หมวดหมู่ : หนังระทึกขวัญ , หนังแอคชั่น
เรื่องย่อ : The Ice Road เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง (2021) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : The Ice Road เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง
แนว/ประเภท : Thriller, Action
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Jonathan Hensleigh
บทภาพยนตร์ : Jonathan Hensleigh
นักแสดง : Liam Neeson, Marcus Thomas, Laurence Fishburne
วันที่ออกฉาย : 25 June 2021
เรื่องราวภัยธรรมชาติหายนะครั้งใหญ่ที่เกิดขึ้นที่ วินนิเพ็ก เหมืองเพชรแห่งหนึ่ง ซึ่งตั้งอยู่ทางตอนเหนือของแคนาดา พายุหิมะที่ถล่มลงมาทำให้มีคนงานติดอยู่ใต้เหมืองจำนวนมาก ทำให้ภารกิจนี้ตกเป็นของคนขับบรรทุกมากประสบการณ์อย่าง ไมค์ (เลียม นีสัน) ที่ต้องนำทีมกู้ภัยซิ่งข้ามมหาสมุทรนรกเยือกแข็งกว่า 300 ไมล์เข้าไปเพื่อช่วยเหลือชาวเหมือง ที่ติดอยู่ใต้ดินภายในเวลาจำกัด 30 ชั่วโมงก่อนที่อ็อกซิเจนจะหมด พร้อมฝ่าทุกอุปสรรค รวมถึงสภาพอากาศที่เลวร้ายอาจไม่ใช่อันตรายเพียงหนึ่งเดียวที่พวกเขาต้องเผชิญ
IMDB : tt3758814
คะแนน : 5.5
รับชม : 3178 ครั้ง
เล่น : 1476 ครั้ง
‘The Ice Road’ หรือ ‘เหยียบระห่ำ ฝ่านรกเยือกแข็ง’ ในชื่อภาษาไทย เป็นผลงานการกำกับของ ‘โจนาธาน เฮนสเลก’ (Jonathan Hensleigh) ผู้กำกับและผู้อำนวยการสร้างที่เคยผ่านงานแอ็กชันที่เรียกได้ว่าแต่ละเรื่องนี่ ถือว่าระดับเป้ง ๆ ทั้งนั้น ตั้งแต่ ‘Con Air’ (1997), ‘Armageddon’ (1998) และ ‘Gone in 60 Seconds’ (2000) พร้อมกับ ‘มาร์ก เวนสโลว์’ (Mark Vanselow) สตันต์และนักออกแแบบคิวบู๊คู่ใจลุงเลียม นีสันมาร่วมออกแบบงานแอ็กชันเย็นยะเยือกในครั้งนี้ด้วย
แต่แม้ว่ามันจะมีให้ดูกันผ่านสตรีมมิง (ส่วนของไทยก็น่าจะเร็ว ๆ นี้แหละ) แต่สิ่งที่ผู้เขียนเองอยากแนะนำก็คือ หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่เหมาะกับการดูในโรงภาพยนตร์ครับ ไม่ได้ว่าจะอะไรนะครับ แต่ด้วยแอ็กชันของตัวหนังที่่ว่าด้วยเรื่องของการทำภารกิจผจญภัยสไตล์บู๊บนรถบรรทุก ภายใต้บรรยากาศเย็นเยือกแข็งแบบนี้ การดูในโรงน่าจะเป็นอะไรที่เหมาะมาก ๆ เพราะนอกจากจะได้ซึมซับภาพและเสียงแอ็กชันได้อย่างเต็มที่แล้ว น่าจะได้ซึมซับกับแอร์โรงหนังที่น่าจะหนาวสู้กับความหนาวในหนังได้อะไรแบบนั้นเลย น่าจะได้บรรยากาศไปอีกแบบ (แซวนะครับ 555)
ตัวหนังเองจริง ๆ แล้วในแง่ของบท จริง ๆ ถ้าใครที่ดูตัวอย่างก็อาจจะรู้สึกเหมือนผู้เขียนว่า มันจะมีอะไรไปมากกว่าการขับรถฝ่าผืนน้ำแข็งที่กำลังจะแตกมั้ยว้า ซึ่งพอดูแล้วก็ถือว่าโอเคครับ เพราะว่ามันก็เป็นแค่ส่วนหนึ่งเท่านั้น แม้ว่ามันจะถูกดึงมาเป็นไฮไลต์ก็เถอะนะ แต่โดยรวมของหนังก็ถือว่าออกมาเป็นหนังแอ็กชันกึ่ง ๆ ผจญภัย กึ่ง ๆ ทริลเลอร์ที่เล่าผ่านเรื่องราวของการเดินทางด้วยรถบรรทุกขนาดยักษ์
และแน่นอนว่า ในพาร์ตแอ็กชัน คนที่หวังว่าอยากเห็นลุงเลียมกลับมาบู๊ดุเดือด ก็น่าจะไม่ผิดหวังล่ะครับ เพราะคราวนี้ลุงเลียมที่ตอนแรกดูทรงแล้วจะไร้พิษสง เป็นตาลุงตกอับขับรถบรรทุกที่มีน้องชายป่วยอาการทางจิต แต่พอเข้าโหมดแอ็กชัน ลุงเลียมก็ใส่มาเต็มแบบไม่กลัวอายุกันเลย อาจจะไม่ได้ตะลุยเดี่ยวเป็นฮีโรเก่งโคตรเวอร์แต่ก็เรียกได้ว่าบู๊ดุเดือดแบบที่แฟน ๆ ลุงเลียมน่าจะไม่ผิดหวัง โดยเฉพาะฉากรถจมน้ำ ที่ทีมงานใช้วิธีแช่น้ำแข็งแล้วเอารถลงไปหย่อนจริง ๆ ซึ่งลุงเลียมแกก็ต้องลงไปดำผุดดำว่ายในบ่อน้ำแข็งด้วยจริง ๆ (เบื้องหลังคือให้ลุงแกดำน้ำลงไปทีละ 10-20 วินาที) นี่ก็เรียกได้ว่าสปิริตแรงกล้า สมกับเป็นเดอะแบกหนึ่งเดียวของหนังจริง ๆ เพราะแม้จะมี ‘ลอว์เรนซ์ ฟิซเบิร์น’ ร่วมด้วย แต่ก็มาสั้นมากเกินกว่าจะมีบทบาทเด่นชัดเจน
ส่วนอีกจุดที่อยากพูดถึงก็คือความเวอร์ครับ ไม่อยากพูดถึง “พี่ดอมรถซิ่ง” แต่ก็ต้องพูดถึงอีกแล้วแหละ เพราะเอาจริง ๆ หนังเรื่องนี้ก็จัดได้ว่ามีความเวอร์อยู่พอควรนะครับ แถมยังเกี่ยวกับรถเหมือนกันอีก คือในหนังเราจะได้เห็นอะไรบางอย่างที่แอบเวอร์อยู่ไม่น้อยทีเดียว เช่นความพยายามพลิกรถบรรทุกตู้คอนเทนเนอร์ที่ล้มตะแคงให้กลับมาวิ่งต่อได้ การโดดปีนขึ้นรถที่กำลังวิ่ง หรือแม้แต่ตัวละครที่เหมือนจะตายแต่ก็ดันไม่ตาย อะไรแบบนี้ คือแน่นอนว่า มันคงไม่เวอร์ระดับรถซิ่งเรื่องนั้น แต่มันก็มีความเวอร์อยู่นิด ๆ แหละ ซึ่งถ้าจะดูเอาความบันเทิงก็โอเคล่ะครับ
พาร์ตดราม่าก็เป็นอีกหนึ่งส่วนที่หนังเรื่องนี้ใส่เข้ามา โดยเฉพาะประเด็นเกี่ยวกับเรื่องของครอบครัว (ยิ่งเขียนรีวิวไปก็ยิ่งนึกถึงหนังรถซิ่งทุกทีสิน่า 555) คือตัวของลุงเลียมเองจะมีน้องชายเป็นทหารผ่านศึกที่ประสบปัญหาทางจิตจนได้รับการกระทบกระเทือน แต่มีทักษะด้านซ่อมรถขั้นเทพ ส่วนตัวนางเอกนักขับรถบรรทุกอย่าง ‘แทนทู’ (Amber Midthunder) ที่อยากอาสาเข้ามาร่วมขับรถแบบไม่ลังเล เพราะมีพี่ชายเป็นหนึ่งในคนงานที่ติดอยู่ใต้เหมืองใต้ดิน
ซึ่งจริง ๆ แล้วโดยโครงสร้างพล็อตก็ถือว่าไม่ได้มีอะไรใหม่นะครับ เป็นพล็อตสไตล์หนังแอ็กชันยุค 90’s ที่มีพระเอกนางเอกที่ยึดมั่นในความถูกต้อง กับผู้ร้ายขี้โกง และฝ่ายผู้มีอำนาจที่ดูไม่ยี่หระไม่นำพาอะไรกับวิกฤติใหญ่ที่อยู่ภายนอกห้องทำงาน นั่นเลยทำให้ตัวพล็อตหนังโดยรวมทั้งพาร์ตแอ็กชันและดราม่าก็เลยไม่ได้ถึงกับสดใหม่ แต่ก็ถือว่าทำออกมาได้ไม่น่าเกลียด ยังมีปมดราม่าน้องชายให้ได้เอาใจช่วย กับแอ็กชันบู๊แหลกสไตล์ลุงเลียมให้ได้พอได้ลุ้นได้สนุก แม้ว่าบางจุดจะแอบเชยจนพอจะเดาได้บ้างก็เถอะ
นอกจากข้อสังเกตเรื่องพล็อตแล้ว อีกจุดที่ผู้เขียนเองมองข้ามไปไม่ได้จริง ๆ ก็คือเรื่องของซีจี ที่แม้ว่าพาร์ตแอ็กชันบางส่วนจะทุ่มทุนสร้าง แต่หลาย ๆ ส่วนโดยเฉพาะฉากแอ็กชันเวอร์ ๆ หรือพวกระเบิด ก็ต้องบอกว่าน่าเสียดายที่ซีจีหลาย ๆ ส่วนไม่เนียนเอาซะเลย ยังมีอาการลอย ๆ หรือปั้นโมเดลผิดสัดส่วนอย่างเห็นได้ชัดอยู่บ้าง แต่ก็ยังดีที่ไม่ได้เยอะจนน่าเกลียด ยังพอจะถู ๆ ไถ ๆ กับสเปเชียลเอฟเฟกต์โดยรวม ๆ ได้
โดยรวม ๆ แล้ว ผู้เขียนเองก็ยังอยากเชียร์ให้ไปดูหนังเรื่องนี้ในโรงภาพยนตร์กันนะครับ ไม่ได้ว่าจะอะไรนะครับ แต่เชื่อว่าหนังแอ็กชันระดับนี้ การจะดูให้ได้ภาพและเสียงให้ได้อารมณ์และสนุกไปกับหนังได้ การดูในโรงหนังก็น่าจะดึงดูดความรู้สึกได้ดีกว่า แม้ว่าตัวพล็อตเองจะไม่ใหม่มาก แต่ก็ถือว่าเป็นแอ็กชันที่ดูเอามัน ดูเอาลุ้นได้ แถมยังได้บรรยากาศหนาวเหน็บจนฉี่จะราดอย่างแน่นอน