หมวดหมู่ : หนังผจญภัย , หนังดราม่า , หนัง Netflix , หนังครอบครัว
เรื่องย่อ : A Boy Called Christmas เด็กชายที่ชื่อคริสต์มาส (2021) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : A Boy Called Christmas เด็กชายที่ชื่อคริสต์มาส
แนว/ประเภท : Adventure, Drama, Family
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Gil Kenan
บทภาพยนตร์ : Gil Kenan, Ol Parker, Matt Haig
นักแสดง : Maggie Smith, Isabella O'Sullivan, Joel Fry
วันที่ออกฉาย : 18 November 2021
นิโคลัส เด็กชายผู้มีจิตใจมุ่งมั่นออกเดินไปบนเส้นทางแห่งโชคชะตาในดินแดนมหัศจรรย์ของเหล่าเอลฟ์ เพื่อออกเดินทางตามหาพ่อและนำพาของขวัญแห่งความหวังกลับมา
IMDB : tt10187208
คะแนน : 6.6
รับชม : 1821 ครั้ง
เล่น : 831 ครั้ง
หนังดัดแปลงมาจากนิยายเด็กชื่อเดียวกันของ "แมตต์ เฮก" ที่เคยตีพิมพ์ไปเมื่อ 5-6 ปีก่อนและค่อนข้างประสบความสำเร็จไม่เบา โดยหนังได้ "กิล คีแนน" ผู้กำกับที่มีสไตล์ในการเล่าเรื่องและผ่านงานสร้างเนื้อหาเกี่ยวกับเยาวชนมาหลายเรื่อง ไม่ว่าจะเป็น City of Ember หรือ Monster House นั่นจึงเป็นข้อดีที่ทำให้เขารู้จักวิธีและทิศทางในการนำทางได้เป็นอย่างดี และรู้ว่าองค์ประกอบไหนควรใส่ไว้ตรงไหน
แต่กระนั้นแล้วข้อด้อยเด่นๆ ของหนังเรื่องก็กลายเป็นบทภาพยนตร์และการเล่าเรื่องที่ชวนซ้ำซากไปสักหน่อย ถึงแม้ว่าหนังจะพยายามเล่าเกี่ยวกับต้นกำเนิดของคุณลุงซานต้าครอสในคืนวันคริสต์มาส แต่สุดท้ายก็กลายเป็นเพียงหนังผจญภัยแฟนตาซี ที่มีสัตว์พูดได้แบบดาดดื่นที่ไม่ได้ลงน้ำลงเนื้ออะไรมากสักเท่าไหร่ เป็นหนังที่มีโจทย์ง่ายๆ และตอบโจทยได้ง่ายๆ ทุกอย่างย่อยง่ายไปหมด และก็กลับเป็นหนังที่ดูแล้วลืมง่ายไปด้วย
A Boy Called Christmas ยังมาพร้อมกับทีมนักแสดงชุดใหญ่ ไม่ว่าจะเป็นดาราอาวุโส "แม็กกี้ สมิธ" ที่น่ารักเหมือนเคย ร่วมด้วย "โจเอล ฟราย", "มีเคิล เฮยส์มัน", "จิม บรอดเบนต์", "คริสเตน วิก", "แซลลี ฮอว์กินส์" และที่ไม่พูดถึงคงจะไม่ได้ก็คือ "เฮนรี่ ลอว์ฟูล" นักแสดงเด็กหน้าใหม่ที่ถือว่ามารับบทนำในหนังใหญ่เป็นเรื่องแรก กับคาแรกเตอร์เด็กน้อยผมแดงที่เต็มไปด้วยเสน่ห์ แม้ว่าฝีมือทางการแสดงของเขาจะยังไม่ได้เฉิดฉายเจิดจรัสอะไรขนาดนั้น แต่หนังเรื่องแรกของเขาก็ถือว่าสอบผ่าน โดยเฉพาะความเก่งกาจที่ต้องเล่นคู่กับซีจีอยู่ในหลายฉาก
หนังเรื่องนี้พลอยทำให้เรารู้สึกหลงใหลไปได้ในรูปแบบเดียวกับตอนที่เคยตื่นตาตื่นใจกับภาคแรกของ "The Chronicles of Narnia" เมื่อทศวรรษก่อน ภาพของหนังดูมีมนต์ขลังและใส่ความแฟนตาซีเอาไว้ได้อย่างเหมาะสม แม้ว่าการเล่าเรื่องกับโครงเรื่องของหนังค่อนข้างจะอ่อนและมีปัญหาอยู่ประปรายรายทางไปหมด ด้วยความที่พล็อตแทบไร้น้ำหนักและไม่มีความหนักแน่นในตัวสักเท่าไหร่ แต่ก็ทำได้แค่เป็นหนังแฟนตาซีที่ดูได้เพลินๆ บันเทิงไม่ยาก