หมวดหมู่ : หนังผจญภัย , หนังดราม่า
เรื่องย่อ : ดูหนัง Hanamizuki ฮานะมิซึกิ ดอกไม้รักของสองเรา เต็มเรื่อง
เรื่องย่อ : Hanamizuki ฮานะมิซึกิ ดอกไม้รักของสองเรา
Sae (Yui Aragaki) เป็นนักเรียนมัธยมปลายที่เรียนอย่างหนักเพื่อสอบเข้าวิทยาลัย เธอสูญเสียพ่อไปเมื่อเธอยังเด็กมากและใช้ชีวิตแม่ของเธอเรียวโกะ (ฮิโระโกะยาคุชิมารุ) ที่ฮอกไกโดประเทศญี่ปุ่น พ่อของเธอ Kemimichi (Arata) เคยปลูกต้นไม้ต้นวู๊ดวู้ดในสวนของพวกเขาหลังจากที่เขารู้ว่าเขาเป็นโรคเทอร์มินัลและไม่สามารถดูแซ่โตขึ้นได้ เธอหวังว่าจะเข้ามหาวิทยาลัยในโตเกียว จากนั้นเธอได้พบกับ Kouhei (Toma Ikuta) ผู้เข้าร่วมการสอนการประมงระดับมัธยมปลาย เขาหวังว่าจะเดินตามรอยเท้าของพ่อและปู่ในฐานะชาวประมง คนหนุ่มสาวทั้งสองพบกันและมีความสัมพันธ์ทางไกล แม้ว่าความรักของพวกเขาจะแข็งแกร่ง แต่มันก็ไม่อยู่ 10 ปีต่อมาคนสองคนนี้มีปาฏิหาริย์ ... (Source: Asian Wiki)
IMDB : tt1629284
คะแนน : 6.9
รับชม : 572 ครั้ง
เล่น : 80 ครั้ง
ป้ายกำกับ : หนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ , ดูหนังออนไลน์ฟรี , ดูหนังออนไลน์ฟรีเต็มเรื่อง
เช่นเคย เมื่อหัวใจมันเรียกร้องมาจากข้างใน ว่าอยากเข้าไปดูหนังในโรง ไม่อยากรอให้ต้องมาดูกับจอเล็กๆ ที่บ้าน สองเท้าจึงก้าวอย่างไวรุดไปยังโรงหนัง ควักตังค์จ่ายค่าตั๋วแล้วแจ้นเข้าโรงทันใด เข้าไปพบกับประสบการณ์รักบนจอใหญ่ๆ ในโรงขนาดปานกลางของ Lido 3 ณ สยามสแควร์ ใจกลางย่านช้อปปิ้งของเหล่าวัยรุ่น ที่เดินเล่นในสมัยเรียนของพวกเรา เพื่อพบกับ ‘Hanamizuki’ ดอกไม้รักของเราสองไง
เชื่อแน่ว่าหลายคนคงชื่นชอบในภาพยนตร์ญี่ปุ่น ชื่อ ‘Be With You’ และ ‘Nada Sou Sou’ มาบ้างแล้ว ทั้งสองเรื่องต่างเรียกน้ำตาจากผู้ชม พร้อมๆ กันไปเรียกความประทับใจในบท ภาพและซีนอารมณ์ที่มีให้พวกเรามาอย่างเต็มเปี่ยม และนี่คือภาพยนตร์เรื่องใหม่จากผู้กำกับคนนี้ โนบุฮิโร่ โดอิ (Nobuhiro Doi)
เชื่อแน่ว่า เมื่อเราไปดูหนังรัก เราคงต้องเจอกับเรื่องราว ที่ใกล้เคียงกับเรื่องจริงของตัวเองบ้างในบางครั้ง โดยเฉพาะเรื่องราวที่ไม่ได้ไกลเกินไปกว่าจะเกิดขึ้นในชีวิตจริงๆ ไม่ได้ อย่างเช่นเรื่องนี้
ถ้าเส้น 2 เส้นที่เคยได้เดินข้างเคียงกันมาก่อน วันนึงกลับต้องมีอันแยกย้ายกันไป ย่อมอาจจะไปเจอเส้นๆ ใหม่ และอาจทำให้การกลับมาพบกันอีกครั้งของเส้นคู่เดิม ไม่อาจเหมือนเคยได้อีกต่อไป
เรื่องราวที่เกิดขึ้นใน 4 เมือง 3 ประเทศ ที่ซึ่งเหตุการณ์สำคัญเกิดขึ้นในหนังเป็นเวลาหลายปีด้วยกัน
เมื่อซาเอะ (อารางากิ ยูอิ) เด็กสาวมัธยมฯ ปลายจากฮอกไกโด ที่มีความฝันจะเข้าเรียนในมหาวิทยาลัย และใช้ชีวิตในเมืองเกิดของตัวเองในแคนาดา ด้วยความที่เธอเรียนเก่ง หัวดี และค่อนข้างจะจริงจังกับชีวิตอยู่สักหน่อย แต่วันหนึ่ง เธอก็ได้พบกับเด็กหนุ่มนาม โคเฮ (โทมะ อิคุตะ) ที่ความหวังความฝันของเขาช่างแตกต่างกับเธออย่างสิ้นเชิง…
โคเฮคุง มีความต้องการจะสืบทอดกิจการประมงจากผู้เป็นพ่อ จึงเลือกเข้าเรียนในโรงเรียนประมง หลังจากทั้งสองพบกัน อุบัติเหตุครั้งนั้น ทำให้เส้นทางของทั้งสองเดินขนานเคียงคู่กันไปเนิ่นนาน ขณะเดียวกัน ในใจทั้งคู่ก็หวั่นว่า ความฝันที่แตกต่างจะพรากทั้งสองห่างกันไป
แต่แล้ว สิ่งที่หวั่นเกรงไว้มันก็เป็นความจริง!
เมื่อซาเอะต้องจากไปเป็นสาวโตเกียว ทิ้งให้โคเฮต้องเผชิญกับวิกฤติประมงตามลำพัง แต่ระหว่างทาง ย่อมจะมีอะไรมาทำให้หัวใจทั้งสองหวั่นไหว จนในที่สุด เส้นทางที่จะกลับมาบรรจบกันดูจะหมดลง…
เคยไหม คบกัน รักกัน มากมาย แต่แล้ววันหนึ่ง ต่างคนต่างห่างไกล คนใดคนหนึ่งหรือต่างคนต่างคนต่างได้เจอคนใหม่ แล้ววันหนึ่งก็กลับมาเจอกัน แน่นอนว่า ร่องรอยในใจของกันและกันนั้นไม่อาจปิดได้มิด แววตาเธอมันบอก และแววตาของฉันก็คงจะบอกเธอเช่นกัน แต่เราไม่อาจอยู่ในฐานะที่จะเปิดเผยอะไรในใจได้อีกแล้ว สถานะของเราได้เปลี่ยนไปแล้ว
เรื่องราวมันช่างน่าเศร้า ถ้าคนเคยรักกัน และอาจยังรักกันอยู่ กลับไม่อาจกลับมาแสดงความรู้สึกที่ท่วมท้นในใจต่อกันได้อีก
น้ำตามันไหลออกมาอีกแล้ว เฮ่อ…
เรื่องราวแม้เนิบนาบไปบ้างบางช่วง แต่ไม่ทำให้ผมรู้สึกเบื่อ หรือไม่อยากอยู่ต่อรอดูบทลงเอย เสียน้ำตาไปนับรอบได้ก็จริง อาจไม่เท่าที่เสียให้ Be With You และ Nada Sou Sou ได้ก็จริง แต่เรื่องราวในนั้นโดนใจเข้าอย่างจังจนบอกไม่ถูก
ยูอิ อารางากิ (Yui Aragaki) น่ารักตั้งแต่ต้นเรื่องในแบบเด็กสาวมัธยมฯ ปลาย และยังน่ารักยาวไปจนถึงวัยทำงาน นี่ถ้ากลับไปดูเธอในชุดบิกินี่ต่ออีกก็คงจะฝันหวานกันไปเลย
一青窈Hanamizuki (best hits 2004)
บททิ้งท้าย ยังคงเหมือนเคย ทิ้งไว้ด้วยเพลง “Hanamizuki” ชื่อเดียวกันหนังนั่นแหละ สะอื้นอีกรอบจนได้สิน่า
“ฮานะมิซึกิ” คือชื่อของดอกไม้ บนต้นที่พ่อของซาเอะปลูกเอาไว้หน้าหน้า นอกจากนี้ “Hanamizuki” ก็ยังเป็นชื่อของเพลงฮิตชื่อเดียวกันของ โย ฮิโตโตะ ในปี 2004 อีกด้วย ภาพยนตร์นี้ได้รับแรงบันดาลจากเพลงฮิตในอดีต เช่นเดียวกันกับ “Nada Sou Sou” หนังเรื่องของโดอิ
หนังเรื่องนี้ ทำให้ผมรู้ว่า ภาพของประภาคารสวยงามแห่งหนึ่งของโลกที่ผมพบเห็นบ่อย มันอยู่ที่ไหน มันอยู่ “ที่นั่น” นั่นเอง
ผมชอบ “Hanamizuki” ครับ บอกจากใจ