หมวดหมู่ : หนังสยองขวัญ , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : ดูหนัง The Devil Inside หนัง สืบสยอง หลอนอำมหิต 2012 เต็มเรื่อง
ในปี 1989 หน่วยฉุกเฉินได้รับโทรศัพท์แจ้งเหตุร้ายจากมาเรีย รอสซี (ซูซาน โครว์ลีย์) ที่สารภาพว่าเธอได้ฆ่าคนสามคนอย่างทารุณ 20 ปีให้หลัง อิซาเบลลา (เฟอร์นันดา แอนเดรด) ลูกสาวของเธอได้พยายามทำความเข้าใจกับความจริงของสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น เธอเดินทางไปโรงพยาบาลเซ็นทริโนสำหรับอาชญากรจิตบกพร่องในอิตาลี ที่ซึงแม่ของเธอถูกคุมขังไว้เพื่อตัดสินใจว่าแม่ของเธอมีอาการป่วยทางจิตหรือถูกปีศาจสิงสู่กันแน่ เมื่อเธอจ้างหมอผีหนุ่มสองคน (ไซมอน ควอเตอร์แมน และ อีวาน เฮลมุธ) ให้รักษาแม่ของเธอด้วยการใช้วิธีพิสดาร ที่ผสมผสานทั้งศาสนาและวิทยาศาสตร์เข้าด้วยกัน พวกเขาก็ต้องเผชิญหน้ากับปีศาจร้ายทรงพลังสี่ตนที่สิงอยู่ในร่างของมาเรีย
IMDB : tt1560985
คะแนน : 4.2
รับชม : 5133 ครั้ง
เล่น : 2352 ครั้ง
ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง
ความพิเศษของภาพยนตร์ที่ใช้เทคนิคการเล่าเรื่องแบบ found footage นั้น เสมือนหนึ่งกระตุ้นอารมณ์คนดูให้รู้สึกว่าเหตุการณ์ที่เห็นทางจอนั้นเป็นเหตุการณ์จริงมุมกล้องภาพที่ปรากฏ นั้นเกิดขึ้นจริง แม้จะไม่โฟกัสภาพสายไปสายมาแต่เราก็สัมผัสได้ถึงอารมณ์ความรู้สึกความหวาดกลัวที่เกิดขึ้นในภาพยนตร์ บางครั้งอาจจะทำให้รู้สึกสมจริงกว่าภาพยนตร์แบบปกติก็ได้ ซึ่ง The Devil Inside ค่อนข้างทำได้อย่างสมจริงเลยทีเดียว
แน่นอนว่าภาพยนตร์แนวไล่ปีศาจจุดเด่นของเรื่องก็คือวิธีการและเหตุการณ์ตอนไล่ปีศาจ ซึ่งใน The Devil Inside ก็แทบจะไม่แตกต่างกับภาพยนตร์เรื่องอื่นในแนวทางเดียวกัน แต่สำหรับผมรู้สึกว่าปีศาจในภาพยนตร์เรื่องนี้ มีความเฮี้ยนหนักกว่าหนังเรื่องอื่น ตรงที่ปีศาจไม่ใช่สิงในร่างคนเพียงต้นเดียวแต่สิ่งของสีตนไล่ยังไงก็ไม่ออก แถมยังมีความพิเศษตรงที่ปีศาจจะออกจากร่างนี้ไปเข้าร่างนี้หรือร่างใครก็ได้ โดยที่ไม่สามารถป้องกันอะไรได้เลย ดังนั้นความหวาดกลัวสยองขวัญจึงไม่ได้ มีจุดอยู่ตรงการไล่ปีศาจเพียงอย่างเดียว แต่อยู่ตรงที่ผลกระทบกับบุคคลรอบข้างอีกด้วย
ผมอาจรู้สึกไปเองว่า นักแสดงนำที่เล่นบทถูกปีศาจเข้าสิงไม่ว่าจะเป็นเรื่องไหนก็ตามรู้สึกว่าแต่ละคนนั้นเล่นดีไปซะหมดเลย และใน The Devil Inside คนที่รับบทถูกปีศาจสิงก็เล่นดีไม่แพ้กับภาพยนตร์เรื่องไหน โดยเฉพาะ ซูซาน โครลีย์ ผู้รับบทเป็น มาเรีย รอสซี่ แม่ผู้ถูกปีศาจเข้าสิงถ่ายทอดทางอารมณ์ ความรู้สึก ความหวาดกลัวความเจ็บปวดได้ยอดเยี่ยมเลยทีเดียว
#สัญลักษณ์ไม้กางเขนและไม้กางเขนกลับหัว
หนังเรื่องนี้ได้นำเสนอสัญลักษณ์เกี่ยวกับซาตานคือ สัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัว ซึ่งแต่เดิมไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญและเก่าแก่รวมถึงแพร่หลายที่สุดของศาสนาคริสต์ เพราะพระคริสต์ทรงถูกสังเวยด้วยไม้กางเขน เป็นสัญลักษณ์ของการชดใช้บาป การไถ่บาปให้มนุษย์ ความรอดจากบาป รวมถึงนักบุญคนสำคัญของศาสนาคริสต์คือเปโตรก็ถูกสังเวยชีวิตด้วยการตรึงไม้กางเขน แต่เป็นการตรึงไม้กางเขนกลับหัว เพราะเหตุผลที่ว่าท่านไม่อยาก เทียบเท่าเสมอกับพระคริสต์ จึงให้ทหารชาวโรมัน ตรึงกางเขนแล้วปักหัวลง เนื่องจากชาวคริสต์ยกย่องให้ นักบุญเปโตรเปรียบเสมือนกับสันตะปาปาองค์แรกดังนั้นไม้กางเขนกลับหัวจึงเป็นหนึ่งในสัญลักษณ์ของสันตะปาปาด้วย
ไม้กางเขนมีหลากหลายรูปแบบ ท่านสาธุคุณ จอห์น เฟอร์กูสัน ผู้เเขียนหนังสือเรื่อง "เครื่องหมายและสัญลักษณ์ในคริสตศิลป์" Signs and Symbols in Christian Art ได้อธิบายถึงไม้กางเขน ว่ามีทั้งแบบลาตินกับไม้กางเขนแบบกรีก คือ
ไม้กางเขนแบบลาติน (Latin Cross) คือไม้กางเขนที่เราเห็นโดยทั่วไปในปัจจุบันไม้ทางตั้งจะยาวกว่าไม้ทางนอน เป็นสัญลักษณ์ของการทรมานหรือการไถ่บาปให้มวลมนุษย์ของพระคริสต์ บางครั้งมีการทำจุดสีแดง 5 จุดหรือติดอัญมณี 5 เม็ดไว้บนไม้กางเขนเป็นสัญลักษณ์ของบาดแผล 5 แห่งของพระคริสต์ที่ทรงได้รับจากการตรึงกางเขน
ไม้กางเขนแบบกรีก (Greek Cross) เป็นไม้กางเขนที่ไม้แนวตั้งและแนวนอนมีความยาวเท่ากัน ใช้เป็นสัญลักษณ์ที่สื่อถึงคริสตจักรมากกว่าเป็นสัญลักษณ์ของพระคริสต์
นอกจากนี้ยังได้จำแนกไม้กางเขนแบบต่าง ๆ ที่น่าสนใจคือไม้กางเขนของนักบุญอันดรูว์ (St. Andrew Cross) เป็นไม้กางเขนที่ไม้ทั้ง 2 อันตัดกันเป็นรูปตัว X โดยมีต้นทางมาจากนักบุญอันดรูว์เมื่อครั้งถูกตรึงกางเขนท่านได้ขอให้ถูกตรึงกางเขนให้มีลักษณะต่างไปจากพระคริสต์เพราะคิดว่าไม่ควรตีตนเสมอ พระมหาไถ่แม้แต่ยามที่ได้รับการทัณฑ์ทรมาน ดังนั้นไม้กางเขนรูปตัว X จึงเป็นสัญลักษณ์ของการถ่อมตนอีกด้วย
ไม้กางเขนของอียิปต์ (Egeyptian Cross) ลักษณะของไม้กางเขนจะมีรูปร่างเหมือนตัวอักษร T เรียกอีกอย่างหนึ่งคือไม้กางเขนแห่งพันธสัญญาเดิม เชื่อกันว่าในสมัยที่โมเสส ได้นำชาวยิวเดินทางเร่ร่อนข้ามทะเลแดงมาสู่ดินแดนอิสราเอลในปัจจุบันท่านได้ใช้ไม้กางเขนแบบอียิปต์นี้ประวัติงูขึ้นมา เป็นการพยากรณ์ล่วงหน้าว่าพระคริสต์จะถูกยกขึ้นบนไม้กางเขน อีกทั้งยังเป็นเครื่องหมายประจำตัวของนักบุญฟิลลิป เนื่องจากมีเรื่องเล่าว่าท่านได้รับทัณฑ์ทรมานด้วยการตรึงบนไม้กางเขนแบบนี้
ไม้กางเขนในศาสนพิธี (Ecclesiastical Crosses) เป็นไม้กางเขนแบบประยุกต์ใช้บอกสมณศักดิ์ มีไม้กางเขนแบบ 2 ชั้นใช้สำหรับพระสังฆราชและพระอัครสังฆราชและไม้กางเขนแบบสามชั้นจะใช้กับพระสันตะปาปาเท่านั้น
เฟอร์กูสัน ยังได้อธิบายถึงไม้กางเขนประจำตัวนักบุญคนสำคัญยกตัวอย่างเช่นนักบุญจอห์นแบปทิสต์ ถือไม้กางเขนที่ทำจากต้นอ้อ นักบุญเฮเลน่าถือไม้กางเขนที่มีรูปเทวทูตช่วยประคอง หรือไม่ต้องเขียนที่อยู่กับค้อนและตะปู นักบุญแอนโทนี่ ถือไม้กางเขนดอกไม้ นักบุญแคทเธอรีนถือไม้กางเขนดอกลิลลี่ นักบุญจอห์จ และนักบุญอูร์ซูลา มีธงรูปไม้กางเขนสีแดง
นอกจากนี้ไม้กางเขนยังถูกนำมาใช้เป็นสัญลักษณ์ของนักรบเนื่องในศาสนาในช่วงยุคกลางและช่วงสงครามครูเสส กล่าวคือนับตั้งแต่ก่อตั้งกรุงเยรูซาเล็มในปี 1099 โดยกษัตริย์ฝรั่งเศสแล้ว ต่อมาได้มีกลุ่มอัศวิน ทำหน้าที่ในการปกป้องคุ้มครองกรุงเยรูซาเล็มรวมถึงปกป้องคุ้มครองผู้ที่เดินทางมาแสวงบุญ เรียกอัศวินเทมพลาร์ จะแต่งกายด้วยชุดสีขาวมีสัญลักษณ์ไม้กางเขนสีแดง รูปกากบาทมีความยาวแนวตั้งและแนวนอนเท่ากัน อยู่ที่หน้าอกและโล่ รวมถึงที่ธง โดยเฉพาะในช่วงสงครามครูเสดนักรบที่อยู่ฝั่งคริสเตียนก็จะแต่งกายที่มีเครื่องหมายไม้กางเขนสีแดงประดับ และมีการนำไม้กางเขนขนาดใหญ่ ในการเข้าร่วมสงครามด้วยเสมือนหนึ่งกำลังใจให้กับนักรบฝั่งคริสเตียน เพื่อรบในสงครามครูเสด เพื่อปกป้องดินแดนศักดิ์สิทธิ์ ดินแดนแห่งพระเจ้า ถือว่าเป็นสงครามศักดิ์สิทธิ์
นอกจากนี้ลักษณะแผนผังของสถาปัตยกรรมประเภทอาสนวิหารในยุโรป หากมองจากด้านบนลงมาด้านล่าง (Bird Eye View) โดยมากจะมีแผนผังรูปทรงแบบไม้กางเขน อันเป็นการแสดงถึงความศักดิ์สิทธิ์ของอาสนวิหาร ที่สร้างขึ้นเพื่อ ใช้ในการนมัสการ เฉลิมพระเกียรติพระคริสต์และพระเจ้า
ดังนั้นไม้กางเขนไม่ว่าจะเป็นแบบปกติหรือกลับหัวลง นับเป็นสัญลักษณ์ที่สำคัญของพระคริสต์และศาสนาคริสต์อย่างแท้จริง
แต่เนื่องจากคติความเชื่อเรื่องซาตาน ผู้อยู่ตรงข้ามกับพระเจ้า โดยลัทธิผู้บูชาปีศาจ หรือ ซาตาน และทำการต่อต้านพระเจ้า ต้องการจะแสดงความหมายที่แสดงถึงการต่อต้านพระเจ้าอย่างชัดเจน จึงได้ใช้สัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัว
นักคติชนวิทยาได้อธิบายความหมายของปีศาจ (Devil) คือ ผู้ที่อยู่ฝ่ายตรงข้ามกับพระเจ้าและมนุษย์ อาจเป็น ซาตาน ภูต มีสภาวะเป็นผู้ชั่วร้าย ปีศาจในประเพณีปรัมปราของฮิบรูและคริสเตียนหมายถึง ทูตสวรรค์ที่ถูกขับไล่ให้ไปอยู่ในนรก เป็นเจ้าชายแห่งความมืด เป็นเจ้าแห่งไฟซึ่งสามารถทำลายและเผาผลาญทุกสิ่งทุกอย่างเป็นเจ้าแห่งสัตว์และพืชที่เป็นภัย ซาตาน แต่เดิมเป็นประมุขของทูตสวรรค์ เป็นผู้ปกครองอาณาจักรแห่งความชั่วร้าย มีภารกิจสำคัญคือล่อลวงให้มนุษย์ไปในทางที่ผิดทำบาป วิญญาณของมนุษย์ที่ถูกประมุขของปีศาจลงโทษจะต้องทนทุกข์ทรมานชั่วกัปชั่วกัลป์ ปีศาจสามารถแปลงร่างเป็นรูปใดก็ได้ให้เหมาะสมกับภารกิจ อาจพบในรูปของมนุษย์ร่างเล็ก มีเขามีขนตามตัว มีหางและมีเท้าเป็นกีบ
นักปีศาจวิทยา (demonologist) ของยุโรป ได้จำแนกกลุ่มของปีศาจ ตามนามและลักษณะเด่น โดยปีศาจที่มีความสำคัญและชื่อเสียงโด่งดังที่สุดคือ Lucifer เป็นตัวแทนของความอวดดีความลำพองใจ ส่วนคำว่าซาตาน หรือ เซตัน (Satan) ที่ส่วนใหญ่มักใช้เรียกแทนปีศาจ แท้จริงแล้วคือ หนึ่งในปีศาจสำคัญที่เป็นตัวแทนของความโกรธ ซาตายจะมีสีดำ ครอบครองอาณาจักรแห่งความมืด บางครั้งอาจจะเป็นสีแดงเพื่อแสดงถึงอารมณ์และความร้อนแรงแห่งบาปมักมีเท้าเป็นกลีบผ่าคล้ายเท้าแพะ ทั้ง Lucifer และ Satan เป็น 2 ใน 7 ที่แทนความหมายของบาปที่รุนแรงที่สุดในศาสนาคริสต์อีกด้วย ปีศาจอีก 5 ตนอันเป็นตัวแทนของอีก 5 บาปที่เหลือคือ Mammom - ความโลภ Asmodeus Beelzebob - ความตะกะตะกาม Leviathan - ความอิจฉา Belpphegor ความเกลียดค้าน
ผู้ใดที่นับถือปีศาจ ผู้นั้นแสดงความเป็นปฏิปักษ์ต่อพระเจ้า ดังนั้นสัญลักษณ์ที่ใช้แทนปีศาจ จึงแสดงความเป็นตรงกันข้ามกับพระเจ้าหรือพระคริสต์อย่างชัดเจน คือไม้กางเขนกลับหัว และได้ใช้เป็นเครื่องหมายของซาตานที่โด่งดังที่สุดคือ ลูซิเฟอร์ อีกด้วย
จากภาพยนตร์ The Devil Inside จะเห็นได้ว่าผู้ที่ถูกปีศาจสิงในเรื่อง จะทำร้ายตัวเองโดยการกรีดแขนหรือขาเป็นรูปไม้กางเขนกลับหัว และที่โดดเด่นชัดคือจะกรีดที่ปากด้านในเป็นรูปไม้กางเขนกลับหัวเช่นกัน สัญลักษณ์ไม้กางเขนกลับหัวนอกจากภาพยนตร์เรื่องนี้ยังถูกนำมาใช้ในภาพยนตร์ ที่เกี่ยวข้องกับปีศาจเห็นได้ชัดคือ ภาพยนตร์เรื่อง The Conjuring 2 กำกับโดยเจมส์ วาน ในบ้านของหญิงสาวที่ถูกปีศาจเข้าสิง ไม้กางเขนทั้งหมดที่นำมาประดับห้องไว้นั้นถูกกลับหัวทั้งหมด อันเนื่องมาอำนาจปีศาจนั่นเอง
#บทสรุป
The Devil Inside แม้จะมีเนื้อเรื่องวนเวียนอยู่กับสิ่งเดิม ๆ คือบุคคลที่ถูกปีศาจเข้าสิงและพิธีกรรมการไล่ผี และมีจุดสำคัญของเรื่องตรงที่จะไล่ปีศาจออกไปได้อย่างไร ซึ่งเอาเข้าจริง ๆ แล้ว ไม่ต่างกับภาพยนตร์เรื่องอื่น ที่มีแนวทางเดียวกันแต่เสน่ห์ของเรื่องนี้กับอยู่ตรงที่วิธีการนำเสนอภาพแบบ found footage และการจบของเรื่องที่ต้องอุทานออกมาว่า "เฮ้ย!"