ดูหนัง Free Birds (2013) เกรียนไก่ ซ่าส์ทะลุมิติ เต็มเรื่อง

Free Birds (2013) เกรียนไก่ ซ่าส์ทะลุมิติ

งานขอบคุณพระเจ้าสำหรับผมนั้น ค่อนข้างจะห่างไกลเอามากๆ แต่ถ้าใครนับถือศาสนาคริสต์ก็จะใกล้ตัวเขามากๆ เช่นกัน เทศกาลที่ผมรู้เพียงคร่าวๆ ว่าเขาจะมีการกินไก่งวงกัน ส่วนจุดเริ่มต้นมันเป็นอย่างใดนั้น ผมก็ไม่ได้ศึกษา หลังได้ไปชมแอนิเมชั่นเรื่องนี้ ทำให้พบว่าไก่งวงกับงานขอบคุณพระเจ้านั้นแนบแน่นกันยิ่งนัก

ผมกำลังพูดถึงแอนิเมชั่นเรื่องใหม่ที่เพิ่งเข้าชมไป “Free Birds” หรือชื่อไทย “เกรียนไก่ ซ่าส์ทะลุมิติ” ครับ

 

เรื่องราวที่ดูพิลึกพิลั่น เมื่อไก่งวงมันเป็นสัตว์ชนิดเดียวในโลกที่พูดได้ (นอกเหนือจากมนุษย์ แต่มนุษย์ดันฟังมันไม่ออก) ในโลกปัจจุบัน พวกมันถูกเลี้ยงโดยมนุษย์ โดยความโง่หรือซื่อของมันก็ไม่รู้ พวกมันต่างพากันรักมนุษย์และหารู้ไม่ว่าเขาเลี้ยงไว้เพื่อฆ่าเป็นอาหารในวันขอบคุณพระเจ้า

 

แต่ก็มีไก่งวงผ่อมกะหร่องจอมแหกคอกบางตัวนี่แหละ ที่ไปพบเห็นเรื่องนี้เข้า แต่เฝ้าบอกสมาชิกในฝูงเท่าไหร่ก็ไม่มีใครฟัง เพราะไม่มีใครยอมรับมันนั่นเอง จนวันนึงมันก็ได้กลายเป็นไก่งวงโชคดีได้อยู่บ้านประธานาธิบดี และได้ไปพบเข้ากับเจ้าไก่งวงหุ่นบึ้กที่เพี้ยนพอตัว เพ้อว่าได้รับบัญชาจาก “บร๊ะเจ้าไก่งวง” ให้ทำภารกิจสุดสำคัญ ไปๆ มาๆ ก็เลยได้ย้อนมิติด้วยไทม์แมชชีนกลับสู่โลกในอดีตเพื่อลบเมนูไก่งวงออกไปจากวันขอบคุณพระเจ้าทิ้งซะ

แต่ทุกอย่างมันไม่ง่ายเช่นนั้น ไม่งั้นมันจะมาเป็นหนังทั้งเรื่องเรอะ!

เมื่อไก่งวงทั้งสองตัวไปถึงยุคอดีตก่อนการเกิดขึ้นของวันขอบคุณพระเจ้าครั้งแรก พวกเขาได้พบกับกลุ่มมนุษย์และเหล่าไก่งวงในอดีต พร้อมกับปริศนาเกี่ยวกับ “บร๊ะเจ้าไก่งวง” ที่รอการเปิดเผย

ความตลกของหนังนี่ ถ้าวัดกันจากมุมที่ผู้ใหญ่ดูก็อาจจะพอฮาได้บ้างบางมุข แต่ถ้าเด็กดูก็น่าจะหรรษากันพอสมควร เรื่องราวที่ซับซ้อนแต่พอเหมาะพอสมสำหรับเด็กๆ สอดแทรกคติสอนใจเข้าไปแบบไม่มากไม่น้อย งานออกแบบแคแรคเตอร์ต่างๆ ก็ทำได้สวยงามแยกแยะง่ายสำหรับเด็กๆ รวมทั้งการออกแบบลูกไก่งวงที่น่ารักมากๆ และก็คงจะมีหลายคนที่สงสัยทั้งก่อนและหลังดูเหมือนผมว่า หนังมันเป็นเรื่องของไก่งวง ทำไมมันถึงชื่อ “Free Birds” อันนี้ ผมก็ไม่รู้หรอก

ได้แต่เดาว่า มันเป็นยืมและเล่นคำ เพราะ Free Birds มันอาจแปลได้ว่าเป็นการปลดปล่อยให้เหล่านก(หรือไก่)ได้เป็นอิสระเสรี(จากการโดนคนกิน) ประมาณๆ นั้นกระมัง

แต่สำหรับคนที่ดูหนังบ่อยๆ ก็อาจจะพบว่า หนังไม่ได้น่าตื่นตาอะไรมากไปกว่าแอนิเมชั่นที่มีงานภาพที่ดี กำกับโดย ผกก. Jimmy Hayward ที่มีผลงานอย่าง ‘Horton Hears a Who!’ มาก่อน

เฮฮาประสาเด็กๆ ฮาได้บ้างตามประสาผู้ใหญ่ สรุปได้ประมาณๆ นี้