ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

Raya and the Last Dragon รายากับมังกรตัวสุดท้าย (2021) [พากย์ไทย บรรยายไทย]

Raya and the Last Dragon รายากับมังกรตัวสุดท้าย (2021) [พากย์ไทย บรรยายไทย] เต็มเรื่อง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังแอนนิเมชั่น , หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย

เรื่องย่อ : Raya and the Last Dragon รายากับมังกรตัวสุดท้าย (2021) [พากย์ไทย บรรยายไทย]

ชื่อภาพยนตร์: Raya and the Last Dragon รายากับมังกรตัวสุดท้าย (2021)
ผู้กำกับภาพยนตร์: Don Hall , Carlos López Estrada
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Qui Nguyen, Adele Lim
นักแสดง: Kelly Marie Tran, Awkwafina, Gemma Chan
แนว/ประเภท: อนิเมชั่น , แอ็คชั่น , ผจญภัย
ความยาว: 1 ชม. 47 นาที
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 5 มีนาคม 2564



 

“Raya and the Last Dragon – รายากับมังกรตัวสุดท้าย” จะพาเราไปสู่มหากาพย์การผจญภัยในนครแฟนตาซีแห่งคูมันตรา สถานที่ที่มนุษย์และมังกรอยู่ด้วยกันอย่างสงบสุขมาช้านาน แต่เมื่อพลังมืดอันชั่วร้ายได้เข้าคุกคาม เหล่ามังกรได้เสียสละชีวิตของพวกมันเพื่อปกป้องมนุษยชาติ 500 ปีผ่านไป ปีศาจตัวเดิมได้กลับมาอีกครั้ง และมันเป็นหน้าที่ของรายา นักรบสาวผู้กล้าที่จะออกตามหามังกรตัวสุดท้ายในตำนาน เพื่อที่จะกอบกู้แผ่นดินและประชาชนที่แตกแยกให้กลับเป็นหนึ่งเดียวอีกครั้ง อย่างไรก็ตาม ระหว่างการเดินทางของเธอ เธอจะได้เรียนรู้ว่ามันต้องใช้มากกว่ามังกร ในการปกป้องโลก – มันจะต้องใช้ความเชื่อใจและการ่วมมือของทุกคนเช่นกัน

 

IMDB : tt5109280

คะแนน : 7.4

รับชม : 46214 ครั้ง

เล่น : 25522 ครั้ง



 

 

เอาล่ะก่อนจะไปตัดสินว่ารายาเป็นคนชาติไหน ? เรามาทำความเข้าใจในหลักการคิดเรื่องเสียก่อน เอาเข้าจริงคือพลอตเรื่องนี่มาทาง Brave ของฝั่งพิกซาร์ไม่น้อยและมันก็ยังเดินตามไบเบิลหนังทำเงินของดิสนีย์แทบทุกกระเบียดนิ้วโดยเฉพาะตัวละครน่ารักที่มาแย่งซีนโดยเฉพาะ คราวนี้ Raya ก็ขนมาเพียบทั้งเจ้าตุ๊กตุ๊กสัตว์ที่ผสมทั้งความบ้องแบ๊วของหมาตัวเหมือนเม่นและกลิ้งได้เหมือน BB8 ใน Star Wars แถมด้วยเหล่าแก๊งจอมโจรผ้าอ้อมสุดแสบ นำโดยน้อยทารกสาวแสบที่เธอพบในเผ่ากงเล็บ ไม่นับรวมพวกแมวยักษ์ของเผ่าเขี้ยวอีก โอ้โหคือแทบจะสำลักความปุกปุยบ้องแบ๊วกันทั้งเรื่องก็ว่าได้

WHAT THE FACT รีวิว RAYA and the last dragon
WHAT THE FACT รีวิว RAYA and the last dragon

และแน่นอนว่าในสูตรสำเร็จดิสนีย์มักมีประเด็นที่ต้องการสื่อเสมอโดยเฉพาะ Raya เองก็มีประเด็นเรื่องความไว้ใจที่หนังเองก็ช็อกคนดูด้วยฉากเปิดเรื่องที่เต็มไปด้วยหายนะที่น่าตกใจไม่น้อย และมันให้ภาพด้านลบกับความไว้ใจมาก ๆ จนมันนำไปสู่เควสต์ของนางเอกที่ต้องกอบกู้สถานการณ์โดยประเด็นเรื่องความไว้ใจเป็นธีมที่ร้อยรัดกันไปทั้งเรื่องแต่สิ่งหนึ่งที่หนังไม่อาจสร้างความไว้ใจให้เราได้เลยคือโจทย์ของวัฒนธรรมที่หนังเอามานำเสนอนี่แหละ

ทีนี้สิ่งที่คิดว่าน่าสนใจและชวนคิดต่อมากคือการพยายามสร้างโลกและเรื่องราวที่อิงกับความเป็นอาเซียนนี่แหละ ที่ดิสนีย์ก็ไม่ได้เอาวัฒนธรรมมาทื่อ ๆ หรอกนะครับแต่ปน ๆ กันให้เราจับนู่นผสมนี่คิดเอาเองว่ามาจากชาติไหนดังนั้นเราจึงเห็นหน้าตาตัวละครที่โครงหน้าคล้ายคนฮาวายจาก Stitch & Lilo มาอยู่ในชุดคล้ายคนอินโดนีเซียมั่ง เวียดนามมั่ง เดินอยู่ท่ามกลางภูมิประเทศแบบเกาะบาหลี แต่ชื่อตัวละครปน ๆ มีทั้งลาว – ไทยอย่าง น้อย ทอง บุญ ตุ๊กตุ๊ก (แต่มังกรชื่อ ซิซู นะ) บวก ๆ มั่ว ๆ กับชื่อประหลาด ๆ ที่ไม่คุ้นเลยว่าจะเป็นคนอาเซียนแต่หากมองดูดี ๆ เราจะพบว่า Raya อาจกำลังวิพากษ์บางอย่างที่เป็นเอกลักษณ์มากสำหรับคนอาเซียนนั่นคือการหาเรื่องทะเลาะกันเอง

WHAT THE FACT รีวิว RAYA and the last dragon
WHAT THE FACT รีวิว RAYA and the last dragon

ที่แน่นอนเลยว่าแต่ละชาติย่อมจะต้องตีความเข้าข้างตัวเองแน่นอนว่าดิสนีย์หยิบวัฒนธรรมของชาติตนอะไรบ้างไปแอปพลายนำเสนอในแอนิเมชันที่จินตนาการจัด ๆ แบบนี้ลำพังอย่างชื่อตัวละครน้อยเด็กทารกที่ไม่พูดเลยและอยู่แต่กับลิงเนี่ยชวนสงสัยมากเพราะเอาจริง ๆ จะน้อย จะทอง จะบุญ หรือตุ๊กตุ๊กก็ยากจะตัดสินแล้วว่าชื่อแบบนี้คือชื่อคนไทยหรือลาวเพราะเรามีวัฒนธรรมร่วมที่มีความใกล้เคียงกันมากหรือกระทั่งอินโดนีเซีย มาเลเซียเองก็มีความคล้ายกันมาก ๆ จนในสายตาฝรั่งที่แม้ทีมงานบทจะมีชื่อคนเชื้อสายเอเซียอยู่ ก็ยากจะแยกออกจนทำให้หนังดูมีความเป็นพหุวัฒนธรรมที่กลมกลืนกันจนยากจะแยกว่าเอามาจากชาติไหน

แปลกไม่น้อยที่หนังหยิบเอาประเด็นการรวมกันเป็นปึกแผ่นมาพูดควบคู่ไปกับประเด็น “ความไว้ใจ” ที่หนังเอาเป็นธีมหลักของเรื่องราวยิ่งพิจารณาจากนโยบายเขตเศรษฐกิจอาเซียนที่ตั้งแต่ก่อตั้งปี 2510 ยาวมายัน 2553 หรือ 11 ปีก่อนเราแทบ “ไม่เคยมีหัวใจเดียวกัน” สักเรื่องไม่ว่าจะเป็นกำหนดการเปิดเรียนหรือการตกลงเรื่องการค้าที่เป็นรูปธรรมเราได้แค่ “เศษเสี้ยว” ของผลประโยชน์ไม่ต่างจากอัญมณีแห่งมังกรที่หล่นแตกตอนต้นเรื่องดังนั้น Raya and the last dragon ก็เหมือนบทเรียนอาเซียนในอุดมคติที่อเมริกาเหมือนแซะเราว่า “เมื่อไหร่จะมีใครเริ่มเสียที”