หมวดหมู่ : หนังผจญภัย , หนังดราม่า , หนัง Netflix , หนังครอบครัว
เรื่องย่อ : The Water Man เดอะ วอเตอร์แมน (2020) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์: The Water Man เดอะ วอเตอร์ แมน (2021)
ผู้กำกับภาพยนตร์: David Oyelowo
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Emma Needell
นักแสดง: Rosario Dawson, Maria Bello, Alfred Molina
แนว/ประเภท: ผจญภัย, ดราม่า, ครอบครัว
ความยาว:
วันที่ฉาย: 9 กรกฎาคม 2021
เมื่อหมดหนทางจะรักษาแม่ที่ล้มป่วย หนุ่มน้อยกันเนอร์วัย 11 ปี ตัดสินใจหนีออกจากบ้านเพื่อดั้นด้นตามหาผู้วิเศษในตำนานที่ผู้คนต่างเล่าขานว่ามีพลังโกงความตาย
IMDB : tt4779326
คะแนน : 5.2
รับชม : 2481 ครั้ง
เล่น : 748 ครั้ง
เรื่องนี้เป็นหนังเด็ก ประเภท Coming of Age สอนให้เด็กเรียนรู้ความเจ็บปวดในชีวิตเพื่อก้าวข้ามไปสู่การเป็นวัยรุ่นและวัยผู้ใหญ่
ก่อนอื่นต้องรีวิวว่า แม้ว่าฉากหน้าของเรื่องนี้จะทำเหมือนเป็นหนังเด็กแนวแฟนตาซีเหนือจริง แต่ที่จริงแล้วมันสร้างออกมาโดยต้องการยั่วล่อและเล่นกับจินตนาการของเด็กๆ ที่คาดหวังว่าจะมีสิ่งลี้ลับเหนือธรรมชาติซุกซ่อนอยู่ในสถานที่ลี้ลับเช่นในป่าเขา ซึ่งเชื่อว่าแทบทุกคนเคยผ่านกันมาเกือบหมดแล้ว แล้วก็ไม่ได้ผิดแปลกอะไรที่เด็กๆ จะเชื่อเรื่องราว ตำนาน เรื่องเก่าแก่ ที่ผสมผสานระหว่างความจริงและเหนือจริงทำนองนี้ เพราะผู้ใหญ่จำนวนไม่น้อยก็แอบมีความเชื่อเรื่องพวกนี้เช่นกัน ซึ่งหนังที่สร้างออกมาแนวนี้จะพบบ่อยมากในโลกตะวันตก ส่วนมากมีต้นฉบับมาจากวรรณกรรมเยาวชน หรือนิยายภาพ ตัวหนัง เดอะวอเตอร์แมนเองก็มีความจงใจนำเสนอแบบนั้น จึงมีการใช้เทคนิคแบบอนิเมชั่นเข้ามาผสมผสานในระหว่างการเล่าเรื่องราวที่เหนือจริงด้วย เสมือนต้องการบอกคนดูว่า ถ้ามีฉากแนวอนิเมชั่นเข้ามาเมื่อไหร่ แสดงว่านั่นคือเรื่องเล่าแนวแฟนตาซี ไม่ใช่ของจริง แต่ก็ถือว่าใช้กราฟฟิก CG เข้ามาช่วยในส่วนนี้ได้ค่อนข้างดีกว่าหนังเด็กทุนต่ำทั่วไป
แต่จุดด้อยของเรื่องนี้ก็มีเยอะ เช่น การเดินเรื่องที่ค่อนข้างช้า กระจัดกระจายไปหลายส่วนมาก มีแอร์ไทม์ที่ไม่จำเป็นเยอะ การผจญภัยเล็กๆ ของคู่หูเด็กอย่าง กันเนอร์และโจ ก็นำเสนอได้น่าเบื่อไปนิด ทั้งที่สามารถเล่าให้สนุกได้มากกว่านี้ เรียกว่ามีวัตถุดิบค่อนข้างดี แต่การเล่าเรื่องยังมีปัญหา อีกจุดคือการที่หน้าหนังเหมือนต้องการขายความเป็นแฟนตาซี เด็กผู้ชายผิวสีถือดาบซามูไรที่เหมือนจะไปต่อสู้กับอะไรบางอย่าง แต่ที่จริงแล้วมันไม่ได้มีอะไรมากไปกว่าจินตนาการของเด็กชายที่หมกมุ่นกับเรื่องเล่าท้องถิ่นเท่านั้นเอง
ภาพรวมการเล่าเรื่องและนำเสนอของเรื่องนี้ ถ้าเทียบกับหนังเด็กในแนวคล้ายกันอย่างเช่น Hugo, Bride of Terabithia โดยเฉพาะเรื่องหลังที่เล่นประเด็นความสูญเสียเหมือนกัน ถือว่าเรื่องนี้ยังเทียบไม่ได้เลย แต่ก็ถือว่าเป็นหนังเด็กที่มีสาระที่ดี เด็กๆที่อยู่ในสถานการณ์คล้ายกับสองตัวเอกในเรื่องนี้ ทั้งการเผชิญหน้าความสูญเสียที่กำลังจะเกิด หรือประเด็นความรุนแรงในครอบครัว พวกเขาก็อาจจะอินและเชื่อมโยงกับหนังไปเลยก็ได้
สรุปแล้ว นี่เป็นหนังเด็กแนว Coming of Age ที่บอกเล่าจินตนาการเหนือจริง กับนำเสนอเรื่องความสูญเสียและความเจ็บปวดที่เด็กๆต้องเผชิญหน้าเพื่อจะเป็นผู้ใหญ่ ที่หากไม่คิดอะไรมากก็ดูได้เพลินๆ