หมวดหมู่ : หนัง Netflix , หนังแฟนตาซี , หนังแอคชั่น
เรื่องย่อ : New Gods Nezha Reborn นาจา เกิดอีกครั้งก็ยังเทพ (2021) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์: New Gods Nezha Reborn นาจา เกิดอีกครั้งก็ยังเทพ (2021)
ผู้กำกับภาพยนตร์: Ji Zhao
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Muchuan
นักแสดง: Nicole Fong , Victoria Grace , Dashiell McGaha-Schletter
แนว/ประเภท:นิเมชั่น , แอ็คชั่น , แฟนตาซี
ความยาว:
วันที่ฉาย: 18 กุมภาพันธ์ 2564
นาจาใช้ชีวิตเยี่ยงมนุษย์ปุถุชนและทำงานเป็นเด็กส่งของ เขารักการแข่งรถเป็นชีวิตจิตใจ แต่เหล่าศัตรูเก่ายังตามมาผจญ นาจาจึงต้องปลุกพลังที่ซ่อนอยู่ภายในเพื่อปกป้องคนที่รัก
IMDB : tt13269670
คะแนน : 6.9
รับชม : 53159 ครั้ง
เล่น : 25036 ครั้ง
ก่อนอื่นต้องบอกว่า นาจาเวอร์ชั่นนี้ “ไม่มีความเกี่ยวข้องอะไรกับ อนิเมชั่นนาจา ฉบับปี 2019” แต่นี่คือการเอาตัวละครนาจามานำเสนอใหม่ และมีการเตรียมสร้างและขยายจักรวาลหนังเทพเซียนจีนให้ยิ่งใหญ่กว่าเดิมด้วยในอนาคต
สำหรับงานอนิเมชั่นของเรื่องนี้ ภาพรวมอาจจะยังไม่เนียนตามากนัก หากเทียบกับมาตรฐานอนิเมชั่นในโลกตะวันตก แต่ต้องยอมรับว่าเป็นงานที่มีความพยายามด้าน CG ค่อนข้างจัดเต็ม และเป็นการเอาตัวละครในตำนานเทพเซียนของจีน เช่น นาจา ซุนหงอคง มาตีความใหม่ด้วยเซตติ้งของโลกอนาคตแบบดิสโทเปีย
จุดที่น่าสนใจของเวอร์ชั่นนี้ก็คือ การหยิบตำนานของ “นาจา” หรือเทพกุมาร ที่คนจีนส่วนมากรู้จักกันดีอยู่แล้ว และสำหรับคนไทยเชื้อสายจีน หรือคนไทยทั่วไปที่ชื่นชอบเรื่องราวของเทพเซียนก็จะรู้เนื้อหากันอยู่บ้าง ได้เอามานำเสนอใหม่ด้วยเซตติ้งที่แตกต่างออกไป ซึ่งหากใครสนใจเรื่องราวของนาจา ก็สามารถหาอ่านได้จากวรรณกรรมเรื่อ “ฮ่องสิน” หรือ ประกาศิตแต่งตั้งเทพเจ้า ซึ่งที่ผ่านมาก็มีการนำเรื่องนี้มาสร้างเป็นภาพยนตร์ ซีรีส์ มังงะ อนิเมชั่น หลายต่อหลายครั้ง
คำถามสำคัญคือ แล้วเวอร์ชั่นนี้แตกต่างจากเวอร์ชั่นก่อนๆยังไง???? เพราะนาจาเป็นตัวละครในตำนานของจีนที่ถูกนำมาสร้างงจน “พรุน” ไปหมดแล้ว เรียกว่าความโด่งดังคงเป็นรองแค่ “ซุนหงอคง” จากไซอิ๋วเท่านั้น โจทย์ที่น่าติดตามก็คือ เราจะเอานาจามาตีความใหม่ๆ หรือนำเสนอในรูปแบบอื่นจากที่คนส่วนใหญ่รู้กันอยู่แล้วได้ยังไงดี
ซึ่งอนิเมชั่น นาจา เกิดอีกครั้งก็ยังเทพ ได้ให้คำตอบเราเอาไว้อย่างน่าสนใจมากครับ มาลองดูกันทีละส่วนเลย
1.ตำนานดั้งเดิมของนาจาที่ปรากฏใน ฮ่องสิน มีดราม่ากับพ่อแม่ตนเอง รวมถึงการสร้างความเดือดร้อนให้ผู้อื่น การสังหารองค์ชายมังกรอันดับสาม ซึ่งทั้งหมดทำให้นาจามีภาพลักษณ์ของ เด็กหัวดื้อไม่ฟังใคร ที่สุดท้ายก็ต้องชดใช้ความผิดของตนเอง ถึงแม้ว่านาจาจะเข้าร่วมกับกองทัพของโจวอู่หวาง และเป็นขุนพลกองหน้าให้กับเจียงจื่อหยา ทำศึกโค่นราชวงศ์ชาง แล้วตั้งราชวงศ์โจว แล้วในการแต่งตั้งเหล่าเทพเจ้าตอนท้ายของฮ่องสิน นาจาจะได้รับตำแหน่งเทพเจ้าก็ตาม แต่ประเด็นดราม่าและความหัวดื้อของตัวละครนาจาก็เป็นภาพลักษณ์ติดตัวไปแล้ว ไม่ว่าจะถูกนำมาสร้างกี่ครั้งก็ตาม
2.เรื่องเหมือนถูกเขียนบทมาเพื่อจงใจยั่วล้อบทบาทและสตอรี่ของเหล่าเทพเซียนจีนที่เรื่องราวของพวกเขาถูกเขียนบทชัดเจนไว้หมดแล้วว่าต้องเผชิญกับชะตากรรมอะไรบ้าง แต่เรื่องพยายามจะบอกว่า เฮ้ย ทุกครั้งที่เราสร้างใหม่ มันจำเป็นด้วยหรือที่เราต้องเอาตัวละครในตำนานเหล่านั้นมาเล่าในบทบาทเดิมๆ เพราะแม้แต่ตัวละครในตำนานเหล่านั้นก็ยังรู้สึกว่า “ทำไมต้องวนเวียนเจอดราม่าซ้ำซากด้วย” แม้กระทั่งตัวร้ายในเรื่องนี้ก็คือ เทพมังกรแห่งทะเลสาบตงไห่ ก็ยังบ่นกับตัวเองว่า ตัวเองก็ไม่เข้าใจเหมือนกันว่าทำไมจะต้องวนเวียนมาเป็นศัตรูกับนาจาทุกชาติภพ เขาเลยได้แต่สรุปว่ามันคือโชคชะตาที่กำหนดมาแล้ว และในเรื่องครั้งนี้ เขาจะชิงกำจัดนาจาก่อน เพราะทุกครั้งนาจาจะต้องฆ่าบุตรเขาเสมอ (แล้วครั้งนี้ก็ทำอีก)
3.ซุนหงอคง ซึ่งเป็นตัวละครที่โด่งดังที่สุดในเหล่าเทพเซียนจีน ถูกนำมาตีความในเรื่องนี้ได้น่าสนใจมาก ที่ให้ซุนหงอคงกลายเป็นตัวละครประเภท “เบื่อโลก” และการที่เขาบ่นว่า อัญเชิญพระไตรปิฏกมาได้แล้วยังไง ผ่านมาเป็นพันปี เขาก็ไม่เห็นว่าจะช่วยมนุษย์ได้มากขึ้นเลย ต่อให้เขามีอิทธิฤทธิ์ระดับถล่มสวรรค์ได้ มันก็เท่านั้น
4.นี่น่าจะเป็นอนิเมชั่นเรื่องแรกๆ เลยที่ “วิพากษ์และสำรวจ” บทบาทและอุปนิสัยของเหล่าเทพเจ้าในตำนานจีนอย่างจริงจัง โดยเฉพาะบทบาทของนาจาและซุนหงอคง โดยให้ตัวเอกของเรื่องคือหลี่อวิ๋นเสียง เป็นคนวิพากษ์นาจาที่อยู่ในตัวของเขา ราวกับอยากจะบอกคนดูว่า เฮ้ย พอกันทีได้ไหมกับภาพลักษณ์เทพเด็กหัวดื้อ
5.เทพมังกรตงไห่ ในเวอร์ชั่นนี้กลายเป้นตัวร้ายสมบูรณ์แบบ แล้วยังมาพร้อมกับการจิกกัดระบบทุนนิยมที่ผูกขาดทรัพยากรไว้ด้วย ปกติแล้วนี่คือพลอตยอดนิยมของหนังแนวดิสโทเปีย แต่ตรงนี้ก็ไม่รู้ว่าเขาต้องการทำมาเพื่อจงใจจิกกัดทุนนิยมตะวันตกหรือไม่ ในขณะที่ภาพลักษณ์ของเทพมังกรเวอร์ชั่นนี้ได้อารมณ์แบบหนังเจ้าพ่อยุค 80-90
6.ฉากหลังของเรื่อง คล้ายกับนครเซี่ยงไฮ้ในศตวรรษที่ 18-19 ที่ชาติตะวันตกเข้ามายึดครอง
7.ถือว่าเป็นข้อด้อย เมื่อฉากต่อสู้ช่วงท้าย แทบจะไม่ได้เอาพลังนาจามาใช้เลย ทำให้ฉากต่อสู้ช่วงท้ายเรื่องดูไม่อลังการเท่ากับช่วงกลางเรื่องที่ซัดกันแบบจัดเต็มทุกฝ่าย เลยทำให้การต่อสู้ช่วงสุดท้ายดูจืดและแก้ปัญหาง่ายไปหน่อย ทั้งที่ช่วงกลางเรื่องปูมาได้ดีมาก
8.มีเอ็นด์เครดิตหลังจบ เพื่อจะบอกว่า เรื่องนี้จะขยายจักรวาลออกไปอีกไกลมาก ไม่ว่าจะเป็น เรื่องราวของนางพญางูขาว ที่จะถูกส่งมาโลกปัจจุบัน และเทพสำคัญอีกองค์ในฮ่องสินคือ เทพเอ้อหลาง (หยางเจี้ยน) ที่จะมีบทบาทในภาคต่อไป
สำหรับภาพรวมของงาน CG กราฟฟิก จัดว่าอยู่ในระดับโอเค ไม่ได้แย่ และมีเอกลักษณ์ของตนเองสูง ไม่ได้เป็นงาน CG ที่ดูแล้วรู้สึกว่าไปลอกหรือซ้ำแนวทางกับค่ายใหญ่อย่าง ดิสนีย์ Pixar และก็ไม่ได้เหมือนกับอนิเมะชั่นจากญี่ปุ่นด้วย เรียกได้ว่าโปรดักชั่นมีความเป็นตัวของตนเองดี และเป็นการสร้างเอกลักษณ์บางอย่างของอนิเมชั่นจีนที่เรื่องนี้ก็แสดงให้เห็นว่า พวกเขาพร้อมแล้วที่จะสร้างอนิเมชั่นสัญชาติจีนออกไปสู้ในระดับโลก ด้วยเนื้อหา คอนเซปต์ องค์ประกอบ ในแบบจีนๆ ที่ไม่ซ้ำกับของอเมริกาและญี่ปุ่น แม้ว่าในภาพรวมของดีไซน์คาแรคเตอร์และงานกราฟฟิกก็ยังมีจุดขัดตาอยู่บ้างก็ตาม แต่ก็ถือว่ามาไกลมากจริงๆ และฉากหลังของเรื่องนี้ก็ทำออกมาได้ดีมากด้วยครับ
สรุปแล้ว ใครที่รู้สึกว่า นาจาเอามารีเมคบ่อยจนเฝือ หรือยังติดตากับนาจาปี 2019 แนะนำเลยว่าเมื่อดูเวอร์ชั่นนี้คุณจะไม่ผิดหวัง เพราะนี่คือการนำนาจามาตีความใหม่ด้วยเซตติ้งใหม่ๆที่จับกลุ่มคนดูวัยรุ่นมากกว่าเดิม และจักรวาลเทพเซียนจีนก็จะขยายไปได้อีกเยอะ ที่สำคัญคือ มีการเอาตำนานเทพจีนอื่นๆมาแจมด้วย โดยเฉพาะซุนหงอคง เพียงแต่เวอร์ชั่นนี้จะไม่เหมาะให้เด็กเล็กดูครับ เพราะมีฉากแอบโหดหลายจุด รวมถึงฉากสะเทือนอารมณ์แทรกอยู่ในเรื่องตลอดเวลาด้วย นี่จึงเหมือนต้องการจับกลุ่มคนดูวัยรุ่นมากกว่า