หมวดหมู่ : หนังตลก , หนัง Netflix
เรื่องย่อ : Me Time (2022) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : Me Time
แนว/ประเภท : Comedy
ผู้กำกับภาพยนตร์ : John Hamburg
บทภาพยนตร์ : John Hamburg
นักแสดง : Kevin Hart, Mark Wahlberg, Regina Hall
วันที่ออกฉาย : 26 August 2022
เรื่องราวของ ซอนนี่ (เควิน ฮาร์ต) พ่อบ้านที่ไม่ค่อยจะมีเวลาให้กับตัวเองเท่าไหร่ เพราะส่วนใหญ่จะยุ่งอยู่กับการทำงานในบ้านซะมากกว่า จนกระทั่งวันหนึ่งในรอบหลายๆ ที่ปีภรรยาและลูกๆ ของเขาไม่อยู่บ้านหลายวัน มันช่างเป็นช่วงเวลาที่แสนวิเศษจริงๆ เขาจึงตัดสินใจโทรหาเพื่อนเก่า ฮัค (มาร์ค วอห์ลเบิร์ก) เพื่อทำในสิ่งที่เขาอยากจะทำ ด้วยการใช้ชีวิตในวันหยุดอย่างสุดเหวี่ยง พากันไปทำอะไรที่แผลงๆ ออกไปผจญภัยตามที่ต่างๆ จนเกือบจะเอาชีวิตไม่รอด
IMDB : tt14309446
คะแนน : 4.5
รับชม : 1555 ครั้ง
เล่น : 632 ครั้ง
ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง
อีกหนึ่งหนังตลกที่มาถี่เหลือเกินของ เควิน ฮาร์ท ใน Netflix เพราะเป็นผลงานจากค่าย Hartbeat Productions ของเขาเอง พล็อตเรื่องนี้พื้นๆ เป็นเรื่องราวของสามีพ่อบ้านเลี้ยงลูกที่ได้ปลดปล่อยเป็นตัวของตัวเอง ซึ่งเปิดช่องให้เล่นตลกได้สารพัดๆ จากความอุบาทว์เป็นซะส่วนใหญ่ด้วย
มุกตลกในเรื่องนี้เน้นเดอตี้โจ๊กเล่นแนวของลับ ของสกปรก มุกทางเพศแบบจัดเต็มหน่อยจึงเป็นเรต 16+ ไม่ใช่มุกตลกใสๆ หนังครอบครัวดูได้ อย่างฉากเควินแก้ผ้าเตรียมชักว่าวกับหนัง X บนเจอทีวีใหญ่กลางบ้านงี้ ซึ่งมุกตลกในเรื่องนี้ 70% มาแนวทะลึ่งติดเรต ไม่ก็เล่นขี้เล่นเยี่ยวอ๊วกแตกกับมุกเบสิคซึ่งยังไงคนดูก็ต้องฮาแน่นอน (เพราะเห็นหน้าก็ฮาแล้ว) หรือบางมุกก็เอาเรื่องขี้บนเตียงของแอมเบอร์ เฮิร์ด มาเล่น ซึ่งก็อดขำไม่ได้จริงๆ โดยเฉพาะช่วงครึ่งแรกของเรื่องที่เควินปลดปล่อยตัวเองเล่นมุกเองคนเดียวนี่ขำหนักมากกว่าครึ่งหลังที่มีมาร์ค วาห์ลเบิร์ก มาเป็นคู่ด้วย
ในช่วงครึ่งหลังเรื่องเริ่มมาที่การพัฒนาความสัมพันธ์ตัวละครเพื่อนซี้เก่าของพระเอก ซึ่งเป็นคนที่ชอบทำอะไรห่ามๆ สุดโต่งในชีวิตอยู่เสมอ ตัวเรื่องก็เหมือนจะพาให้ฮาได้หนักข้อขึ้น แต่กลายเป็นไม่ค่อยขำเท่าครึ่งแรก มุกแป๊กก็ค่อนข้างเยอะ มีขำก็บางฉากอย่างตอนไปเจอสิงโตไล่ล่า แต่นอกเหนือจากนั้นมุกตลกต่างๆ ที่เล่นคู่กับมาร์คดรอปลงมาก อาจจะเพราะทั้งคู่ไม่ค่อยเข้าขากันเท่าไหร่ เพราะบทของมาร์คเป็นแนวคนไม่เอาไหนเหมือนพวกขี้แพ้ ที่ดูยังไงก็ไม่ค่อยเชื่อเท่าไหร่
อีกอย่างที่ครึ่งหลังไม่ค่อยขำก็คงเพราะตัวเรื่องพยายามยัดดราม่าการค้นพบตัวเองเข้ามา ไม่แปลกใจนะที่หนังตลกพยายามจะมีสาระในช่วงหลังเพราะมันก็เป็นสูตรสำเร็จที่ทำให้เนื้อเรื่องดูมีอะไรมากขึ้นกว่าตลกไร้สาระไปเรื่อย แต่ปมการค้นพบตัวเองของทั้งเควินกับมาร์คมันดูไม่ค่อยดีเท่าไหร่ แล้วก็จบเคลียร์อะไรแบบปุ๊บปั๊บง่ายๆ ไปหมด ซึ่งจริงๆ เราอาจจะไม่ต้องการสาระอะไรแบบนี้ก็ได้ ขอแค่ตลกไปจนจบเลยยังจะดีกว่าถ้าทำปมดราม่าได้พื้นๆ แค่นี้