ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

Dance of the Forty One 41 เริงระบำ (2021) [บรรยายไทย]

Dance of the Forty One 41 เริงระบำ (2021) [บรรยายไทย]  เต็มเรื่อง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังชีวประวัติ , หนังประวัติศาสตร์

เรื่องย่อ : Dance of the Forty One 41 เริงระบำ (2021) [บรรยายไทย]

ชื่อภาพยนตร์: Dance of the Forty One 41
ผู้กำกับภาพยนตร์:  David Pablos
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Monika Revilla
นักแสดง: Alfonso Herrera, Emiliano Zurita, Mabel Cadena
แนว/ประเภท:  ดราม่า, ชีวประวัติ, ประวัติศาสตร์
ความยาว:
วันที่ฉาย: 12 พ.ค. 2564





รีวิว 41 เริงระบำ หนังเม็กซิโก สร้างโดยอ้างอิงจากเรื่องจริงในช่วงศตวรรษที่ 19 ของลูกเขยหนุ่มของประธานาธิบดีเม็กซิโกที่ความจริงแล้วเขาเป็นเกย์ แต่เพื่ออำนาจและการไต่เต้าทางการเมือง เขากลับมาแต่งงานกับลูกสาวประธานาธิบดี จนกระทั่งสุดท้ายแล้วเรื่องราวกลับบานปลายใหญ่โต เมื่อความสัมพันธ์ของเขากับชายหนุ่มด้วยกันกลับถูกแฉออกมา


 

IMDB : tt11525022

คะแนน : 7.1

รับชม : 1275 ครั้ง

เล่น : 294 ครั้ง



 

ตัวหนังมีสาระที่ต้องการบอกเล่าค่อนข้างชัดเจน เกี่ยวกับประวัติศาสตร์ของชาวเกย์ในเม็กซิโกเมื่อร้อยกว่าปีก่อน สร้างโดยอ้างอิงจากคดีดังในประวัติศาสตร์ของเม็กซิโกเมื่อปี ค.ศ. 1901 เพราะเป็นคดีแรกของเม็กซิโกที่มีการจับกุมตัวกลุ่มคนที่เป็นพวกรักร่วมเพศ และทำให้สื่อเม็กซิโกมีการนำเสนอเรื่องนี้อย่างเป็นทางการ ในยุคสมัยที่เรื่องรักร่วมเพศถือเป็นสิ่งต้องห้ามและรับไม่ได้ในสังคม

ต้องขอชมอย่างหนึ่งคือ หนังพาเราเข้าประเด็นรวดเร็วมาก ใช้เวลาแค่ไม่ถึง 3 นาที เพื่อบอกเราว่า อิกนาซิโอ เดอลาตอเร่ ตัวเอกของเรื่องนี้เป็นเกย์ ที่ต้องแต่งงานกับ อมาด้า ซึ่งเป็นถึงลูกสาวของประธานาธิบดี นั่นย่อมหมายถึง การที่ต้องรักษาภาพลักษณ์ของตนเองให้ดูดี การแต่งงานนี้เป็นการแต่งที่มีผลประโยชน์ทางการเมืองและการไต่เต้าทางอำนาจเข้ามาเกี่ยวข้องแน่นอน ซึ่งตัวอิกนาซิโอ ก็ต้องพยายามอย่างมากที่จะไม่ให้ความลับของเขาถูกเปิดเผย

 

Dance of the forty one


ตัวหนังก็จะนำเสนอชีวิตของอมาด้าที่ไม่ได้มีความสุขอะไรเลย เมื่อสามีของเธอตอบสนองเรื่องบนเตียงให้ไม่ได้ (แม้ว่าเขาจะพยายามแล้ว) ในขณะที่อิกนาซิโอจะเป็นตัวของตัวเองเต็มที่เมื่อเขาอยู่กับ เอวาริสโต รีวาส หรือที่เรียกสั้นๆกันว่า “เอวา” แล้วตัวหนังยังนำเสนอว่า การพาคนๆหนึ่งเข้าสู่วงสังคมเกย์ชั้นสูงนั้น ต้องผ่านการแนะนำตัวอย่างไร แสดงให้เห็นถึงความสัมพันธ์และเกื้อกูลกันของสมาคมนี้ ซึ่งคงไม่ใช่แค่ในเม็กซิโกเท่านั้น แต่ลักษณะที่ว่านี้ ยังสามารถพบได้ในหลายประเทศด้วย (ไทยเราก็ไม่ต่างกัน) อีกทั้งหนังก็มีฉากในลักษณะของการรักร่วมเพศให้เห็นอยู่ตลอดเรื่อง นี่จึงไม่ใช่หนังที่เหมาะสำหรับเด็กอายุต่ำกว่า 13 ปี

ด้านงานโปรดักชั่น งานสร้าง และทีมนักแสดง ไปจนถึงบทต่างๆ ถือว่าทำได้ดีกว่าที่คาดคิด ถือว่าเป็นหนังที่สามารถล่ารางวัลใหญ่อะไรสักอย่างของเม็กซิโกได้อย่างสบาย การถ่ายทำก็มีการใช้เทคนิค Long Take เข้ามาช่วยในบางฉากเพื่อเพิ่มความสมจริง โดยเฉพาะฉากความขัดแย้งอย่างถึงขีดสุดระหว่างอิกนาซิโอและอมาด้า ซึ่งเรื่องนี้อาจจะกระแทกใจคนดูจำนวนหนึ่งก็ได้ เพราะในโลกความเป็นจริงก็มีคู่แต่งงานบางคู่ที่มีปัญหาในลักษณะนี้อยู่เหมือนกันจากการที่พวกเขาไม่สามารถเปิดเผยรสนิยมทางเพศของตนเองได้ และต้องรักษาภาพลักษณ์ของตนเองไว้

ในด้านการแสดง ต้องขอชมนักแสดงหลักอย่าง Alfonso Herrera ที่เล่นได้สมบทบาทเอามากๆ ชนิดที่เชื่อว่าเขาเป็นรักร่วมเพศที่มีความกดดันในจิตใจ รวมถึง Mabel Cadena ที่เล่นได้ยอดเยี่ยมมากกับอมาด้า ภรรยาสาวที่อึดอัดกับชีวิตคู่และต้องการหาทางออกให้ได้

อีกจุดที่หนังพยายามนำเสนอและทำได้ดีก็คือ การบอกเล่าถึงกลุ่มพวกรักร่วมเพศในแบบด้านดี ที่พยายามจะบอกว่าพวกเขาก็ไม่ใช่คนเลวร้ายอะไร ที่จริงแล้วพวกเขาก็แค่กลุ่มคนที่ “พยายามค้นหาพวกเดียวกัน” ภายใต้สังคมที่ไม่ยอมรับพวกเขา ซึ่งสุดท้ายแล้วพวกเขาต่างก็ถูกจับกุมและต้องลงโทษอย่างรุนแรง จนบางทีเราก็อดคิดไม่ได้ว่า แค่พวกเขาเป็นเกย์ พวกเขาต้องรับโทษรุนแรงขนาดนั้นเลยหรือ หนังเรื่องนี้จึงน่าจะช่วยกระตุ้นความคิดทางด้านเพศและศีลธรรมของคนดูในยุคนี้ที่เปิดเผยเรื่องเพศกันมากกว่าร้อยกว่าปีก่อนหน้านี้ด้วย

 

รีวิว Dance of the forty one (Netflix) 41 เริงระบำ หนังเม็กซิโกจากคดีดังของชาวเกย์ 1



ส่วนจุดด้อยก็มีไม่น้อย โดยเฉพาะช่วงกลางเรื่องที่เดินเรื่องได้ช้าและใช้ประเด็นเดิมๆ วนไปมามากไปนิด ทำให้เราอดคิดไม่ได้ว่า ทำไมอิกนาซิโอถึงไม่ยอมที่จะยิดหยุ่นและฝีนความรู้สึกตัวเองอีกสักหน่อยเพื่อประคองชีวิตคู่เอาไว้ เพราะอมาด้าเองก็ประกาศแล้วว่าเธอต้องการลูก แต่ก็นั่นแหละ เพราะหนังสร้างโดยอ้างอิงจากเรื่องจริง ทำให้ผู้สร้างคงต้องอาศัยช่องว่างจากเหตุการณ์จริงมาเสริมเติมเรื่องราวเข้าไป และอีกจุดที่น่าเสียดายก็คือ หนังไม่ยอมบอกเล่าบทสรุปของตัวเอกว่าเกิดอะไรขึ้นกับเขา