หมวดหมู่ : หนังตลก , หนังดราม่า , หนัง Netflix
เรื่องย่อ : The House of Flowers Presents: The Funeral บ้านดอกไม้ ตอนบอกลาเบอร์คีเนีย (2019) [บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์: The House of Flowers Presents: The Funeral บ้านดอกไม้ ตอนบอกลาเบอร์คีเนีย (2019)
ผู้กำกับภาพยนตร์: Manolo Caro
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Manolo Caro , Gabriel Nuncio
นักแสดง: Cecilia Suárez , Aislinn Derbez , Isabel Burr
แนว/ประเภท: ตลก, ดราม่า
ความยาว:
วันที่ฉาย: 23 มิถุนายน 2564
The House of Flowers หรือชื่อดั้งเดิม La casa de las flores (บ้านดอกไม้) ซีรีส์ Mexico ของ Netflix ที่หยิบยกเรื่องราวของครอบครัวร้านดอกไม้อันมีชื่อเสียง ภาพลักษณ์ที่แสนจะสมบูรณ์แบบนั้น กลับมีเบื้องลึกเบื้องหลังซ่อนอยู่ อันเต็มเปี่ยมไปด้วยเรื่องราวสุดฉาว ปั่นป่วน วุ่นวาย ที่ชวนให้น่าติดตาม จนเรานั้นแทบจะคาดไม่ถึง
IMDB : tt11218222
คะแนน : 7.6
รับชม : 271 ครั้ง
เล่น : 31 ครั้ง
ซีรีย์เป็นแนวคอมเมดี้ ครอบครัว ที่หยิบยกเรื่องราวประเด็นของครอบครัวมาพูดถึงได้อย่างน่าสนใจ จากภายนอกที่ดูสมบูรณ์แบบของครอบครัวนี้ กลับมีความตลกร้ายแฝงอยู่ ที่เริ่มต้นมาตั้งแต่โศกนาฏกรรมตอนเริ่มเรื่อง ตัวเราที่รับชมอยู่จะต้องคิดแน่ ๆ ว่าระหว่างเรื่องหลังจากนั้นมันจะต้องมีการสืบสวนเพื่อคลายปมต่าง ๆ กัน แต่ไม่ใช่อย่างงั้นเลย ตัวซีรีส์เฉลยทันทีที่จบในตอนแรกและเล่าต่อถึงเหตุการณ์ที่ส่งผลในถัด ๆ ไป เป็นเรื่องราวของการประคับประคองความสัมพันธ์ในครอบครัวที่มีรอยร้าวใหญ่ ผ่านความลับต่างๆ ที่ค่อยๆ เปิดเผยออกมา โดยมีเรื่องความหลากหลายทางเพศของตัวละครหลายตัวเข้ามาเป็นหนึ่งในประเด็นหลักของเรื่องร่วมด้วย ซึ่งทั้งหมดถูกหยิบยกออกมาเล่าได้อย่างลงตัวและสนุกสนาน มีหลากหลายอารมณ์ให้เราได้รับชม ไม่ว่าเป็นทั้ง คอมเมดี้ ดราม่า โรแมนติก
จุดเด่นของซีรีส์เรื่องนี้คือชื่อ บ้านดอกไม้ The House of Flowers นี้แหละ ซึ่งก็ยังคงเป็นคอนเซ็ปต์สำคัญของเนื้อเรื่องทั้งหมด ถ้าให้เปรียบเปรียบบ้านหลังนี้ ครอบครัวนี้ ก็เหมือนกับหมู่ดอกไม้ที่ถูกจัดวางได้อย่างสวยงาม ต่างเป็นดอกไม้ชนิดต่าง ๆ ที่แตกต่างกัน และมารวมตัวกันอยู่ในบ้านหลังหนึ่ง มีสีสัน จัดจ้าน สวยงาม แต่ก็ยังแฝงไปด้วยหนามอันแหลมคม สิ่งที่น่าสนใจอีกอย่างในซีรีย์เรื่องนี้คือชื่อตอนในแต่ละตอน จะเป็นชื่อดอกไม้ชนิดต่าง ๆ โดยแต่ละดอกนั้นบ่งบอกถึงเนื้อหาในแต่ละตอน เช่น ตอนที่ 1 มีชื่อว่า NARCISSUS (symb. lies) ใน Netflix โปรไฟล์ภาษาไทยจะใช้ชื่อว่า นาร์ซิสซัส (สัญลักษณ์ของคำโกหก) ที่เป็นการบอกเรื่องราวเกี่ยวกับความลับของบ้านดอกไม้ คำโกหกของผู้เป็นพ่อได้ถูกเปิดโปงออกมาแล้ว
ในส่วนความหลากหลายทางเพศในเรื่องถูกใส่เข้ามาให้มีบทบาทกับเนื้อเรื่องเป็นอย่างมาก อย่างตัวละครในเรื่องที่รู้ตัวว่าตนเองนั้นเป็นเกย์แต่ไม่สามารถเปิดเผยสาธารณะได้ เพราะต้องรักษาชื่อเสียงของครอบครัวเอาไว้ หรือการที่มีตัวละครข้ามเพศเกิดขึ้นกับหลังการแต่งงานมีลูกกันไปแล้ว การเป็นไบเซ็กชวลที่รักทั้งหญิงและชายจนต้องเลือกว่าจะต้องแต่งงานกับใคร เนื้อเรื่องแม้จะมีปมปัญหาที่ดูเครียด แถมเต็มไปด้วยฉาก SEX ของตัวละคร LGTB แบบโจ่งแจ้งมากมาย แต่เรื่องถูกเล่าออกมาแบบสนุกสนานเป็นแบดโจ๊กขำๆ โดยยังมีเนื้อหาสาระจริงจังของประเด็นเหล่านี้อยู่อย่างครบถ้วน ซึ่งท้ายที่สุดแล้วทุกอย่างก็จะคลายปมออก เป็นเรื่องราวของการรู้จักปล่อยวาง การยอมรับเห็นคุณค่าในตัวคนมากกว่าเพศสภาพ อายุ หรือสิ่งอื่นใด
ซีรีย์ทำให้เราเห็นว่าตัวตนของแต่ละคนในเรื่องนี้มีชีวิตสองด้านที่เปิดเผยและปกปิด เหมือนกับบ้านดอกไม้ที่มีอยู่สองหลัง หลังหนึ่งคือร้านขายดอกไม้และอีกหลังนึงคือคาบาเร่โชว์ ที่มีสถานะตัวตนและหน้าที่แตกต่างกัน ร้านแรกเป็นหน้าตาของตระกูล อีกร้านเป็นแหล่งทำเงินที่ช่วยให้ครอบครัวให้อยู่รอด ทั้งคู่ต่างมีความสำคัญกับครอบครัวนี้ ซึ่งการบริหารกิจการของทั้งสองร้านต่างก็มีอุปสรรคเกิดขึ้นมาตลอดเรื่อง คู่กับปัญหาชีวิตของตัวละครในเรื่องจากการมีตัวตนสองด้านเช่นกัน แต่ปัญหาทั้งหมดก็ฝ่าฟันและผ่านพ้นไปได้ด้วย “สายสัมพันธ์ของครอบครัว” นั่นคือจุดเด่นและเสน่ห์ของเนื้อเรื่องบ้านดอกไม้ในซีซั่นแรกนี้
ถึงแม้ว่าซีรีส์จะมีความโดดเด่นน่าสนใจและทำได้ดีลงตัวในหลายๆ ด้าน แต่ด้วยการนำเสนอเน้นตัวละครผู้หญิงกับตัวละคร LGTB หลายตัวในเรื่องเป็นหลัก ก็อาจจะมีจริตแบบสาวๆ และโลกของความสัมพันธ์ตัวละครที่ต่างไปจากปกติมาก ซึ่งถ้าคนไม่อินหรือรับได้กับเรื่องพวกนี้ ก็จะไม่สนุกไปกับเรื่องราวทันที แต่ทั้งนี้ต้องเข้าใจได้ว่าเป็นสิ่งที่ซีรีส์เรื่องนี้อยากจะนำเสนอ
โดยภาพรวมซีซั่น 1 ทำออกมาได้อย่างสวยงาม ทุกตัวละครมีเอกลักษณ์ปมประเด็นต่าง ๆ เป็นของตนเอง นักแสดงเล่นสมบทบาท การดำเนินของเรื่องก็ใส่เอาไว้ได้อย่างแยบยล ความละเอียดในเนื้อเรื่องแทบจะพูดได้เลยว่าสนุก น่าติดตาม และมีความเป็นตัวของตัวเองสูงในการนำเสนอเรื่องราวมากมาย ทุกอย่างในเนื้อเรื่องยังคงคอนเซปต์ The House of Flowers ได้เป็นอย่างดี และถึงแม้มีจุดพีค ปมประเด็นต่าง ๆ ที่เพิ่มเข้ามามากมายของเนื้อเรื่อง ก็ไม่ทำให้เกิดความสับสนแต่อย่างไร บทมันสามารถปูให้มีความสมเหตุสมผลในแบบของมัน ตอนจบในท้ายซีซั่นเป็นการตัดจบแบบทิ้งเรื่องราวไปต่อซีซั่น 2 แต่ไม่ค้างคาเพราะดูต่อได้ทันที