หมวดหมู่ : หนังสารคดี , หนังไทย
เรื่องย่อ : แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน School Town King (2021)
ชื่อภาพยนตร์ : แร็ปทะลุฝ้า ราชาไม่หยุดฝัน School Town King
แนว/ประเภท : Documentary
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Wattanapume Laisuwanchai
บทภาพยนตร์ : -
นักแสดง : Rattana Kalakate, Sorod Naayutthaya, Thanayuth Naayutthaya
วันที่ออกฉาย : 17 November 2020
ภาพยนตร์สารคดีที่ติดตามสองแร็ปเปอร์วัยทีน ที่ใช้ความสามารถทางด้านดนตรีประคับประคองชีวิตท่ามกลางความยากลำบากต่างๆ นานาในกรุงเทพ
IMDB : tt13705830
คะแนน : 8.3
รับชม : 417 ครั้ง
เล่น : 147 ครั้ง
ไม้ตายสำคัญของหนังสารคดีไม่ว่าจะบอกเล่าด้วยสไตล์ใดก็ตาม อย่างไรก็ยังเป็นเรื่องความน่าทึ่งของหัวเรื่องที่นำเสนออยู่วันยังค่ำ ซึ่งหัวเรื่องที่ว่าก็อาจหมายถึงตัวบุคคลเจ้าของประเด็น เฉกเช่น บุ๊ค (ธนายุทธ ณ อยุธยา) และ นนท์ (นนทวัฒน์ โตมา) เด็กบ๊วยของโรงเรียน ที่ตั้งกลุ่มแรปเปอร์เด็กจากสลัมคลองเตยในนาม School Town King และกลายเป็นจุดสนใจของสื่อมวลชนทั้งไทยและเทศอยู่ช่วงหนึ่ง และแม้ทั้งคู่จะมีบุคลิกตลอดภูมิหลังที่น่าสนใจไม่น้อยที่ชวนเราลงไปสำรวจได้อย่างไม่รู้เบื่อ
เช่นว่า บุ๊ค เป็นเด็กเรียนดีและอาจกล่าวได้ว่าคือประเภทประธานนักเรียนในอุดมคติของระบบการศึกษาไทยเลยก็ว่าได้ในช่วง ม.ต้น หากแต่เพียงข้ามก้าวปีสู่ ม. ปลาย การได้พบกับความฝันอย่างแรป ก็แปรเปลี่ยนเขาไปอย่างไม่น่าเชื่อ ทั้งความขบถที่มากขึ้น หรือแม้แต่ความมั่นใจที่ประกาศว่าตนเองจะไปอเมริกาเพื่อเป็นแรปเปอร์อันดับ 1 ให้จงได้ด้วยสายตาที่ไม่มีทีท่าของการหลอกเล่นแต่อย่างใด
หรืออย่าง นนท์ ก็เป็นประเภทของเด็กหลืบที่กลืนหายไปในหลังห้อง ไม่มีใครสนใจจะจดจำ เป็นพวกที่น่าจะโดนรังแกได้ง่าย แต่เพราะแรปนี้เองที่ทำให้เขากลายเป็น บางคน ขึ้นมา และกล้าที่จะฝันเอาดี ไปไกลได้กว่าเด็กในคลองเตยที่เป็นภาพจำของสังคมว่าไม่โตไปค้ายา ทำผิดกฎหมาย ก็คงอยู่หรือตายในคุกเท่านั้น
ซึ่งแม้จะมีคาแรกเตอร์ตัวนำเรื่องที่น่าสนใจ พร้อมเรื่องราวความดังข้ามคืนแบบหนังชวนฝันสูตรสำเร็จ แต่ผู้สร้างหนังก็ไม่ได้ฉาบฉวยเอาสะดวกเท่านี้ และก็ไม่เพียงแค่จะเป็นเรื่องราวการเดินทางอันยาวไกลของฮีโรตกยาก ที่ต้องพบอุปสรรคนานาจนกว่าจะประสบความสำเร็จ เพราะหากเป็นเพียงเช่นนั้นก็คงเป็นเพียงอีกหนึ่งเรื่องเล่าฮีโรที่เห็นดาษดื่นเท่านั้น
แต่หนังกลับมีเรื่องเล่าที่ต่างจากสูตรสำเร็จไปแบบที่เราก็ไม่คาดคิด ซึ่งหากจะ สปอยล์ บ้างพอยั่วน้ำลายก็คงเป็นการปะทะความคิดที่ไม่มีใครผิดหรือถูกของสองสหายรักต่างวัยที่เราเดินร่วมทางกลับเขามาตลอด จนรู้สึกใจหายอยู่หลายครั้งกับทุกความเปลี่ยนแปลงในชีวิตพวกเขา
และมันยังเชื้อเชิญอย่างจงใจให้เราตั้งคำถามกับบริบทรอบตัวของน้องทั้งสองคน ตั้งแต่จุดเล็ก ๆ อย่างครอบครัว ใหญ่ขึ้นเป็นชุมชน ความเหลื่อมล้ำของชนชั้น แนวคิดของระบบการศึกษา ยาวไปถึงนโยบายของรัฐ และทัศนคติของผู้นำประเทศที่มีต่อเด็กได้ถึงขนาดนั้นเลย และคงต้องยอมรับโดยดุษฎีว่าฉากโมโนล็อกของ พลเอกประยุทธ จันทร์โอชา คือช่วงเวลาที่หนังอัดเอาจุก ทั้งยังเปล่งประกายมากที่สุดฉากหนึ่งทีเดียว
ซึ่งชะตากรรมของทั้ง 2 สหายในท้ายสุดของหนังที่ไม่ได้เกินคาดคิดสำหรับผู้ชมที่ตระหนักความจริงของโลกใบนี้ จะว่าไปหากอยู่ในหนังบันเทิงก็คงหนักต่อความรู้สึกเราเพียงหมัดแย็บสองสามที แต่เมื่อมันเป็นบันทึกจากเรื่องจริงแล้ว ก็ได้เปลี่ยนน้ำหนักกลายมาเป็นหมัดฮุกหรือเคาต์เทอร์แอตแทกค์ใส่หน้าผู้ชมได้อย่างจังอยู่ไม่น้อย