หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย , หนังตลก , หนัง Netflix , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : How I Became a Superhero ปริศนาพลังฮีโร่ (2021) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์: How I Became a Superhero ปริศนาพลังฮีโร่ (2021)
ผู้กำกับภาพยนตร์: Douglas Attal
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Cédric Anger, Douglas Attal, Gérald Bronne
นักแสดง: Pio Marmaï, Leïla Bekhti, Vimala Pons
แนว/ประเภท: แอคชั่น, ผจญภัย, ตลก
ความยาว:
วันที่ฉาย: 9 กรกฎาคม 2021
ในโลกที่มนุษย์และยอดมนุษย์อาศัยอยู่ร่วมกัน ตำรวจรักสันโดษได้หันไปร่วมมือกับนักสืบสมองไวเพื่อหาทางโค่นล้มแผนการร้ายที่ต้องการยึดครองพลังพิเศษ
IMDB : tt10345590
คะแนน : 5.9
รับชม : 2658 ครั้ง
เล่น : 962 ครั้ง
แม้หน้าหนังจะเป็นหนังซูเปอร์ฮีโร่แต่จริง ๆ แล้วเป็นหนังสืบสวนสลับกับโชว์พลังซูเปอร์ฮีโร่เป็นระยะ ๆ พร้อมกับการทำงานของตำรวจที่ต้องรับมือกับคดีปริศนาต่าง ๆ ที่เรื่องทิ้งปมไว้ก่อนจะพาเราไปสำรวจชีวิตของตัวละครเอกชายหญิงทั้งสองคนที่พยายามจะไขปริศนาเหล่านี้ โดยมีตัวละครที่มีพลังวิเศษที่มีพลังหลากหลายซึ่งอาจจะไม่ได้เวอร์วังอลังการอะไรแบบหนังซูเปอร์ฮีโร่ทุนสูงที่เน้นเนื้อเรื่องที่เน้นไปทางฮีโร่ แต่จริง ๆ แล้วหนังให้ภาพสะท้อนของมนุษย์ที่พยายามจะใช้ชีวิตร่วมกับฮีโร่ แต่อีกด้านก็อยากมีพลังวิเศษหรือแม้แต่อยากทำลายมัน ทำให้เกิดความขัดแย้ง หนังนั้นอัดแน่นไปด้วยรสชาติที่หลากหลายทั้งตลก ตื่นเต้น ระทึกขวัญชวนให้ติดตามว่าใครกันแน่ที่อยู่เบื้องหลัง มีตัวร้ายในสไตล์หนังฮีโร่ที่โผล่มาแต่ละครั้งก็น่าสะพรึงตลอด พร้อมกับความสัมพันธ์สุดโรแมนติกที่หยอดเข้ามาแบบกำลังพอเหมาะ และตัวละครที่ตอนแรกไม่ค่อยน่าสนใจให้เอาใจช่วย จนกระทั่งเวลาผ่านไป หนังจะค่อย ๆ เฉลยปมที่คาดไม่ถึงก่อนจะเดินเรื่องอย่างรวดเร็วและระเบิดฉากแอ็คชั่นแบบเตะเป็นเตะต่อยเป็นต่อยและสะใจมาก ๆ พร้อมการหักเหลี่ยมระหว่างตำรวจกับผู้มีพลังวิเศษที่สามารถทำร้ายคนบริสุทธิ์ได้ในตอนท้ายในระดับที่อลังเท่าที่หนังจะมอบให้ได้ แน่นอนว่ามีฉากเท่ ๆ ของเหล่าตัวละครพลังวิเศษที่สลับมุมมองของเรื่องราวก่อนจะเชื่อมโยงเป็นหนึ่งเดียวกันอย่างพอดิบพอดี และบทสรุปของเรื่องที่จัดเต็มและพร้อมจะปูให้มีภาคต่อแบบเท่ ๆ ถ้าหากเขาจะทำล่ะนะ
ความแปลกใหม่ของเรื่องคือตัวละครหลักไม่ได้เป็นซูเปอร์ฮีโร่แต่เป็นตำรวจธรรมดาที่ไม่มีพลังวิเศษที่พยายามไปกับการตามล่าหาความจริง และทำคดีไปเรื่อย ๆ โดยซูเปอร์ฮีโร่ในเรื่องไม่ได้เป็นตัวดีแบบหนังเรื่องอื่น แต่เป็นตัวร้ายที่หนังหลายเรื่องก็น่าจะเคยทำ แต่นี่เป็นหนังสืบสวนหาความจริงกึ่ง ๆ ซูเปอร์ฮีโร่ ตัวป่วนของเรื่องจึงเป็นเด็กมีปัญหาที่ใช้พลังอันเกินขีดกำจัดก่อเรื่องวุ่นวาย ปฏิบัติการต่าง ๆ ที่เขาทำโดยใช้ความฉลาดโดยไม่ต้องใช้พลังแต่สามารถไขปริศนาแม้ว่าเขาจะได้ปะทะกับฮีโร่เหล่านี้โดยตรง พร้อม ๆ กับยอดนักสืบหญิงที่แม้บทจะดูเป็นตัวละครสนับสนุนแต่ก็มีประโยชน์ในแง่ของความฉลาดในการช่วยตัวเอกตามหาเบาะแส และช่วยเหลือในสถานการณ์ยามคับขัน มีซีนรักโรแมนติกที่สวยงามให้ได้เห็นว่าทั้งสองคนค่อย ๆ รักกันได้ยังไง สลับการเล่าปัญหาของเยาวชนที่คึกคะนอง ที่อยากเล่นสนุกจนลืมคิดถึงตัวเองที่นำมาซึ่งภัยต่อตัวเองและคนรอบตัว แม้แต่ตัวละครซูเปอร์ฮีโร่ที่ปัจจุบันแอบแฝงอยู่ในโลกโดยทำตัวเป็นคนปกติที่ดูไม่ปกติสักเท่าไหร่ แต่ก็คอยช่วยเหลือและโชว์พลังที่แสนวิเศษให้เราเห็น บทพูดของตัวละครนั้นมีความเป็นธรรมชาติ ไม่ดูเป็นบทที่เน้นเอาเท่ จริงจัง ดูเป็นแบบที่คนทั่วไปจะพูดแทรกด้วยฉากตลก ๆ ผ่านการกระทำของตัวละครทั้งฝั่งมนุษย์และซูเปอร์ฮีโร่ที่ตัวร้ายเอง
ประเด็นของเรื่องถือว่าใช้ได้เลย โดยเฉพาะเรื่องของการพูดถึงพลังวิเศษที่เชื่อมโยงกับอาการทางจิตซึ่งมันมีความพยายามจะอธิบายในทางวิทยาศาสตร์ การเป็นซูเปอร์ฮีโร่ต้องแลกมาด้วยอะไรบ้าง ความแตกต่างของคนที่มีพลังวิเศษเพื่อช่วยเหลือคนอื่นกับทำร้ายคนอื่น การมองว่าพลังฮีโร่นั้นเป็นคำสาป และการยอมรับที่จะเป็นตัวเองอย่างเต็มเปี่ยมซึ่งพอเป็นหนังฝรั่งเศสมันก็จะมีความแปลกใหม่หน่อย ๆ ตรงประเด็นมันจะถูกนำเสนอแบบให้เก็บรายละเอียดของโลก ไม่ได้บอกคนดูแบบโต้ง ๆ แต่ให้เราสำรวจผ่านตัวละครและปมของตัวละคร ที่น่าเสียดายคือช่วงท้ายเรื่องดูพยายามจะโชว์ว่านี่เป็นหนังฮีโร่และจบลงแบบง่าย ๆ ตามสูตรสำเร็จของหนังฮีโร่ โดยที่มันไม่ได้บิวต์อารมณ์หรือแรงขับเคลื่อนมากพอที่จะทำให้เข้าใจว่าทำไมหรือยังไง ทั้งที่ปมอะไรมันน่าสนใจเอามาก ๆ แต่ตัวละครบางตัวที่ดูจะมีประโยชน์อะไรแต่ก็ไม่ได้มีอะไรโดดเด่นมากเหมือนที่หนังพยายามนำเสนอ เช่นตัวละครเด็กผู้หญิงที่ปูมาว่ามีพลังวิเศษ แต่ดันกลายเป็นตัวละครที่สำคัญแค่ในทางที่ตัวร้ายต้องการพลังและถูกจับตัวไปยันจบเรื่อง ในส่วนของคอสตูมฮีโร่ก็ดูเท่ในแบบฝรั่งเศส ดูอินเตอร์ด้วย
สำหรับนักแสดงไม่รู้จักสักคน แต่เล่นได้ดีและเป็นธรรมชาติ ซีนอารมณ์อาจจะไม่มากแต่ก็ทำให้เราอินโดยเฉพาะความสัมพันธ์ของตัวละครที่มีทั้งสุข ทุกข์ น่าเกรงขาม และดูมีเสน่ห์แทบทุกตัว แม้ว่าหนังจะไม่ได้ให้เวลากับตัวละครเหล่านี้มากเท่าที่ควร ที่ขอชมเลยคืองานภาพที่เป็นส่วนผสมของหนังทุนต่ำกับมุมกล้องกว้างแบบหนังฮีโร่ที่ฉับไวและแปลกใหม่พร้อมกับงานซีจีที่มีไม่มากแต่ก็ไม่ไก่กา แค่มันไม่ได้ถูกขับเน้นเหมือนกับหนังทุนสูงเรื่องอื่น ทำให้เราเชื่อได้ว่าคนที่มีพลังวิเศษทั้งในด้านไฟ น้ำแข็ง หรือพลังสนามแม่เหล็กดูน่าเชื่อถือและไม่ดูโอเวอร์พาวเวอร์เกินไป ดนตรีถือว่าแนวและติดหูมากมันผสมผสานระหว่างดนตรีแบบอนาคตและสไตล์หนังไซไฟมีการเร้าอารมณ์มีการใช้ซาวนด์เอฟเฟกต์ตอนฉากแอ็คชั่นได้แบบเข้มข้น เสริมอารมณ์ในฉากบู๊ที่มีไม่มากแต่ดุเดือน เสียงตุ้บตั้บ และฉากปล่อยพลังตอนท้ายที่สุดอลังการมาก อยากให้ทุกคนได้เห็นจริง ๆ