หมวดหมู่ : หนังดราม่า
เรื่องย่อ : Still Human สติล ฮิวแมน (2018) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์: Still Human สติล ฮิวแมน (2018)
ผู้กำกับภาพยนตร์: Oliver Siu Kuen Chan
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Oliver Siu Kuen Chan
นักแสดง: Anthony Chau-Sang Wong, Crisel Consunji, Sam Lee
แนว/ประเภท: ดราม่า
ความยาว: 1 ชม. 55 นาที
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 8 พฤศจิกายน 2018
“ในช่วงเวลาที่ท้อแท้ที่สุด ใครคือคนที่รักเรา” เมื่อคนที่แตกต่างกันอย่างสิ้นเชิงในแทบทุกด้านแต่ต้องใช้ชีวิตอยู่ร่วมกัน
ส่งผลให้เปิดมุมมองใหม่ๆ ที่ไม่เคยคิดมาก่อน “เหลียงจงหวิง” (หวงซิวเซิง/แอนโทนี หว่อง) เป็นชายสูงอายุที่ป่วยเป็นอัมพาต เขาเคยต้องใช้ชีวิตอย่างสิ้นหวัง
จนกระทั่ง “เอเวอลีน ซานโตส” (คริเซล คอนซุนจิ) สาวผู้ดูแลชาวฟิลิปปินส์ที่พักความฝันจากการเป็นช่างภาพมาทำงานหาเงินที่ฮ่องกงเข้ามาในชีวิต
เมื่อคนแปลกหน้าทั้งสองต้องมาอยู่ร่วมชายคา ผ่านฤดูกาลแล้วฤดูกาลเล่า พวกเขาจึงได้รู้จักกันมากขึ้น พร้อมกับเข้าใจในตัวตนของตัวเอง
และรับรู้รสชาติของชีวิตที่มีสีสันแตกต่างออกไป เกิดเป็นมิตรภาพอบอุ่นระหว่างมนุษย์สองคนที่ไม่มีข้อจำกัดของเชื้อชาติหรือสถานะเข้ามาเกี่ยวข้อง
IMDB : tt8497794
คะแนน : 7.6
รับชม : 513 ครั้ง
เล่น : 117 ครั้ง
น่าเสียดายเล็กน้อยที่เข้าโรงหนังไม่ทันเพราะหนังเริ่มไปแล้ว ทำให้อดได้ดูช่วงต้นของหนังไปเสี้ยวหนึ่ง แต่ก็พอมองเห็นมิตรภาพที่ก่อเกิดขึ้นเรื่อยๆ ผ่านช่วงเวลาที่พวกเขาทั้งสองคนได้ใช้ชีวิตร่วมอยู่ในอพาร์ตเมนต์ห้องเดียวกัน
มิตรภาพที่ผ่านกาลเวลา
เพราะเธอต้องดูแลเขาตั้งแต่ตื่นยันนอน ทั้งดูแลชายผู้พิการและทั้งทำความสะอาด ช่างเป็นภารกิจที่แสนเหนื่อยจนน่าคิดว่าเธอได้ค่าจ้างมากน้อยเท่าใดกัน เดิมทีเพื่อนร่วมชาติที่มาหากินในฮ่องกงก็เป่าหูเธอต่างๆ นานา ทำให้เธอมองว่า “ก็แค่งาน” ทำไปโดยสิ่งไหนที่จะทำให้พวกเธอสบายที่สุดก็จงทำ แต่ไปๆ มาๆ คำว่า ‘ครอบครัว’ ก็เริ่มคืบคลานเข้ามาหาเธอโดยไม่รู้ตัว
ด้วยความที่พื้นฐานจิตใจก็เป็นคนดีด้วยกันทั้งคู่ แม้การปรับตัวเข้าหากันจะมีปัญหาบ้างในช่วงแรก แต่ก็พอเข้าที่เข้าทางได้ในเวลาต่อมา ด้วยการใส่ใจในสิ่งเล็กสิ่งน้อยระหว่างกัน มองเห็นหัวใจของอีกฝ่าย ทำให้มิตรภาพมันงอกงามเติบโตขึ้นอย่างเห็นเด่นชัด แม้สองคนจะมีความต่าง ต่างทั้งที่มา ต่างทั้งสถานะ
แต่สิ่งที่มีเหมือนๆ กันได้ก็คือ ความเป็นคน และ ความฝัน
สิ่งเล็กในสิ่งใหญ่
ในพล็อตใหญ่อย่างเรื่องราวของมิตรภาพและความฝัน ก็ยังมีพล็อตรองที่เล่าเรื่องของผู้คนที่ข้ามน้ำข้ามทะเลไปทำมาหาเงินในต่างประเทศ พวกเขากลายเป็นแรงงานต่างด้าวและมีชีวิตที่ยากลำบากในดินแดนที่ไม่ใช่ประเทศบ้านเกิดของตนเอง ถูกมองอย่างดูถูกจากคนที่บอกว่าตัวเองเป็นเจ้าถิ่น โดนกดโดนเอารัดเอาเปรียบถูกหลอกสารพัดด้วยความไม่รู้ภาษา
เมื่อนางเอกสาวชาวฟิลิปปินส์ได้เข้าไปอยู่ในฮ่องกง นอกจากต้องทำงานหนักและประหยัดเงินเอาไว้เพื่อเก็บออมหรือเพื่อความฝันบางอย่าง เธอเริ่มมีเพื่อนจากชาติเดียวกัน คุยภาษาเดียวกัน ปรับทุกข์กัน ช่วยเหลือกัน ให้คำปรึกษากัน นั่นคงเป็นหนทางที่ช่วยคลายความกดดันเมื่ออยู่ในต่างที่ต่างถิ่นไปได้บ้าง
น้ำตามันไหลเพราะดีใจที่ได้เห็นนายจ้างมองอีกผู้ดูแล(ที่ใครๆ ก็มองว่าเป็นแค่คนใช้) ว่า “เป็นคน” เหมือนๆ กัน ทั้งยังรับเธอเข้ามาเป็นครอบครัว เช่นเดียวกับเหล่าตัวละครผู้ดูแลที่สุดท้ายก็ร่ำไห้ให้กับนายจ้างของตัวเองเฉกเช่นกัน
หนังจึงมีประเด็นรองที่สอดแทรกอยู่ในประเด็นใหญ่ที่แข็งแรง
เกิดเป็นมนุษย์อย่างหยุดฝัน
ความเป็นมนุษย์ที่ถูกใส่ไว้ในเรื่องนั้นมันมีหลายสิ่งด้วยกัน หนึ่งในนั้นคือความเอื้อเฟื้อเห็นอกเห็นใจซึ่งกันและกัน เพราะต่างคนต่างก็ย่อมมีเหตุผลในการกระทำของตัวเอง อาจปกปิดในระยะแรกแต่เมื่อสนิทชิดเชื้อก็เริ่มเปิดอกคุยเรื่องในใจกันได้
นอกจากนี้ มนุษย์ก็ยังมีความฝันอันเป็นสิ่งที่ทำให้พวกเขาดำรงชีวิตได้อย่างมีแรงผลักดัน
ขณะที่ตัวละครหนึ่งเปิดเผยความฝันในการเป็นตากล้องนักถ่ายภาพแต่ไม่เคยได้ทำมันเพราะมีบางสิ่งฉุดรั้งไว้และจำใจมุ่งแต่งานดูแลคนอื่น เมื่ออีกคนมองเห็นและคอยผลักดัน เป็นมิตรภาพที่ชวนอิ่มเอิบใจเกินบรรยาย
แต่อีกคนที่คอยช่วยผลักดันนั้นเขาเคยมีอนาคตและครอบครัวที่อบอุ่น แต่หลังจากกลายเป็นคนพิการที่ครอบครัวหนีห่าง ฝันที่เคยวางวาดไว้ไม่อาจเป็นจริง เขาหมดสิ้นความฝันนั้นไปแล้ว เธอยังพยายามกอบกู้มันขึ้นมาใหม่ ต่างคนต่างเป็นแรงผลักดันให้อีกฝ่ายก้าวไป
แววตาของตัวละครย่อมบอกได้ดีในทุกครั้งที่ความฝันมีวี่แววจะสำเร็จไปอีกขั้น
ตัวหนังทำออกได้ดีไม่มีขาดตก แม้เรื่องราวดูไม่หวือหวาแต่ไม่มีตรงไหนน่าเบื่อจนชวนง่วง มีสิ่งใหม่ที่พาเรื่องราวเดินไปได้อยู่ตลอด หลายช็อตพากลั้นน้ำตาไว้ไม่รู้ ถ้อยคำเล็กๆ และการทิ้งภาพเอื่อยๆ พาสะอึกสะอื้นสะเทือนใจไปพร้อมๆ กับความรู้สึกถูกผลักดันสร้างแรงบันดาลใจ