Begin Again

หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เต็มเปี่ยมไปด้วยเพลงเป็นสื่อในการเล่าเรื่อง สื่อความรักในรูปแบบต่างๆ แต่เข้าถึงง่าย เนื้อเพลงเพราะติดหูและจำง่าย ไม่ใช่แนวโฟล์คซองจ๋าแบบเรื่อง Once ก่อนไปดูก็คิดว่าจะเป็นหนังรักหวานเลี่ยนปนตลก คิดผิดถนัด! ต้องบอกว่าหนังมันเต็มไปด้วยเพลงรักซึ้งๆ ที่ไม่ได้สื่อแค่รักในรูปแบบชายหญิงแบบเดียวเท่านั้น แต่เป็นรักในความฝันของตัวเองด้วย คนเคยมีฝัน เคยคาดหวัง เคยผิดหวัง จะซึ้งและอินมาก

การดำเนินเรื่องจะมีย้อนไปย้อนมา แต่เปลี่ยนมุมมองตามตัวละคร ตรงนี้เป็นอะไรที่น่าสนใจมาก ไม่น่าเบื่อแถมทำให้เราได้รู้จักตัวตนของตัวละครมากขึ้น ความเพลิดเพลินของเพลงที่เพราะมาก ทำให้ลืมเวลาไปเลยว่าหนังใกล้จบแล้ว (ไม่อยากให้จบด้วยซ้ำ) อารมณ์อาจจะมีสะดุดบ้าง บางช่วงยังเล่าเรื่องได้ไม่กลมกล่อมเท่าไหร่ แต่เพราะมีเพลงเพราะๆ คอยดึงให้บรรยากาศอบอวลกลับมา ดูแล้วคุณจะซึ้งกับเรื่องราวโรแมนติกคอมเมดี้ได้ โดยไม่ต้องมีบทดราม่า รู้สึกอิ่มเอมกับบทเพลงเพราะๆ ตั้งแต่ต้นจนจบ

Keira Knightley บทของนางมีเสน่ห์มาก ปกติก็ชอบรอยยิ้มของนาง ตั้งแต่ Pride & Prejudice แล้ว เป็นผู้หญิงที่ยิ้มไม่สวย แต่น่ารักและมีเสน่ห์ เรื่องนี้ก็มาแบบมาดเซอร์ๆ พร้อมกับเสียงหวานๆ เล่นได้เป็นธรรมชาติ ในแบบสไตล์สาวอังกฤษ ยิ่งทำให้ความน่ารักทวีคูณ
Mark Ruffalo พ่อยักษ์เขียว มาเล่นเรื่องนี้คือหมดภาพความเป็นอัฉริยะไปเลย ทำให้เชื่อเลยว่า เป็นโปรดิวเซอร์ขี้เมาตกอับ ได้อินมากๆ
Adam Levine พ่อนักร้องสูงเสียงแห่งวง Maroon5 พี่เท่มาก กรี๊ดค่ะ ถึงบทจะไม่ได้น่าหลงไหลเท่าไหร่ แต่ความหล่อและเสียงพี่แกก็ทำให้สาวๆ หลงได้ไม่น้อย

สรุป
เมื่อคุณเดินออกจากโรง จะได้เพลงเพราะติดหู ที่ดูหนังจบต้องรีบกลับมาหา OST ฟัง คุณจะรู้สึก อิ่มเอมกับบทเพลงและเรื่องราว เหมือนเข้าไปในร้านนั่งดิ๊งค์บรรยากาศดีๆ สักร้าน แล้วออกมาด้วยความผ่อนคลาย สบายใจ