ดูหนังออนไลน์
ค้นหาหนัง

Chaos Walking จิตปฏิวัติโลก (2021) [พากย์ไทยโรง ซับไทยพิมพ์ตามเสียงไทย]

Chaos Walking จิตปฏิวัติโลก (2021) [พากย์ไทยโรง ซับไทยพิมพ์ตามเสียงไทย] เต็มเรื่อง
Youtube Video

หมวดหมู่ : หนังผจญภัย , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนังแอคชั่น

เรื่องย่อ : Chaos Walking จิตปฏิวัติโลก (2021) [พากย์ไทยโรง ซับไทยพิมพ์ตามเสียงไทย]

ชื่อภาพยนตร์: Chaos Walking จิตปฏิวัติโลก (2021)
ผู้กำกับภาพยนตร์:  Doug Liman
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Patrick Ness, Christopher Ford
นักแสดง: Max More , Tom Holland, Daisy Ridley, Demián Bichir
แนว/ประเภท: Adventure, Sci-Fi
ความยาว: 1 ชม. 49 นาที
วันเข้าฉายในประเทศไทย: 11 มีนาคม 2564


 

 

เหตุมันเกิดในโลกใบใหม่ ‘นิวเวิลด์’ ในช่วงเวลาอนาคตหลังจากปัจจุบันไปหลายปี ที่นี่ ป่าไม้พืชพรรณยังหลงเหลืออยู่มากมาย แต่มีความแปลกประหลาดอยู่อย่างหนึ่งก็คือ ผู้หญิงไม่มีแล้ว หลงเหลืออยู่เพียงผู้ชายเท่านั้น

ทอดด์ ฮิววิตต์ (Tom Holland/ทอม ฮอลแลนด์ จากหนัง Spider-Man: Homecoming, Dolittle และ Avengers: Endgame) คือเด็กหนุ่มที่อายุน้อยที่สุดผู้กำพร้าสูญเสียแม่ไปตั้งแต่ยังเล็ก เขาเติบโตขึ้นเมืองๆ หนึ่ง เขาเชื่อมั่นในผู้นำของตนอย่างฝังใจ

เขาได้รับการบอกเล่าจากผู้นำว่า ครั้งหนึ่งเคยเกิดสงครามกับชนเผ่าพื้นเมืองที่คร่าชีวิตผู้หญิงไปทั้งหมด แถมผู้ชายแต่ละคนยังมีอาการอันแปลกประหลาดเหมือนๆ กันด้วยคือมี ‘noise’ หรือ ‘เสียงคิด’ เวลาแต่ละคนคิดอะไรอยู่ในหัว มันออกมาเป็นภาพและเสียง คนอื่นจะได้ยินหมดว่าเราคิดอะไรอยู่

IMDB : tt2076822

คะแนน : 5.8

รับชม : 3961 ครั้ง

เล่น : 1011 ครั้ง



 

 

ทอดด์เติบโตขึ้นมาในบ้านที่มีพ่อสองคน คือ เบน (Demián Bichir)​ กับกิลเลียน (Kurt Sutter) เท่านี้ก็พอสร้างความน่าสงสัยให้บังเกิดขึ้นได้บ้างแล้ว เหตุใดกันเขาจึงมีพ่อถึงสองคน ขณะที่แม่ซึ่งเป็นผู้หญิงของเขาตายไปตั้งแต่เขาเกิดได้ไม่นาน เงื่อนงำอันน่าสงสัย พาให้เขาเลือกจะช่วยเหลือไวโอล่า ผู้หญิงคนแรกที่เขาได้พบในช่วงชีวิต แถมยังน่ารัก เคมีในกายมันพลุ่งพล่าน หยุดความคิดไว้ไม่ได้เลย

 




 

 

แถมความคิดความรู้สึกจินตนาการทุกอย่างของทอดด์ ยังถูกถ่ายทอดออกมาเป็นภาพและเสียงให้ไวโอล่าได้รับรู้ทั้งหมดอีกด้วย

เคมีที่ดีระหว่าง ทอม ฮอลแลนด์ กับ เดซี่ ริดลีย์

ความที่หนังเล่าด้วยตัวละครสองตัวที่ต้องเดินทางไปด้วยกันอยู่เกือบตลอด ทำให้ได้เห็นการแสดงรับส่งของทั้ง ทอม และ เดซี่ มากเป็นพิเศษ และทั้งสองก็ทำได้ดี ได้เห็นความเวิ่นเว้อในจิตใจของทอดด์ผู้ที่มีเสียงคิดดังอยู่ตลอดเวลา กลายเป็นความน่ารักปนน่าหมั่นไส้ คิดอะไรก็ออกมาหมด ไม่เว้นแม้กระทั่งการมโน

ไอเดียในการหยิบเรื่องความคิดในหัวที่ไม่ได้ผ่านการกลั่นกรอง เป็นเรื่องที่น่าสนใจ สมองของคนเราจะคิดนู่นนี่นั่นทันทีเมื่อพอเจอเหตุการณ์ แต่จะพูดออกมาเพียงบางประโยคที่ผ่านการกลั่นกรองมาระดับหนึ่งแล้ว การที่ความคิดถูกปลดปล่อยออกมาเป็นเสียงและภาพ ทำให้ผู้อื่นรู้เห็นหมดว่าเราคิดอะไรอยู่บ้าง ไม่เว้นแม้แต่การนึกภาพในอดีต ซึ่งนั่นก็ทำให้คนอื่นล่วงรู้ถึงปมความรู้สึกในใจของเราด้วยเช่นกัน

 




 

หลายคนว่า ทอม ฮอลแลนด์ แสดงเป็นตัวเอง พูดมาก พูดเยอะ ก็อาจจะจริง และอาจด้วยบุคลิกแบบนี้ทำให้เขาถูกเลือกมาถ่ายทอดบทบาทนี้ก็เป็นไปได้

แต่จะพูดถึงแต่คนก็คงจะไม่ได้ หนังเรื่องนี้มีสุนัขเป็นนักแสดงสมทบ ซึ่งมันก็ทำหน้าที่ได้ดีเยี่ยม แบนชี ชื่อของเจ้าหมาคู่ใจของทอดด์ แม้ตัวมันจะเล็กๆ แต่มันก็วิ่งขึ้นเขาเก่งมาก มันตามทอดด์ไปทุกที่ แถมเมื่อเจอไวโอลามันยังเข้ากับเธอได้ดีจนน่าหมั่นไส้ ใครรักน้องหมา น่าจะมีความสุขกับช่วงเวลาที่มีมันอยู่ในจอ

 




 

หนังดิสโทเปียที่เล่าเรื่องการเมืองการปกครอง

จิตปฏิวัติโลก เป็นอีกหนึ่งไอเดียในการวาดฝันจินตนาการถึงโลกในอนาคตเลยนะ ที่บอกว่า มนุษย์น่าจะได้ค้นพบ ‘New World’ และหันไปตั้งรกรากอยู่ที่นั่น จำนวนมนุษย์ที่อาศัยบนดาวดวงนั้นจึงไม่ได้เยอะมากมายนัก ยิ่งเหลือเพียงผู้ชายด้วยแล้ว ยิ่งดูน้อยไปถนัดตา (และก็อาจจะพบว่ามันดูน้อยไป)

หนังมีมุมเล่าเรื่องของการเมืองการปกครองอยู่พอประมาณ เอาง่ายๆ อย่างการที่มนุษย์นั้น เมื่อรวมอยู่กันเป็นหมู่มาก ย่อมต้องมีระบบ มีการปกครอง และต้องมีผู้นำ การที่ผู้นำจะปกครองผู้คนได้นั้นมีหลากหลายวิธี หนึ่งในนั้นก็คือ สร้างตำนานเรื่องเล่าอะไรขึ้นมาสักอย่างเพื่อรวบรวมใจผู้คน สิ่งที่เห็นก็คือ ทอดด์ เด็กหนุ่มอายุน้อยที่สุดผู้ที่เชื่อใจในผู้นำของตนเองมาก มากกว่าพ่อของตัวเอง แถมคิดไปถึงขั้นที่ว่า ผู้นำคนนี้รักตนมากกว่าลูกแท้ๆ ของเขาเสียอีก

 




 

ในโลกแห่งความจริง เราพบเห็นได้จนเชื่อว่า มีผู้นำและการปกครองแบบนั้นจริง และมีมนุษย์ผู้อยู่ใต้ปกครองที่เชื่อผู้นำอย่างฝังหัวจริงๆ และก็มีมนุษย์บางคนที่ตั้งข้อสงสัย และพยายามจะเสาะหาคำตอบเพื่อคลี่คลายความกังขาเหล่านั้น จนอาจส่งผลให้เกิดการปฏิวัติเพื่อเปลี่ยนแปลงบางสิ่งที่ถูกกดทับมานาน

 




 

เรื่องราวเหล่านั้นถูกแทรกใส่ไว้ในหนังเรื่องนี้

เป็นหนังที่ค่อนข้างสนุก ดูง่าย แต่อาจง่ายเกิน

หนังที่สร้างมาจากนิยายที่อาจพบว่า ภาคต้นนั้น จะยังพอมีความใกล้เคียงกับฉบับนิยายอยู่บ้าง แต่ภาคต่อไปอาจขยับขยายไปเล่าอะไรที่แตกต่างมากขึ้น ภาคนี้เป็นภาคต้นอาจมุ่งหมายปูเรื่อง จึงไม่ถึงกับหนักแน่นไปเสียทุกอย่าง ตัวละครบางตัวก็ชวนสงสัยว่าสำคัญอย่างไรกับการเล่า เรื่องตัวนักบวชอารอน (David Oyelowo จากหนังเรื่อง The Midnight Sky และ Selma) บางส่วนยังเล่ามาเพียงเหตุการณ์ประกอบ เพื่อเก็บไว้เล่าต่อไปภาคถัดไป ซึ่งก็น่าจะรวมทั้งเจ้า ‘เอเลี่ยนพันธุ์พื้นเมือง’ ตัวนี้ด้วย

 



เอเลี่ยนปริศนาในหนัง จิตปฏิวัติโลก

 

สิ่งที่ภาคนี้เป็นคือ การบอกเรื่องราวอย่างคร่าวๆ ของอนาคตมนุษยชาติที่พบพานกับโลกแห่งใหม่ที่มาพร้อมกับปัญหาใหม่ๆ และยังคงมีปัญหาเดิมๆ ที่เกิดขึ้นเพราะความเป็นมนุษย์ ขณะเดียวกันก็สร้างปมปริศนาขึ้นมา เพื่อให้ตัวพระเอกได้ทำภารกิจพร้อมค้นหาคำตอบว่า เพราะเหตุใดโลกที่เขาอยู่จึงไม่มีเพศหญิง ความจริงเบื้องหลังคืออะไรกันแน่

แม้การดำเนินเรื่องของหนังจะไปได้เรื่อยๆ ไม่มีช่วงเอื่อย เดินเรื่องด้วยการไล่ล่าตามสไตล์หนังผจญภัย แต่ก็อาศัยเคมีและลีลาของสองนักแสดงนำเป็นหลักมากเกินไปนิด หนังจึงยังไปไม่ถึงขั้นน่าจดจำ

แต่ก็ยังนับว่าดูเข้าใจง่าย สนุกได้พอสมควร