หมวดหมู่ : หนังผจญภัย , หนังแฟนตาซี , หนังครอบครัว , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi
เรื่องย่อ : A Wrinkle in Time ย่นเวลาทะลุมิติ (2018) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์: A Wrinkle in Time ย่นเวลาทะลุมิติ
ผู้กำกับภาพยนตร์: Ava DuVernay
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Jennifer Lee, Jeff Stockwell
นักแสดง: Storm Reid, Oprah Winfrey, Reese Witherspoon
แนว/ประเภท: ผจญภัย , ครอบครัว , แฟนตาซี
ความยาว:
วันที่ฉาย: 8 มีนาคม 2561
เรื่องราวของ Meg ลูกสาวของนักวิทยาศาสตร์ ที่มีความเชี่ยวชาญด้านคณิตศาสตร์ ตัดสินใจออกเดินทางข้ามมิติกาลเวลาพร้อมกับน้องชาย และ Calvin เพื่อนซี้เพื่อตามหาพ่อของเธอซึ่งเป็นถึงนักวิทยาศาสตร์ของรัฐบาลซึ่งติดอยู่ในจักรวาล พวกเขายังได้ความช่วยเหลือจากสามเทพีผู้ที่อิทธิฤทธิ์ แล้วยังต้องปกป้องจักรวาลให้พ้นเงื้อมมือจากความมืดที่จะทำลายล้างโลกให้จงได้
IMDB : tt1620680
คะแนน : 4.2
รับชม : 1964 ครั้ง
เล่น : 805 ครั้ง
ด้วยกระแสรอบสื่อ feedback ผลวิจารณ์หนังเรื่องนี้เข้าขั้นแย่ ทั้งใน และต่างประเทศ ที่ดูท่า จะไม่ค่อยดีเท่าไหร่ ความเละเทะ สำหรับหนังเรื่องนี้
จากเดิม ที่มีแพลนจะฉายในวงกว้าง ก็ฉายเพียงแค่ไม่กี่โรง ทั้งที่เป็นหนังแฟนตาซี ฟอร์มยักษ์ก็ตาม แต่ถึงกระนั้นแล้ว ด้วยความเป็นติ่งดิชนี่ย์ ความรอคอยเรื่องนี้ ตั้งแต่มีแพลนจะสร้าง และความเป็นคอหนังFantasy เต็มเปี่ยมไปด้วยโลกแห่งจินตนาการ เลยทำให้ตัดสินใจไปดู เพราะอย่างThe Good dinosaur ที่กระแสไม่ดี แต่กลับชอบมากซะงั้น
ฺBFG ที่หลายๆคนไม่โอเค แต่เรากลับว่า ภาพสวย ดูเพลินๆ ดีนะ ไม่ได้แย่อะไรมาก ถือคติที่ว่า อยากดูก็ดู ต้องลองไปพิสูจน์เอง เพราะความชอบของแต่ละคนมันไม่เหมือนกันจริงๆ รีวิว ขอแยกเป็นข้อดี ข้อเสียเลยแล้วกันเนอะ จะได้ง่ายๆ ก็การตัดสินใจ เผื่อใครที่มีแพลนจะไปดูหนังเรื่องนี้
ข้อดีของหนัง
- ภาพสวยมากกกกกกกก(ก.ไก่ล้านตัว) ในส่วนนี้คือให้คะแนนเต็ม10 10 10ไปเลยจ้า สวยกว่าเรื่องOzมาก แต่เนื้อเรื่องOzกินขาด โดยเฉพาะฉากแรก ที่ทะลุมิติเข้าไปในดาวอีกดาวนึง ของจักรวาล คือดูในตัวอย่างว่าสวยแล้ว พอได้ดูเต็มๆในโรง บอกเลยว่า..สวยมากๆ ดูแล้ว จินตนาการ เหมือนเราหลุดเข้าไปอยู่บนดาวนั้นจริงๆ สำหรับใครที่ยังไม่ได้ดู เอาภาพตัวอย่างมาให้ดู ด้านล่างนะ แต่ดูในโรงสวยกว่านี้เยอะเลย สีสันสวยงาม เนียน และดูสบายตา เต็มเปี่ยมไปด้วยดาวแห่งจินตนาการ จนเราอยากไปอยู่เอง ฉากนี้ คืออินไปกับตัวหนังสุดๆ เหมือนไปวิ่งเล่นอยู่ในทุ่งหญ้าสีเขียว ท้องฟ้าสีฟ้า มีตัวอะไรไม่รู้ จำชื่อไม่ได้ แต่เราคิดว่า มันเหมือน ดอกล้วยไม้บินได้นะ คือทั้งเรื่อง ประทับใจ ฉากนี้สุด และดีงามสุด
น้องLevi Miller ที่รับบทเป็นCalvin เพื่อนของMeg ที่เคยเล่นเรื่องPAN ซึ่งตอนนี้เริ่มโตเป็นหนุ่มแล้ว(โตไวมาก) บอกเลยว่า.. หล่อ น่ารัก ออร่าซุปตาร์Hollywoodในอนาคตจับมาก มีความมีเสน่ห์มาก สะกด เอาอยู่ทุกฉาก ขโมยซีนทุกซีน แทบไม่อยากจะละสายตาจากน้องเขาเลย
เพลงประกอบภาพยนตร์ I Believe โดย Demi Lovato จาก “Let It Go” เพลงประกอบ Frozen ที่ดังเป็นพลุแตก กลับมาร้องเพลงประกอบให้กับหนัง Disneyเรื่องนี้อีกครั้ง เพราะมากๆเลยทีเดียว
หนังมี วาทะ วลีเด็ด แง่คิด แทรกไว้เยอะอยู่นะ ถึงแม้บางที บทพูด อาจจะไม่มีแก่นสารไปหน่อยก็ตาม
***พูดถึงข้อดีของหนังกันไปแล้ว เรามาพูดถึง.. "ข้อด้อยของหนัง" กันบ้าง
ความรู้สึก หลังจากที่ได้ชม ส่วนตัวคิดว่า..
- หนูน้อย สตรอม รีด ที่รับบทเป็น Meg หรือ เม็ก เมอร์รี่ ส่วนตัวคิดว่าDisney แคสคนนี้มาไม่ผ่านอย่างแรง ทั้งที่รับบทนำ และเป็นตัวเอกของเรื่อง
แต่ว่า ไม่มีความโดดเด่นเลย แม้แต่น้อย ดูจมสุดๆ แสดงไม่ค่อยดี เล่นได้ไม่โอเค ขนาดเด็กผู้ชายที่เล่นเป็นน้องของMeg ยังเล่นได้ดี เด่น และโอเคกว่าเยอะเลย ตอนแรกๆก็คิดว่า ระดับDisney เลือกน้องคนนี้มา ถึงหน้าตาจะไม่ค่อยชวนให้ดูหนัง น้องเขาต้องมีอะไรดีแน่ๆ แต่จนจบเรื่อง ก็ไม่เลยแม้แต่น้อย
เป็นเรื่องแรก ที่เฉยๆกับตัวเอก ซึ่งเป็นตัวเดินเรื่อง นักแสดงคนอื่น ทุกๆคน กลบตัวเอกจมดิน ทั้งที่มีบทเยอะสุด แต่ไม่ได้ช่วยอะไร
บท เนื้อเรื่อง พล็อตเรื่อง และการดำเนินเรื่อง อันนี้ ขอพูดโดยรวมๆแล้วกันนะ
คือส่วนตัว ไม่เคยอ่านหนังสือเรื่องนี้มาก่อน แต่พอจะทราบว่า หนังเรื่องนี้ ถูกสร้างมาจากหนังสือขายดี
ไม่รู้ว่าหนังสือ มันเป็นแบบในหนัง หรือว่า คนเขียนบท หรือผู้กำกับ ตีความออกมาจากหนังสือ ได้ไม่ดีก็ไม่รู้
คือเนื้อเรื่อง แทบไม่มีอะไรเลย มั่ว เละ และยำรวมกันไปหมด แทบจะไม่มีการเกริ่นนำ ในแต่ละฉาก อยู่ดีๆ นึกอยากจะเล่า
ไปตอนไหน ฉากไหนก็เล่า ถ้าเปรียบ บทหนังเรื่องนี้เป็นคนๆนึง ส่วนตัวคิดว่า น่าจะเป็น "คนบ้า" คือเข้าใจว่า ย่นเวลาทะลุมิติ
แต่ก็ไม่จำเป็น ต้องย่นขนาดนี้ก็ได้ป๊ะ คืออยู่อีกที่นึง ฉากนึง แล้วอีกสักพัก ก็ไปโผล่ อีกที่นึง โผล่ไป โผล่มา ผลุบๆโผล่ๆ
โดยที่ไม่มีการเล่า หรือเกริ่นนำ และอธิบายอะไรเลย แม้แต่น้อย คือมึนไปหมดกับหนัง อะไรคืออะไร คืออะไร
คือไร้แก่นสารมาก ไร้ซึ่งจุดเริ่มต้น จุดพีค และจุดไคล์แม็กซ์ คือนึกอยากจะเล่าอะไรก็เล่า ไปที่ไหนก็ไป ไม่ถามเรื่องสุขภาพคนดูสักคำ
บอกไปก็หาว่าใส่ร้ายหนัง ต้องลองไปพิสูจน์อีก
ไม่แปลกใจเลย ที่เรื่องนี้ ทุนสร้างเยอะ ฟอร์มยักษ์ ค่ายดัง หนังแฟนตาซี และทำไมรอบฉาย และโรง น้อยมากกกก และฉายเพียงแค่ระบบธรรมดา
ทั้งที่ฉาย4DX หรือIMAXก็ได้ อันนี้วัดจากงานภาพนะ แต่ทางค่ายเขาคงคิดดีแล้วจริงๆ ที่ฉายไม่กี่โรง สงสัยกระแส และเสียงตอบรับเรื่องนี้ไม่ดีจริงๆ
ขนาดเราไปดู เราเป็นติ่งดิชนี่ย์ เรายังไม่ค่อยโอเคกับเรื่องนี้เลย นอกจากงานภาพ อย่างอื่นไม่มีอะไรดีเลย ไม่สมกับการรอคอยเท่าไหร่
ถ้าคนที่ชอบเสพงานภาพ CGสวยๆ ดูเรื่อยๆ เพลินๆ ไม่โฟกัสที่เนื้อหา บท เนื้อเรื่อง ว่าต้องโน่น นี่นั่น ก็ไปชมกันได้นะ ไม่ไผิดหวัง พอได้อยู่
แต่ถ้าจะถามหาความสมเหตุสมผล ความสมบูรณืของเนื้อเรื่อง บท เราไม่แนะนำ เพราะเรื่องนี้มันเละเทะจริงๆ