เรื่องย่อ : Cat a Wabb | แคท อ่ะ แว้บ! #แบบว่ารักอ่ะ
ชื่อภาพยนตร์ : Cat a Wabb | แคท อ่ะ แว้บ! #แบบว่ารักอ่ะ
แนว/ประเภท : Comedy
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Pongsak Pongsuwan, Nareubadee Wetchakam
บทภาพยนตร์ : -
นักแสดง : Pimchanok Luevisadpaibul, Arak Amornsupasiri, Choosak Iamsook
วันที่ออกฉาย : 2015
เมโย นักศึกษาสาวใสสุดมั่นตัดสินใจสมัครเข้าฝึกงานในบริษัทเอเจนซี่โฆษณาของโดด ผู้กำกับมือทองสุดเฮี้ยบ และ เฟียต ตากล้องเครางามขั้นเทพหุ้นส่วน แต่กลับกลายเป็นว่าเพียงแค่วันแรกเธอก็ดั๊นไปตกหลุมรักมอร์ พี่เทรนสุดหล่อผู้ช่วยผู้กำกับแมวให้เป็นพรีเซนเตอร์เพื่อเลื่อนขั้นเป็นผู้กำกับเต็มตัว งานนี้มอร์มอบหมายให้เมโยดูแล “จอนนี่” แมวพระเอกตัวอ้วนกวนโอ๊ยสุดเลิฟของมร.โคบายาชิ ทำให้ทั้งคู่ใกล้ชิดกันจนสาวเจ้ามโนเอาเองว่าพี่มอร์มีใจให้!!! ในขณะที่ความรักฉบับมโนของเมโยกำลังงอกงาม ท่ามกลางกองถ่าย จู่ๆ เจ้าจอนนี่ก็ดั๊นมาหายแว๊บบ!!! ไปซะอย่างงั้น เป็นอันต้องวุ่นกันถ้วนหน้า แต่ก่อนที่ปรากฎการณ์แมวหายจะสลายมโนของทุกคน เมโยจึงต้องทำทุกวิถีทางเพื่อตามหาเจ้าแมวตัวป่วนตัวนี้ให้เจอ ความรักของเมโญจะหยุดอยู่แค่ในมโนหรือไม่ อนาคตผู้กำกับของมอร์จะรุ่งหรือร่วง และบริษัทเอเจนซี่ของโดดกับเฟียตจะผ่านวิกฤตสุดหินชิ้นนี้ไปได้อย่างไร มาตามลุ้นกันได้ใน Cat a Wabb!!! #แบบว่ารักอ่ะ
IMDB : tt4425430
คะแนน : 6.3
รับชม : 212 ครั้ง
เล่น : 82 ครั้ง
ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง
โทนของหนังน่ารักและทำให้เราหัวเราะได้ทุกรอบที่ดู เราแน่ใจในข้อนี้สุดๆ ตอนที่นั่งดูหนังฝรั่งเรื่องนึง (ในโรง) แล้วเราจะหลับ เรากลับคิดถึงแคทอะแว้บขึ้นมา แม้จะมีหลายจุด หลายฉากที่เราขัดใจ (เดี๋ยวจะบอกในส่วนที่เรายังไม่โอเค) แต่เราเพลินไปกับหนังทั้งเรื่อง เราอาจจะเป็นคนเส้นตื้นก็ได้มั้งคะ แต่มีหลายมุกที่เราขำแบบหัวเราะไม่อายคนข้างๆ บางมุกก็ขำทุกรอบ ทั้งที่รู้อยู่แล้วนั่นแหละ หนังล้อคนทำงานโฆษณาและวงการโฆษณาได้ดี เราชอบประโยค ‘โฆษณาผ้าอนามัย ทำไมต้องดราม่าขนาดนี้วะ’ ฉากที่เราชอบที่สุดคือฉากที่พี่มอร์เรียกให้เมโยไปยืนมาร์คจุด พี่มอร์เดินไปซ้อนหลังเมโยแล้วจับน้องให้ขยับไปมาตามคำสั่งตากล้อง (พี่โหน่ง) ภาพในจอฉายไลน์รักอยู่ แต่ไดอะล็อกที่ออกมาพร้อมกันคือพี่โหน่งกำลังเล่นมุกกับทีมงานบวกด่าพระเอกเบาๆ คือพี่โหน่งก็ไหลไปเรื่อยอะ คงมุกสด และเราก็ขำด้วย มุกไม่ใหม่ แต่จังหวะมันใช่สำหรับเรา เรารู้สึกว่าฉากนี้มันบอกโทนหนังได้ชัดดี คือเป็นคอมมาดี้อินเลิฟ ขำๆบวกเขินๆในเวลาเดียวกัน