื้นที่เป็นของตัวเองในโลกคอมิกซ์ ด้านวงการหนังก็ซุ่มสร้างโปรเจกต์ Blade เช่นกัน จนท้ายที่สุดในปี 1998 ค่าย New Line Cinema ก็เปิดตัวหนัง Blade เรื่องแรกออกมา โดยได้ดาวแอ็กชั่นรุ่นใหญ่ Wesley Snipes ( เวสลีย์ สไนปส์ ) มารับบทเป็น เบลด นักล่าแวมไพร์สุดโหดแห่งค่ายมาร์เวล ซึ่งเขาได้สร้างเสน่ห์ให้กับ เบลด ไว้ได้อย่างทรงพลัง ทั้งลีลาการแสดงและฉากบู๊ต่างๆที่มันส์ถึงใจทั้งแฟนหนังและแฟนคอมิกซ์ จนบุคลิกของเขากลายเป็นต้นแบบให้กับ เบลด ในคอมิกซ์ยุคถัดมาด้วย

( ภาพยนตร์ Blade ปี 1998 )

( Blade ในภาพยนตร์ - Blade ใน Comic book)

จากที่มีการสบประมาทไว้ว่าหนังคงเหมือนฮีโร่เกรดต่ำทั่วไป กลายเป็นว่า Blade เปิดตัวได้โด่งดังไม่แพ้หนังบล็อกบัสเตอร์ฟอร์มยักษ์ กระแสความดังของ Blade ได้ส่งผลให้เกิดการสร้างภาคต่อทั้ง Blade II และ Blade: Trinity ตามออกมาติดๆ ที่สำคัญหนังได้กรุยทางให้กลุ่มซูเปอร์ฮีโร่สายดาร์กได้มีวิวัฒนาการต่อมา จนถึงปัจจุบัน Blade จึงเป็นหลักฐานยืนยันในยุคนั้นได้ว่า ฮีโร่สายดาร์กก็เป็นหนังดังได้ แถมยังได้ตังค์อีกด้วย

นอกจากจะเบิกทางให้กับแวดวงซูเปอร์ฮีโร่สายดาร์กบนโลกภาพยนตร์แล้ว หนังยังเป็นผลงานสร้างชื่อให้กับคนทำหนังสายดาร์กคุณภาพยุคปัจจุบันด้วยอย่าง David S. Goyer ( เดวิด เอส โกเยอร์ ) ที่รับหน้าที่เป็นคนเขียนบทหนังให้ Blade ครบ ทั้ง 3 ภาค และลงมือกำกับเองใน Blade: Trinity ปัจจุบันเขาก็กลายเป็นมือเขียนบทคนสำคัญของจักรวาลหนังฮีโร่ค่าย ดีซี คอมิกซ์ เริ่มตั้ง แต่ Batman Begin ลากยาวมาถึง Batman vs. Superman กันเลยทีเดียว

( David S. Goyer )

อีกคนที่ไม่พูดถึงไม่ได้ก็คือ Guillermo del Toro ( กิลเยร์โม เดล โตโร่ ) ผู้กำกับจาก Blade II ที่อวดวิสัยทัศน์ความดาร์กตั้งแต่เรื่องนี้ และปัจจุบันเขาก็ถูกยกย่องให้เป็นผู้กำกับสายดาร์กอันดับต้นๆของวงการ ทั้งผลงานต่อมาอย่าง Hellboy, Pan’s Labyrinth จนถึง The Shape of Water ที่ส่งให้เขาไปไกลถึงขั้นคว้ารางวัลผู้กำกับยอดเยี่ยมจากเวทีออสการ์มาแล้ว