ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง The Ides of March การเมืองกินคน (2011) เต็มเรื่อง

ดูหนัง The Ides of March การเมืองกินคน (2011) เต็มเรื่อง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง The Ides of March การเมืองกินคน (2011) เต็มเรื่อง

เรื่องย่อ : The Ides of March การเมืองกินคน (2011)

สตีเฟ่น เมเยอร์ส ผู้จัดการหาเสียงหนุ่ม ที่ทำงานให้กับไมค์ มอร์ริส ผู้ว่าการรัฐเพนซิลเวเนีย และผู้เข้าชิงตำแหน่งตัวแทนพรรคเดโมแครต เพื่อเข้าแข่งขันเลือกตั้งประธานาธิบดี ที่มีคู่แข่งหลักอย่างวุฒิสมาชิก เท็ด พูลแมนจากรัฐอาร์คันซอ การรณรงค์หาเสียงของทั้งสองฝ่ายต่างก็ต้องการการสนับสนุนจากวุฒิสมาชิกพรรคเดโมแครต แฟรงกลิน ทอมสันจากรัฐนอร์ธแคโรไลนา ที่ควบคุมคะแนนเสียงในที่ประชุมกว่า 356 เสียง ซึ่งเพียงพอที่จะทำให้ฝ่ายใดฝ่ายนึงชนะอย่างเด็ดขาด หลังจากการโต้วาทีที่มหาวิทยาลัยไมอามี ผู้จัดการหาเสียงของพูลแมน ทอม ดัฟฟี่ เข้ามาติดต่อเพื่อขอพบเมเยอร์สอย่างลับๆ เมเยอร์สจึงโทรหาเจ้านายของเขา พอล ซาร่า ซึ่งเป็นผู้จัดการหาเสียงอาวุโส แต่พอลไม่ได้รับสาย เมเยอร์สจึงตัดสินใจพบกันดัฟฟี่ โดยดัฟฟี่เสนอตำแหน่งในการรณรงค์หาเสียงของพูลแมนแต่เมเยอร์สปฏิเสธ เมื่อซาร่าโทรกลับมาถามว่ามีอะไรสำคัญ เมเยอร์สจึงตอบไปว่าไม่มีอะไรต้องเป็นกังวล ในขณะเดียวกัน เมเยอร์สเริ่มความสัมพันธ์เชิงชู้สาวกับมอลลี่ สเติร์นส์ เด็กฝึกงานสาวสวยที่ทำงานในการรณรงค์หาเสียงของมอร์ริส และลูกสาวของแจ็ค สเติร์นส์ ประธานคณะกรรมการแห่งชาติของพรรคเดโมแครต

ต่อมาเมเยอร์สยอมรับกับซาร่าว่าเขาพบกับดัฟฟี่ โดยดัฟฟี่บอกว่าพูลแมนจะเสนอตำแหน่งรัฐมนตรีกระทรวงการต่างประเทศให้กับทอมสัน ทำให้แน่ใจได้ว่าพูลแมนจะชนะอย่างแน่นอน ซาร่ากับเมเยอร์สจึงเข้าไปคุยกับมอร์ริสเพื่อโน้มน้าวให้เขายื่นข้อเสนอเดียวกันให้กับทอมสันเพื่อรับรองการสนับสนุนและคะแนนเสียงของผู้แทน มอรร์สปฏิเสธบนหลักการเนื่องจากไม่เห็นด้วยกับทอมสันและนโยบายของเขา และเพราะต้องการให้การรณรงค์หาเสียงเป็นไปอย่างใสสะอาด

ต่อมาตอนดึกวันหนึ่งขณะที่มอลลี่หลับอยู่ เมเยอร์สเห็นมอร์ริสพยายามจะโทรหาเธอหลังจากที่เขารับโทรศัพท์ของเธอโดยบังเอิญ เมเยอร์สจึงรู้ว่ามอลลี่กับมอร์ริสเคยมีความสัมพันธ์ชั่วข้ามคืนกันเมื่อก่อน เมื่อตอนหยุดพักหาเสียงที่รัฐไอโอวาเมื่อหลายสัปดาห์ก่อน และตอนนี้มอลลี่ก็ตั้งท้องกับท่านผู้ว่าฯ ซึ่งเสี่ยงต่อการตกเป็นข่าวฉาว เมเยอร์สจ่ายเงินให้เธอเอาไปทำแท้งแล้วเตือนไม่ให้เธอบอกใคร นอกจากนี้เขายังไล่มอลลี่ออกจากการรณรงค์หาเสียงเพื่อหาแน่ใจว่าเธอจะไม่ปริปาก ไอด้า โฮโรวิคซ์ ผู้สื่อข่าวจากหนังสือพิมพ์นิวยอร์กไทมส์ เปิดเผยกับเมเยอร์สว่ามีแหล่งข่าวนิรนามปล่อยข่าวการพบปะของเขากับดัฟฟี่กับเธอ และขู่ว่าจะตีพิมพ์เรื่องนี้นอกจากเมเยอร์สจะเปิดเผยรายละเอียดทั้งหมดเกี่ยวกับการพบปะครั้งนั้น

ด้วยเหตุนี้ เมเยอร์สจึงมาหาซาร่าเพื่อขอความช่วยเหลือ ด้วยความกลัวว่าข่าวนี้จะทำลายชื่อเสียงของเขา, ของซาร่า และของการรณรงค์หาเสียงโดยภาพรวม ซาร่าจึงเปิดเผยว่าเขาเองเป็นคนที่ปล่อยข่าวให้กับไอด้า ด้วยความเห็นชอบของมอร์ริส เพื่อบังคับให้เมเยอร์สลาออกจากการรณรงค์หาเสียง โดยให้เหตุผลว่าเมเยอร์สไม่ซื่อสัตย์ที่แอบไปพบกับดัฟฟี่ ซาร่าบอกว่านี่ไม่ใช่เรื่องส่วนตัว แต่ทำไปเพราะเสียความเชื่อมั่นในเมเยอร์ส เมเยอร์สที่จนตรอกจึงเข้าหาดัฟฟี่ เพื่อเสนอความช่วยเหลือ แต่ดัฟฟี่สารภาพว่าที่เขานัดพบกับเมเยอร์สก็เพื่อต้องการทำให้การรณรงค์ของคู่แข่งปั่นป่วนเท่านั้น โดยหวังว่าเมเยอร์สจะลาออกมาทำงานก็เขา หรือไม่ก็ถูกซาร่าไล่ออก

ดัฟฟี่เปิดเผยว่าเขาคาดว่าเมเยอร์สจะบอกกับซาร่าเรื่องการพบกันลับๆ ซึ่งจะทำให้ซาร่าหาทางกำจัดเมเยอร์สออกจากการรณรงค์หาเสียง ส่งผลให้การรณรงค์หาเสียงของมอร์ริสแผ่วลง และทำให้การรณรงค์หาเสียงของพูลแมนเข้มแข็งขึ้น ด้วยเหตุที่ว่าซาร่าไล่เมเยอร์สออกไปแล้ว เขาจึงไม่มีเหตุผลอื่นใดที่จะจ้างเมเยอร์สอีก ดัฟฟี่ขอโทษเมเยอร์สกับเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น และแนะนำให้เมเยอร์สวางมือจากวงการนี้เสียก่อนที่จะเป็นคนเห็นแก่ตัวเหมือนกันเขา เมเยอร์สยื่นข้อเสนอที่จะหักหลังมอร์ริสอย่างเต็มตัว แต่ดัฟฟี่ปฏิเสธเพราะคิดว่าเมเยอร์สทำร้ายมอร์ริสไม่ได้แล้ว และมั่นใจว่าทอมสันจะชนะอย่างแน่นอน ในขณะเดียวกัน มอลลี่ที่รู้ว่าเมเยอร์สถูกไล่ออก ด้วยความกลัวว่าเมเยอร์สจะเปิดโปงเรื่องของเธอ มอลลี่จึงกินยาเกินขนาดจนเสียชีวิต เมเยอร์สที่เพิ่งรู้ตัวว่าถูกทั้งสองฝั่งหลอกใช้ จึงตั้งใจที่จะเล่นงานทั้งสองฝ่ายเพื่อเป็นการแก้แค้น

เมเยอร์สแอบไปพบกับทอมสัน ในนามของมอร์ริสเพื่อต่อรองขอเสียงคะแนนจากทอมสันเพื่อแลกกับตำแหน่งรองประธานาธิบดีข้างมอร์ริส ทอมสันแสดงออกอย่างชัดเจนอยากอยู่กับมอร์ริสมากกว่าพูลแมนและตอบตกลงกับเมเยอร์ส ต่อมาเมเยอร์สพบกับมอร์ริสในบาร์ โดยขู่ว่าจะแฉเรื่องอื้อฉาวกับมอลลี่ถ่ามอร์ริสไม่ยอมรับข้อเสนอของเขา โดยให้ไล่ซาร่าออก, แต่งตั้งเมเยอร์สเป็นผู้ดูแลการรณรงค์หาเสียงคนใหม่ และมอบตำแหน่งรองประธานาธิบดีให้กับทอมสัน มอร์ริสยืนยันว่าไม่มีหลักฐาน แต่เมเยอร์สอ้างว่ามีจดหมายลาตายอยู่ในห้องของมอลลี่ที่จะเปิดโปงเรื่องทั้งหมด มอร์ริสจึงยอมแต่โดยดี ซาร่าถูกไล่ออกแต่ยอมรับด้วยความเข้าใจ

ที่งานศพของมอลลี่ ซาร่าเข้าหาเมเยอร์สอย่างเป็นมิตร โดยบอกเมเยอร์สว่าเขารู้ว่าเมเยอร์สต้องมีอะไรที่ใหญ่พอจะทำให้มอร์ริสให้ไล่ซาร่าออกและจ้างเมเยอร์สแทน หลังจากซาร่าถูกไล่ออกจึงไปรับงานที่ปรึกษาปีละล้านเหรียญ ซึ่งตัวเขาเองพอใจและถือว่าเป็นการเกษียณตัวเองจากการเมือง ต่อมาการสนับสนุนจากทอมสันทำให้มอร์ริสกลายเป็นตัวแทนของพรรคไปโดยปริยาย แม้ว่าจะแพ้การเลือกตั้งหาตัวแทนที่รัฐโอไฮโอ ดัฟฟี่ที่ทำให้เมเยอร์สจนตรอกและปฏิเสธข้อเสนอสุดท้ายของมอร์ริสพยายามปั้นหน้าให้ดูดีแม้ว่าจะรู้ชัดแล้วว่าคนที่เขาทำงานให้จะต้องแพ้

เมเยอร์สในตำแหน่งผู้จัดการรณรงค์หาเสียงอาวุโส กำลังเดินทางไปสัมภาษณ์ทางโทรทัศน์กับจอห์น คิง เมื่อไอด้ามาหายังไม่ทันตั้งตัว และบอกว่าบทความต่อไปของเธอจะเกี่ยวกับเรื่องราวที่เมเยอร์สก้าวขึ้นมาถึงจุดนี้และมอบชัยชนะให้กับมอร์ริส เมเยอร์สตอบสนองด้วยการให้ รปภ. ห้ามเธอไม่ให้เข้ามาใกล้ ต่อมาเมื่อมอร์ริสกำลังกล่าวสุนทรพจน์ว่าด้วยความสำคัญของความซื่อสัตย์และศักดิ์ศรี เมเยอร์สที่ถูกถามเพื่อขอความเห็น จึงเล่าถึงเหตุการณ์ที่เกิดขึ้น

IMDB : tt1124035

คะแนน : 7.1

รับชม : 182 ครั้ง

เล่น : 31 ครั้ง

ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง



The Ides of March การเมืองกินคน (2011)

ใครจะไปเชื่อว่าผู้อำนวยการสร้าง และกำกับภาพยนตร์ The Ides of March นั้นคือ George Clooney ที่ในภาพยนตร์เองก็ได้ร่วมแสดงเช่นกันในบทของ วุฒิสมาชิก Mike Morris นักการเมืองที่กำลังเข้าชิงตำแหน่งประธานาธิปดีของฝั่ง Democrat ที่กำลังอยู่ในช่วงห้ำหั่นกับฝ่ายตรงข้าม และกำลังเข้าตาจนในแง่ของนโยบายที่ยังอ่อนกว่า และความดื้อรั้น และเต็มไปด้วยเล่ห์เหลี่ยมของตัวเอง จนต้องพึ่งพา ตัวเอกของเรื่อง Stephen Meyers นำแสดงโดยนักแสดงหนุ่มมาดดีอย่าง Ryan Gosling ที่ปรึกษาด้านภาพลักษณ์ และนักวางแผนการหาเสียงที่กำลังไปได้สวยในสายงานการเมือง ซึ่ง Stephen เองก็เป็นเด็กปั้นของ Paul Zara นำแสดงโดย Phillip Seymour Hoffman เจ้าของรางวัลออสการ์ที่เป็นเสมือนกุญซือตัวหลักของ Morris

เรื่องราวหลักๆ ตีแผ่ที่ไปบทบาทของ Stephen ที่ถ่ายทอดการเปลี่ยนแปลงของตัวละคร ที่เป็นคนคนหนึ่งที่เชื่อมั่นในตัวคนคนหนึ่ง แต่เมื่อต้องรู้ความจริงในแง่มุมการเมือง และตัวตนของนักการเมืองในหลายๆ เรื่อง อีกทั้ง กลุ่มของสื่อมวลชนที่ผยองกับการกุมภาพลักษณ์ของนักการเมือง ตัวละครของ Stephen เข้าข่ายถูกกลืนกินจิตวิญญาณ และอุดมการณ์ไปอย่างหมดสิ้น ไปจนถึงสูญเสียแม้กระทั่งงาน และหน้าที่ที่เขารัก สูญเสียคนรักที่เขามี แม้ว่าจุดประสงค์หลักของเธออาจจะใช้ Stephen เป็นเครื่องมือในการดึง Morris ให้กลับมาสนใจเธอบ้างก็ตาม ซ้ำร้ายยังต้องประมือกับคู่แข่งนักวางแผนกุนซือฝ่ายตรงข้ามอย่าง Tom Duffy นำแสดงโดย Paul Giamatti ยิ่งทำให้ Stephen รู้ดีกว่าเดิมว่า จุดที่เขายืนอยู่นั้นคือสงครามที่โหดร้ายกว่าสงครามไหนๆ และยังทำให้ Stephen ต้องเรียนรู้และถูกทดสอบในเรื่องราวต่างๆ มากมายในเกมการเมือง

เมื่อครั้งที่ Stephen ถูกทดสอบด้วยความซื่อสัตย์ Tom ได้วางแผนล่อลวงให้เขามาพบ ด้วยประเด็นที่ชวนสงสัยทั้งที่ไม่มีอะไรเลย แต่แผนที่ซับซ้อนคือการเล่นกับ ทัศนคติของ Paul ที่ยึดมั่นกับอุดมการณ์ของความซื่อสัตย์ และไว้ใจ ด้วยเหตุนี้ทำให้ Paul ไม่สามารถเชื่อใจ Stephen ได้อีก ทำให้ Stephen ต้องเสียงานที่เขารักไป

เรื่องของความผิดหวัง พอ Stenphen ต้องเสียงานที่เขาทุ่มเทให้ นึกจะกลับไปเอาคืนก็เลยเข้าไปสมัครงานกับ Tom Duffy เพื่อที่จะเอาชนะ แต่กลับต้องผิดหวังต่อเนื่องเมื่อ Tom บอกแค่ว่าทุกสิ่งคืออุบาย แผนการสกปรกที่สามารถเขี่ยคนเก่งออกไปจากฝ่ายตรงข้าม Stephen ต้องถูกปฏิเสธงานเป็นครั้งที่ 2 แม้ว่าจะต้องการเอาชนะทีมเก่าก็ตาม

 

ในแง่ของความรัก Stephen เองก็ถูกทดสอบ เหตุการณ์ความรักแบบหลบๆ ซ่อนๆ ระหว่างเขากับเด็กฝึกงาน Molly Stearns (Evan Rachel Wood) ต้องซับซ้อนเมื่อกลางดึกคืนหนึ่ง วุฒิสมาชิก Morris โทรศัพท์เข้ามาที่เครื่องของ Molly และเป็นวันที่ Stephen รู้ดีว่า Molly กำลังตั้งท้องกับวุฒิสมาชิก และตัววุฒิสมาชิกก็มีครอบครัวแล้วซึ่งเหตุการณ์นี้จะทำให้ Molly เป็นภัย และภาพลักษณ์ของวุฒิสมาชิก Morris เองก็จะเสื่อมเสียทำให้ไม่สามารถชนะเกมการเมืองนี้ได้ ทางออกของ Molly คือการเอาเด็กออก และ Stephen ก็ต้องจำใจ แต่สุดท้ายเกิดเหตุการณ์ไม่คาดฝัน Molly ต้องมารับรู้เรื่องราวร้ายๆ ของ Stephen กับการตกเป็นเหยื่อของเกมการเมือง 2 ฝ่าย

โศกนาฎกรรม ก็ได้เกิดขึ้น…

จะเห็นว่า Stephen แทบจะเป็นตัวละครที่ซวยทั้งเรื่อง ทั้งเรื่องอุดมการณ์ที่เชื่อมั่นในชายคนหนึ่ง ต้องเสียไปเพราะชายที่เขาเชื่อก็ไม่เคยละฃสันดานของนักการเมือง พอมีอำนาจก็ลืมตัว ความเชื่อใจจากเพื่อนอย่าง Paul ก็โดนทำลายเพราะความประมาทในการตกเป็นเบี้ยในเกมให้กับ Tom ทุกอย่างเลยร้ายไม่มีทางออกไปหมด

แต่… เกมการเมืองได้สอนให้ Stephen ได้รู้ถึงสัจธรรมบางอย่าง โศกนาฏกรรมที่เกิดระหว่าง เขาและ Molly คือเงื่อนไขในการจัดการกับ Morris แบบ Win Win เอาชนะ Tom ได้อย่างลอยตัว แม้ว่าเขาจะต้องทำลายคนดีๆ คนหนึ่งอย่าง Paul ไปก็ตาม แต่เพราะนี่คือเกมการเมือง และการเมืองนั้นไม่มีอะไรที่จริงแท้ไม่ว่ามิตร หรือศัตรู

 

เรื่องราวของ The Ides of March ตีแผ่ประเด็นของการเมือง ความทะเยอทะยานของทุกตัวละคร ความซื้อสัตย์ที่แสดงให้เห็นในภายหลังแล้วว่า Paul ไม่ควรยึดมั่นในสิ่งนี้มากเกินไป Paul คือตัวละครคนดี คนซื่อสัตย์คนหนึ่ง ที่ต้องโดนผลกระทบจากการเปลี่ยนแปลงการเมือง ที่เกิดได้จริงเสมอในสังคมแห่งนี้ และ Morris เองก็คือตัวละครคนหนึ่งที่ต้องรู้ว่าแท้จริงแล้ว ตัวเขาเองไม่ใช่คนที่กุมอำนาจ

เพราะ The Ides of March ได้บอกเราผ่านหน้าปก หรือโปสเตอร์ของภาพยนตร์ชัดเจนแล้วว่า ผู้กุมอำนาจของนักการเมืองคือกุนซือหรือที่ปรึกษาการเมืองต่างหาก (เหมือนรัฐบาลที่มีนายกเป็นหุ่นเชิดยังไงไม่รู้)

การเมือง มันกินคน ยังงี้นี่เอง!

จัดไป 7.5/10 คะแนน (อีกนิดก็ยอดเยี่ยมแล้ว)

เกล็ดความรู้ The Ides of March วันที่ 15 มีนาคม เป็นวันที่จูเลียด ซีซาร์ โดนรุมแทงตายคารัฐสภา และฝรั่งเขาถือว่าในวันที่ 15 มีนาคม มักจะไม่จัดการประชุมอะไรสักเท่าไร (จาก Blog: GTNewsThailand)