Be Kind Rewind

หนังมีศูนย์ของเรื่องเกิดที่ร้านให้เช่าวิดีโอในเมืองพัสซาอิค นิวเจอร์ซีย์ ซึ่งมีชื่อว่า “บี ไคนด์ รีไวด์” ตามชื่อหนังนั่นแหละ แต่เมืองพัสซาอิคนั้นไม่ได้เป็นแค่เมืองเล็ก ๆ ธรรมดา ๆ เพราะหลายคนยังเชื่อว่า ศิลปินเพลงแจ๊สชื่อดังคนหนึ่งก็เกิด และใช้ชีวิตอยู่ที่เมืองนี้ ยิ่งกว่านั้นก็คือ เอลรอย เฟล็ทเชอร์ (แดนนี่ โกลเวอร์) เจ้าของร้าน “บี ไคนด์ รีไวด์” นั้นเชื่อว่า ตึกของร้านนี่แหละคือที่อยู่ของศิลปินเพลงแจ๊สรายนั้นที่ชาวเมืองควรภาคภูมิใจในขณะที่ฝ่ายพัฒนาที่ดินของเมืองกำลังจ้องจะทุบทิ้งตึกเก่า ๆ ของร้าน “บี ไคนด์ รีไวด์” ไปสร้างเป็นโครงการคอมเพล็กซ์ที่ทันสมัยเจริญหูเจริญตากว่า

แม้ในงานชิ้นนี้ กอนดรี้ จะแสดงให้เห็นว่า เขายอมรับว่า “ความเปลี่ยนแปลงคือนิรันดร” ผ่านร้าน “บี ไคนด์ รีไวด์” ที่ให้บริการลูกค้าด้วยการเช่าม้วนเทปวิดีโอ ขณะที่ร้านให้เช่าหนังร้านอื่น ๆ ให้บริการเป็นแผ่น ดีวีดี ไปแล้ว จน เฟล็ทเชอร์ ก็เริ่มจะยอมรับการเปลี่ยนแปลงนี้ และเริ่มคิดจะปรับเปลี่ยนการบริการในร้านมาเป็นการให้บริการเช่าดีวีดี ไปดูแทนในอนาคต

แต่เรื่องสนุกของหนังเรื่องนี้อยู่ที่ตัวละคร “คู่หู” ของเรื่องคือ เจอร์รี่ (แจ็ค แบล็ค) กับ ไมค์ (มอส เดฟ ที่เคยประชันบทกับ บรู๊ซ วิลลิส ใน “16 บล็อคส์”) โดย ไมค์ นั้นเป็นพนักงานในร้าน “บี ไคนด์ รีไวด์” และ เจอร์รี่ เป็นเพื่อนสนิทของ ไมค์ แต่กิตติศัพท์ความเพี้ยนของ เจอร์รี่ นั้นก็ทำให้เวลาที่ เฟล็ทเชอร์ จะไม่อยู่ร้านถึงกับต้องสั่ง ไมค์ ว่า ให้อย่าง เจอร์รี่ อย่าเข้ามาในร้าน แค่คำห้ามนั้นดูจะไม่ได้ผล เจอร์รี่ มีคามเชื่อแปลก ๆ ว่า โรงไฟฟ้าในเมืองเป็นต้นเหตุทำให้เขาสมองเสื่อมปวดหัวเป็นประจำ วันดีคืนดีตกดึก ๆ ก็เลยชวน ไมค์ ไปพังโรงไฟฟ้ามันซะเลย แต่ก็ทำได้แค่ เจอร์รี่ ปีนรั้วโรงไฟฟ้าเข้าไปคนเดียวโดนไฟช็อตพรึ่บพรั่บ วันรุ่งขึ้นเมื่อ เจอร์รี่ เดินเข้ามาหา ไมค์ ที่ร้านวิดีโอ ก็ปรากฎว่า คลื่นแม่เหล็กที่อยู่ในตัวเขาก็ทำให้ไปลบม้วนเทปวิดีโอหนังให้เช่าในร้านหายหมดเกลี้ยง ลูกค้าที่เช่าหนังไปดูก็กลับมาต่อว่า ยกใหญ่ จน ไมค์ กับ เจอร์รี่ ต้องหาทางออกแสนพิสดาร โดยการคว้ากล้องถ่ายวิดีโอไปถ่ายหนังที่พวกเขาแสดงกันเอง ตามโลเกชั่นใกล้ ๆ ร้านนั่นแหละ โดยจำลองสถานการณ์ให้เป็นไปตามหนังเรื่องนั้นที่ลูกค้าอยากดู โดยมีการตั้งชื่อหนังประเภทนี้ของพวกเขาว่า หนัง “สวีเด็ด” มาใส่ในร้านทดแทน

ปรากฎว่าหนัง “สวีเด็ด” ของ ไมค์ กับ เจอร์รี่ ถูกอกถูกใจลูกค้ายกใหญ่ และชื่นชมความกล้าของพวกเขาที่ทำในสิ่งที่ร้านเช่าหนังเจ้าอื่นไม่มี ก็เลยมีลูกค้ามาสมัครเป็นสมาชิก และแจ้งความจำนงค์ให้ทำหนัง “สวีเด็ด” หนังดังเรื่องอื่น ๆ อีกเยอะแยะ จน 2 หนุ่มชักจะงานยุ่งจนต้องดึงคนอื่นเข้ามาช่วย และยิ่งฮิตมากขึ้นก็เลยกลายเป็นงานที่ไม่เพียงแต่จะแสดงกัน 2 คนแล้ว แต่ยังดึงเอาสมาชิกทั้งหลายมาร่วมเป็นดารา และร่วมเป็นทีมงานถ่ายทำเสร็จสรรพ

ความสนุกของหนังก็อยู่ที่การทำหนัง “สวีเด็ด” เลียนแบบหนังดัง ๆ อย่าง “โกสต์บัสเตอร์ส”,“ไดรวิ่ง มิสเดซี่” หรือแม้แต่หนังการ์ตูน “ไลออน คิง” ฯลฯ พวกเขา (ช่าง) ทำได้ยังไงต้องไปในหนังเรื่องนี้ เพราะ กอนดรี้ ไม่เพียงแต่จะเอาฮาเท่านั้น แต่หนังยังมีช่วงที่ “แอบซึ้ง” แต่เหนืออื่นใดงานชิ้นนี้ก็ยังอยู่บนพื้นฐานของ “คนรักหนัง” ที่เชื่อว่า “หนัง” สามารถจะเป็น “ทางออก” ให้พวกเขาฟันฝ่าอุปสรรคทั้งหลายที่ผ่านเข้ามาได้เหมือนกัน.