หมวดหมู่ : หนังอาชญากรรม , หนังดราม่า , หนัง Netflix , หนังชีวประวัติ
เรื่องย่อ : Madame Claude มาดามคล้อด (2021) [บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์: Madame Claude มาดามคล้อด (2021)
ผู้กำกับภาพยนตร์: Sylvie Verheyde
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Sylvie Verheyde
นักแสดง: Karole Rocher , Roschdy Zem , Garance Marillier
แนว/ประเภท: ชีวประวัติ , อาชญากรรม , ละคร
ความยาว: 1 ชม. 52 นาที
วันที่ฉาย: 2 เมษายน 2564
ในปารีสช่วงยุค 60 อิทธิพลของมาดามคล้อดได้แผ่ขยายออกไปนอกธุรกิจค้าบริการทางเพศ ก่อนที่หญิงสาวฐานะมั่งคั่งคนหนึ่งจะก้าวเข้ามาสั่นคลอนทุกสิ่ง
IMDB : tt10307724
คะแนน : 5.4
รับชม : 1038 ครั้ง
เล่น : 93 ครั้ง
มาดาม คล้อด (Madame Claude) ภาพยนตร์จากประเทศฝรั่งเศสแนวดราม่าอาชญากรรม กำกับและเขียนบทโดย Sylvie Verheyde ผู้กำกับชาวฝรั่งเศสที่ฝากผลงานมามากมาย พร้อมด้วยนักแสดงดังอย่าง Garance Marillier นักแสดงสาวมากฝีมือจาก RAW (สวยกัดดิบ) หนังสยองขวัญของปี 2016 พร้อมด้วย Karole Rocher ดาราหญิงฝรั่งเศสผู้มากฝีมือ มาร่วมกันถ่ายทอดชีวประวัติของมาดาม คล้อด หรือ Fernande Grudet สตรีผู้คุมซ่องของเมืองปารีสที่มีบทบาทในประวัติศาสตร์การเมืองโลกในยุค 60 เธอได้ดิ้นรนจากการเป็นโสเภณีจนมาถึงจุดที่มั่งคั่งสามารถทำซ่องที่ไม่ได้มีไว้แค่ขายบริการ แต่ยังเอาไว้ล้วงความลับของบุคคลสำคัญของโลกที่ลูก ๆ ของเธอ (ผู้หญิงในสต๊อก) ไปนอนด้วย และใช้ข้อมูลนี้ขายให้กับหน่วยงานสำคัญของฝรั่งเศส โดยเฉพาะข้อมูลของนักการเมืองอย่าง จอห์น เอฟ เคเนดี้ ประธานาธิบดีสหรัฐในขณะนั้น และแม้แต่ พระเจ้าชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี หรือ จักรพรรดิชาห์ โมฮัมหมัด เรซา ปาห์ลาวี ชาห์องค์สุดท้ายที่ปกครองอิหร่าน ที่ทำให้ชีวิตของเธอนั้นได้รับการกล่าวขานถึงความเป็นมาเฟียหญิงของเธอในขณะนั้น จนเกิดเป็นภาพยนตร์ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากประวัติของเธอ The French Woman ในปี 1997 แต่ก็ไม่ประสบความสำเร็จ จนกระทั่งเน็ตฟลิกซ์ได้หยิบนำภาพยนตร์เรื่องนี้มาฉาย ในฐานะภาพยนตร์ภาษาฝรั่งเศสเรื่องแรกของปี
“ยุค 1960 ยุคที่การเมืองโลกเต็มไปด้วยการแก่งแย่งชิงดีชิงเด่นในการเมือง แต่น้อยคนจะรู้ว่าสตรีจะมีบทบาทสำคัญในทางที่ไม่มีใครคาดไม่ถึง มาดามคล้อด คือ สตรีที่ใช้ความทะเยอทะยานและความสามารถเปิดซ่องของตัวเองและรวบรวมผู้หญิงจากหลาย ๆ ที่ เพื่อไม่ใช่แค่การขายบริการ แต่ยังเข้าไปล้วงลับตับแตกเหล่านักการเมืองหรือคนสำคัญตามคำสั่งของหน่วยงานลับอีกที ทุกอย่างดูเหมือนจะว่างเปล่าจนกระทั่งการปรากฏตัวของ ซีโดนี หญิงสาวปริศนาผู้มั่งคั่งและเพียบพร้อมด้วยเส้นสาย ผู้มาขอทำงานกับเธอ จนค่อย ๆ เข้ามามีอิทธิพลต่อความรู้สึกของเธอ และอาจจะทำให้ชีวิตที่เธอคาดการณ์ต้องพลิกจากหน้ามือเป็นหลังมือ ทุกเงามืดล้วนมีความลับ แม้แต่หญิงสาวที่ดูไม่มีอะไรมากที่สุดก็ตาม การห้ำหั่นระหว่างความรักและความเห็นแก่ตัวจึงเกิดขึ้น และจะนำพาพวกเขาไปสู่บทสรุปที่คาดไม่ถึง”
ด้วยความที่หนังเรื่องนี้สร้างจากชีวประวัติของมาดาม คล้อด สิ่งที่ลืมไปได้เลยในการชมเรื่องนี้คือความตื่นเต้น เพราะหนังไม่ได้ให้ตรงนี้ แต่เลือกจะให้เราไปสำรวจชีวิตของมาดามคล้อด ควบคู่กับซีโดนีที่โดดเด่นไล่เลี่ยกัน เรื่องราวของจุดที่กำลังรุ่งเรืองของธุรกิจขายบริการที่ดึงดูดคนเข้ามา แต่มันถูกปกปิดด้วย ทฤษฏีสมคบคิด การวางแผนใต้ดิน การล้วงลับข้อมูลผ่านการใช้เซ็กส์ ซึ่งนี่แหละที่ทำให้เราตื่นตา (ตื่นจริง ๆ เพราะมีฉากเซ็กส์แทบจะประมาณ 20 เปอร์เซนต์ได้ แถมเห็นหมดด้วย อายุต่ำกว่า 18 ปีไม่ควรดูคนเดียวนะครับ ควรมีผู้ปกครองให้คำแนะนำด้วย เพราะมันเป็นหนังอีโรติกด้วยแหละ) แต่นั่นก็เป็นแค่ส่วนหนึ่ง เพราะมันยังมีการเล่าถึงความจำเป็นของอะไรบางอย่างที่ผลักดันให้ตัวละครต้องทำแบบนั้น ต้องคิดแบบนั้น ซึ่งผมก็ทึ่งนะ แม้มันจะเป็นการเล่าเรื่องเรื่อย ๆ แต่ก็มีฉากสะเทือนอารมณ์มาเป็นระยะพอ ๆ กับฉากเซ็กส์เลย ซึ่งอย่างที่เล่ามา พอเล่าเรื่องของแม่เล้าซ่อง ก็ต้องมีเรื่องของเซ็กส์เป็นธรรมดาอยู่แล้ว เหมือนกำลังมองช่วงชีวิตของมนุษย์คนหนึ่งที่ดิ้นรนในหนทางของตัวเอง มีทุกอย่างที่เป็นอบายมุข ตัดสลับกับการเล่าเรื่องของตัวละครแวดล้อมรอบ ๆ ทำให้เรื่องไม่ดูเนือยหรือเรื่อยเปื่อย ตรงไปตรงมาและมีจังหวะที่กำลังพอเหมาะในหนังประเภทนี้ แต่ถามว่ามีอะไรให้ว้าวมากมั้ย ก็ไม่เท่าไหร่
ตัวละครของเรื่องผมชอบมาก ๆ เพราะมันเหมือนมนุษย์จริง ๆ ไม่ได้เล่าแค่ตัวละครเดียว แต่ยังแสดงมุมมองของตัวละครอื่น ๆ ในสถานการณ์ที่หนังอยากจะเล่าไม่ว่าจะเรื่องความรัก เรื่องความสัมพันธ์ เรื่องของความไม่ไว้ใจ ความจงรักภักดี ความจริงและความผดหวัง มันถูกส่งผ่านตัวละครอื่น ๆ สู่มาดามคล้อด ถึงมาดามคล้อดเป็นจุดศูนย์กลางของเรื่อง แต่เธอจะไม่มีความโดดเด่นขนาดนี้ ถ้าขาดแรงสนับสนุนจากตัวละครอื่น ๆ ในขณะที่ตัวละครสำคัญอย่าง ซีโดนี ก็เป็นอีกตัวละครนึงที่มีมิติน่าสนใจว่าเธอคิดยังไงกับมาดามคล้อด จนกระทั่งบทสรุปสุดท้ายเราก็ได้เห็นว่าตัวละครมีหนทางอย่างไรจากการกระทำนั้น ๆ ซึ่งสิ่งที่ผมชอบเข้าไปอีกคือตัวละครหลักของเรื่องล้วนเป็นผู้หญิง แล้วพวกเธอก็ใช้มันหักเหลี่ยมกับผู้ชายในเรื่องอย่างมีชั้นเชิง ทำให้หนังเรื่องนี้เป็นหนังที่ทำให้เห็นว่า ผู้หญิงก็มีบทบาทสำคัญของสังคม ไม่แพ้กับผู้ชาย แต่อยู่หลังฉากและบงการทุกอย่างเองอีกทีต่างหาก เจ๋งใช่มั้ยล่ะ อารมณ์เหมือนตอนผมทำรีวิวเรื่อง The Hustler มันให้อารมณ์แบบนั้น แต่อันนี้จะเป็นสาวขายบริการยุค 60 ที่หาผลประโยชน์จากการเป็นโสเภณี
ชีวิตของมาดามคล้อด ก็คงเหมือนรถไฟเหาะ ชีวิตมีความเรียบหรู ไม่สนใจใคร จนกระทั่ง เธอได้พบกับคนที่เข้ามาเปลี่ยนชีวิตเธอ แต่นี่ไม่ใช่หนังดราม่าอบอุ่น แต่มันคือหนังดราม่าที่เฉือนคมกันแบบไม่มีใครไว้ใจได้ ไม่มีคำว่าครอบครัว ไม่มีคำว่ารัก มีแค่เรื่องเงินและผลประโยชน์ สังคมยุค 60 คือใครสาวได้ก็สาวเอา เป็นมาเฟียก็เป็นได้หากอยากรวย แม้ต้องหักหลังกันเองก็ต้องทำเพื่อปากท้อง ไม่ใช่แค่กับเธอ แต่เป็นทุกคนในเรื่อง ที่พร้อมจะฟาดฟันกันไม่ว่าจะกับชาย หรือ หญิง แต่ก็ยังมีมุมอ่อนโยน มุมความรักที่มากล้น และความสัมพันธ์ที่แสนซับซ้อน ซึ่งหนังแสดงภาพเหล่านี้ออกมาผ่านตัวละครนี้ได้เป็นอย่างมาก ทั้งการแต่งกาย คำพูดคำจา สังคมในขณะนั้น ถือเป็นประวัติศาสตร์หน้าเล็กที่น่าสนใจไม่แพ้ประวัติศาสตร์หน้าใหญ่ที่มีในตำราเลย ว่าโสเภณีก็พลิกโลกได้เหมือนกัน พลิกไปมาด้วย ไม่ใช่แค่พลิกครั้งเดียว เพราะมันยังมีเรื่องของอาชญากรรมที่มาทำให้เรื่องเข้มข้น แม้จะไม่มีฉากแอ็คชั่นหรืออะไร แต่แค่แอ็คติ้งและการแสดงของทุกคนในเรื่องก็กินขาด ไม่มีใครยอมใครแล้ว
การถ่ายทำมีความประณีตสวยสดงดงาม ผสานด้วยบรรยากาศยุค 60 กับเพลงฝรั่งเศสที่ผมไม่ได้เรียน ผมฟังไม่ออก รู้แค่ว่ามันเพราะและเข้ากับอารมณ์ฉากนั้น ๆ มาก ผู้กำกับมีความเข้าใจในตัวละครมาดาม คล้อด พอสมควร ถึงได้ถ่ายทอดออกมาได้เหมือนตัวจริง ต้องยกความดีความชอบให้นักแสดงนำอย่าง Karole Rocher ที่สวมบทบาทตัวละครหลักอย่างเป็นธรรมชาติ และสามารถถ่ายทอดอารมณ์ออกมาได้อย่างยอดเยี่ยม เรียกได้ว่าไม่ใช่ธรรมดาเลย เพราะผมเพิ่งได้ดูหนังของเธอเรื่องแรก เลยไม่รู้ว่าเธอเก่งขนาดนี้ เช่นเดียวกับ Garance Marillier ที่แม้จะเป็นตัวละครรองตัวละครหลัก แต่เธอก็โดดเด่น สวย มีเสน่ห์ และสามารถขับเขี่ยวกับแคโรลด้วยปมสำคัญของเรื่องอย่างไม่มีข้อกังขา ยิ่งประกอบกับเพลงประกอบคลาสสิกและบทสรุปที่อาจไม่ได้ทรงพลัง แต่ก็ทำให้เห็นความสัมพันธ์ของทั้งคู่ที่มีต่อกัน ไม่ว่าจะในฐานะใด มันก็คือความบริสุทธิ์ใจที่คนทำงานวงการมืดมีให้กัน
ถ้าอยากหาหนังแนวชีวประวัติที่มีผู้หญิงทรงพลังเป็นตัวนำเรื่อง งั้นก็ตอบโจทย์ แต่ถ้าคาดหวังหนังที่ดูเพลิน ๆ สบาย ๆ มันคงไม่ใช่ เพราะเปี่ยมไปด้วยอบายมุข ยา เซ็กส์ ฆาตกรรม การเมือง และทุกสิ่งทุกอย่างที่ถูกถ่ายทอดออกมาอย่างดิบเถื่อน และเรื่อย ๆ จนถึงบทสรุป มันเลยไม่ได้มีอะไรพิเศษไปกว่าหนังชีวประวัติเรื่องอื่น แต่ว่ามันก็คือหนังดีที่มีการแสดง มีเซ็ตติ้ง และองค์ประกอบที่พอเป็นหนังที่ดีได้เลย ถ้าคุณไม่ติดขัดกับการดูหนังที่สร้างจากเรื่องจริงในประวัติศาสตร์ ความยาวไม่เกินสองชั่วโมง เรื่องนี้คงเป็นตัวเลือกที่ดี ที่ผมไม่อยากให้ข้ามผ่าน ถ้าคุณอยากรู้ว่าโสเภณีพลิกโลกยุค 60 อย่างไรก็ลองไปดู อย่าเพิ่งไปอ่านข้อมูลในเว็บล่ะ มันสปอยล์หนัง ทำเป็นว่ามาดูชีวิตคนตั้งแต่จุดรุ่งโรจน์จนถึงจุดตกต่ำดีกว่า ก็คือดี แต่ไม่ได้ดีอะไร ผมชอบนะ และก็ไม่ขัดถ้าใครจะไม่ชอบ เพราะมันก็คือสิทธิ์หรือรสนิยมของแต่ละคนไม่เหมือนกัน แต่ถ้าจะให้ข้าม ก็ไม่ให้นะ ดูก่อนแล้วค่อยคิดว่ามันมีอะไรดีหรือเปล่า แค่นั้นแหละ อย่าข้าม