ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

ดูหนัง Margin Call (2011) เงินเดือด เต็มเรื่อง

ดูหนัง Margin Call (2011) เงินเดือด เต็มเรื่อง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ

เรื่องย่อ : ดูหนัง Margin Call (2011) เงินเดือด เต็มเรื่อง

ดูหนัง Margin Call (2011) เงินเดือด เต็มเรื่อง

 

 

เรื่องย่อ : Margin Call (2011) เงินเดือด

พนักงานหนุ่มเลือดใหม่ไฟแรง เซ็ท แบรกแมน (เพนน์ แบดจ์ลีย์ จากซี่รี่ส์ Gossip Girl) และ ปีเตอร์ ซัลลีแวน (แซคคารี่ ควินโต้? จากซี่รี่ส์ Heroes) และรุ่นพี่อย่าง วิลล์ เอเมอร์สัน (พอล แบ็ตตานี? จาก Priest นักบุญปีศาจ) พวกเขาหลุดรอดออกมาจากจำนวนพนักงานที่ถูกเลย์ออฟจากบรัษัทที่กำลังเผชิญภาวะวิกฤติเศรษฐกิจในช่วงปี 2008 หนึ่งในพนักงานที่ถูกปลดคือ อีริค เดล (สแตนลี่ย์ ตุุชชี่) พนักงานจากฝ่ายบริหารความเสี่ยง และก่อนที่เขาจะจากไป เขาได้มอบยูเอสบีไดร์ฟเกี่ยวกับโปร์เจคที่เขากำลังทำอยู่ให้กับปีเตอร์ไว้ และบอกกับปีเตอร์ว่า ?ระวังตัวให้ดี? ในคืนนั้นเอง ปีเตอร์พยายามศึกษาข้อมูลจากยูเอสบีไดร์ฟดังกล่าวจนพบว่า ธุรกิจของบริษัทกำลังเผชิญกับภาวะความเสี่ยงที่ผันผวนในระดับที่สูงมากเป็นประวัติการณ์ และเพราะความซับซ้อนของหลักทรัพย์ จึงทำให้ก่อนหน้านี้ ความเสี่ยงนี้ได้รอดพ้นจากเกณฑ์ที่ตั้งไว้และไม่ถูกแจ้งเตือน ซึ่งหากราคาของหลักทรัพย์กลุ่มนี้ลดไปเพียง 25% บริษัทจะล้มละลายทันที ปีเตอร์และ วิลล์จึงรีบแจ้งให้ผู้บริหาร แซม โรเจอร์ส
ทุกคนที่เหลือในบริษัทถูกเรียกประชุมฉุกเฉินในคืนนั้นรวมทั้ง จาเร็ค โคเฮ็น (Simon Baker)หัวหน้ากลุ่มธุรกิจ และหัวหน้าฝ่ายควบคุมความเสี่ยง ซาร่า โรเบิร์ตสัน (Demi Moore) ต่างต้องวางหมากอย่างแนบเนียนว่าจะรับมือกับสถานการณ์วิกฤตินี้อย่างไร โดยที่พวกเขาก็ไม่รู้ถึงชะตากรรมของตัวเองเช่นกัน ในขณะเดียวกัน CEO จอห์น ทัลด์ (Jeremy Irons จาก The Man in the Iron Mask)? ได้ตัดสินใจให้แซม โรเจอร์ส (Kevin Spacey)? รับผิดชอบการขายหลักทรัพย์นี้เกือบทั้งหมดในเช้าวันรุ่งขึ้น แซมต้องต่อสู้ระหว่างความกดดันจากทัลด์และความรู้สึกผิดชอบชั่วดี เขาจะตัดสินใจทำตามแผนของทัลด์หรือไม่ และจะทำได้อย่างไร โปรดลุ้นติดตามได้ใน ‘Margin Call เงินเดือด’

IMDB : tt1615147

คะแนน : 7.1

รับชม : 576 ครั้ง

เล่น : 205 ครั้ง

ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง



Margin Call (2011) เงินเดือด

ในช่วงเวลาที่ยุ่งและวุ่นอยู่กับงานตรงหน้า ผมกำลังคิดถึงช่วงเวลาของการเข้าไปอยู่ในโรงหนังที่ห่างมาเป็นสัปดาห์ จู่ๆ ก็เหลือบไปเห็นบทสนทนาของสองนักดูหนังโดยบังเอิญ จึงขอร่วมเป็นส่วนในการทัศนามหรสพสุดโปรดนี้ด้วยสักสองคน เดินออกจากออฟฟิศ มุ่งหน้าด้วยรถไฟฟ้าแล้วไปเจอกันหน้าโรงหนัง Lido ที่พึ่งของนักดูหนังทันที

 

วันนี้ ได้ไปดูหนังในโรง “Margin Call” หรือชื่อไทย “เงิน เดือด” มาครับ เรื่องราวของบริษัทการเงินยักษ์ใหญ่ที่กำลังประสบปัญหาอย่างหนัก จนต้องตัดสินใจแก้ไขปัญหาบางอย่างที่ดูแสนจะโหดร้ายในโลกหนึ่ง แต่สำหรับบางคน พวกเขาอาจคิดว่ามัน “ถูกต้อง”

 

“Margin Call” หนังที่ว่าด้วยเรื่องราวของบริษัทหลักทรัพย์ที่กำลังพบความผิดพลาดของตัวเองจากพนักงานคนหนึ่งที่เพิ่งถูกไล่ออกไป หนังเริ่มต้นด้วยการสร้างความงุนงงสงสัยให้กับผู้ชม ก่อนจะค่อยเปิดมาทีละเปลือกเพื่อบอกว่า เกิดอะไรขึ้นกับองค์กรการเงินขนาดใหญ่แห่งนี้

วอลล์สตรีตในปี 2008 กำลังเจอวิกฤติหนัก เพราะการดำเนินการที่ผิดพลาดมาตลอดหลายเดือนของบริษัทแห่งนี้ สิ่งที่เขาทำกับผู้คนที่สร้างความรุ่งเรืองให้กับองค์กรคือการโละบุคคลที่เขาไม่ต้องการออกอย่างไม่ใยดี แต่แล้วความเสียหายอย่างหนักกลับถูกส่งมาจากพนักงานระดับหัวหน้าคนหนึ่งที่เพิ่งถูกไล่ออกไป เขาทิ้งท้ายให้กับพนักงานหนุ่มผู้เคยอยู่ใต้บังคับบัญชาของเขาเพียงว่า

“Be careful.”

การโทรเรียกพนักงานระดับสูงจึงเป็นสิ่งที่เกิดขึ้นในค่ำคืนนั้น เรื่องราวตึงเครียดของการต้องตัดสินใจในสิ่งที่โหดร้ายต่อทั้งพนักงาน ผู้บริหาร และต่อวงการการเงินทั้งกระบวนกำลังจะบังเกิดขึ้

หะแรกที่รู้ตัวว่าเป็นหนังเกี่ยวกับตลาดทุน ก็คิดว่าเลือกหนังดูยากเข้าให้เสียแล้ว แต่ก็ดูไปๆ ก็พบว่า พอจะทำความเข้าใจตามเนื้อเรื่องได้ แม้ว่าบทพูดบางตอนจะค่อนข้างยาวจนอ่านซับไตเติลไปทำความเข้าใจไปอย่างลำบากยากเย็น แต่ถ้าเก็บเอาแต่ประเด็นคร่าวๆ ก็นับว่า ไม่ยากเกินไปนัก

การส่งอารมณ์ที่นักแสดงทุกคนเข้าถึงบทบาทและถ่ายทอดได้ดี หนังยังขับเน้นไปที่บทพูด อีกทั้งหลายช่วงที่ไร้เสียงดนตรีประกอบ เน้นกันที่การแสดงล้วนๆ เหมือนจะจงใจให้รู้สึกว่านี่เป็นเรื่องจริง ทั้งที่ก็ปะหน้าไว้ว่าเป็น “Inspired by a True Story” เท่านั้น

นำเสนอแง่มุมที่คนนอกอาจจะไม่เคยได้รู้ โลกของปลาใหญ่กินปลาเล็ก โลกของธุรกิจที่ดูโหดร้าย การต้องตัดสินใจทำสิ่งที่ยากลำบากและขัดแย้งกับข้างในของตัวตน นับว่าเป็นเรื่องยากจริงๆ ที่จะเล่าเรื่องแบบนี้ให้ดูเหมือนจริง และดูสนุกเร้าใจไม่ง่วงไปได้

แม้ว่าผู้กำกับฯ เขาจะเล่าเรื่องได้ดีแค่ไหน แต่ก็ยังทำให้หาวไปได้อยู่หลายหนนะครับ