หมวดหมู่ : หนังชีวประวัติ , หนังสารคดี
เรื่องย่อ : Miles Davis: Birth of the cool ไมล์ส เดวิส: เจ๋งแต่เกิด (2019) [บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์: Miles Davis: Birth of the cool ไมล์ส เดวิส: เจ๋งแต่เกิด (2019)
ผู้กำกับภาพยนตร์: Gregory Davis
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Nathan Skulnik
นักแสดง: Miles Davis
แนว/ประเภท: Documentary, Biography
ความยาว: 1 ชม. 55 นาที
วันเข้าฉาย: 23 สิงหาคม 2019 (สหรัฐอเมริกา)
มาเจาะลึกเรื่องราวของไมล์ส เดวิส และรับชมเรื่องจริงของศิลปินเพลงแจ๊ซผู้เป็นตำนานคนนี้ผ่านการสัมภาษณ์คนดังและภาพวิดีโอที่ไม่เคยมีใครได้เห็นมาก่อน
IMDB : tt1305619
คะแนน : 7.7
รับชม : 757 ครั้ง
เล่น : 151 ครั้ง
ช่วงปลายทศวรรษ 1960s กระแสดนตรีร็อคขับเคลื่อนอย่างเชี่ยวกรากในฐานะเครื่องมือวัฒนธรรมอันทรงพลังของคนหนุ่มสาวชาวอเมริกัน ดนตรีแจ๊สที่เคยผลิบานและได้รับความนิยมก่อนหน้านั้น เริ่มสูญเสียคนฟังลงไปเรื่อยๆ
ในเวลานั้น ผู้บริหารค่ายเพลงใหญ่ "โคลัมเบีย" (ต่อมาเปลี่ยนชื่อเป็น "โซนี มิวสิค") เอ่ยปากบอก ไมล์ส เดวิส ศิลปินเพลงแจ๊สระดับแนวหน้าของค่าย ด้วยท่าทีกดดันเพราะยอดขายอัลบั้มของเขาลดลงว่า ไมล์ส น่าจะหันมาทำเพลงร็อคเพื่อตอบสนองความต้องการของคนหนุ่มสาวดูบ้าง ถึงเป็นคนค่อนข้างกระด้างอันเนื่องจากการเปลี่ยนแปลงบุคลิกภาพ เมื่อชีวิตต้องเผชิญกับความรุนแรงด้วยการถูกทุบตีโดยไม่มีความผิดจากเจ้าหน้าที่ตำรวจเมื่อหลายปีก่อน
แต่ ไมล์ส ไม่ใช่คนไม่มีเหตุผล เขาคิดถึงเรื่องนี้มาโดยตลอด เพราะสภาพการณ์ในเวลานั้น คลับแจ๊สที่เคยเนืองแน่นด้วยผู้ชมกลับบางตาลงอย่างน่าใจหาย อย่าว่าแต่ศิลปินทั่วไปเลย แม้กระทั่งคนดังอย่าง ไมล์ส ก็ไม่เว้น
นักทรัมเป็ตคนนี้ถึงกับรำพึงว่า เหตุใดใครบางคนที่แทบไม่รู้อะไรเกี่ยวกับดนตรีเลย ถึงได้รับความนิยมจากมหาชนขนาดนั้น
ช่วงนั้น ไมล์ส คบหากับ จิมี เฮนดริกซ์ นักกีตาร์ผิวสี ผู้สร้างนวัตกรรมในการใช้ตู้แอมป์กีตาร์เพื่อสร้าง "ซาวด์ เอฟเฟคท์" ได้อย่างวิเศษสุด ไมล์ส ยังค้นพบทิศทางของการสร้างงานดนตรีร่วมสมัย โดยการเปลี่ยนมาใช้เครื่องดนตรีไฟฟ้า เขาทดลองผสมผสานจังหวะอันหนักแน่นของ "ดนตรีร็อค" ให้สอดรับกับแนวทางอิมโพรไวเซชั่นของ "ดนตรีแจ๊ส"
ผลลัพธ์ที่เกิดขึ้นเรียกว่า "ฟิวชั่น" โดยมีอัลบั้ม Bitches Brew เป็นตัวแทนของการเปลี่ยนผ่านเข้าสู่อีกยุคหนึ่งของแจ๊ส ด้วยยอดขายพุ่งขึ้นถึงหลักล้านชุด
เมื่อประตูแห่งฟิวชั่นเปิดออก สาแหรกของแจ๊สนับจากบีบ็อพเป็นต้นมา ไม่ว่าจะเป็น คูล ฮาร์ดบ็อพ, โมแดล หรือฟรีแจ๊ส ก็ดูจะกลายเป็นอดีตลงในพริบตา สำหรับ ฟิวชั่น ไมล์ส ยังสานต่องานในแนวทางดังกล่าวอีกหลายชุดต่อมา โดยเสียงเพลงแบบใหม่สอดรับกับภาพลักษณ์การแต่งกายที่เปลี่ยนไป ในที่สุด ไมล์ส เดวิส กลายเป็นศิลปินแจ๊สจากยุคบีบ็อพที่คนหนุ่มสาวรุ่นใหม่ให้การต้อนรับอย่างอบอุ่น
ไมล์ส เดวิส เป็นตัวอย่างของมนุษย์ที่รักในการเรียนรู้อย่างต่อเนื่องและไม่สิ้นสุด เขาเป็นคนผิวสีแต่เกิดในครอบครัวชนชั้นกลางฐานะดี มีพ่อเป็นทันตแพทย์ หลังจากประทับใจ ชาร์ลี พาร์คเกอร์ และ ดิซซี กิลเลสปี 2 ตำนานบีบ็อพที่เดินทางมาแสดงที่เมืองเซนต์หลุยส์ เขาขอเงินจากพ่อไปเรียนต่อที่ "จูลลิอาร์ด" สถาบันดนตรีชื่อดังในนิวยอร์กซิตี เพื่อจะได้ใกล้ชิดไอดอลของเขา ไมล์ส เรียนได้ไม่นานก็ทิ้งกลางเรียนเข้าสู่สนามดนตรีอาชีพอย่างเต็มตัว
นักทรัมเป็ตหนุ่ม ได้แทนที่ ดิซซี ในวงของพาร์คเกอร์ แต่ค้นพบว่าตัวเองไม่ถนัดในการเล่นทรัมเป็ตที่ขึ้นเสียงสูง บนอัตราจังหวะที่เร่งเร้าถึงขีดสุด เขาเรียนรู้ที่จะเลือกบรรเลงในแนวทางของตนเอง เมื่อออกจากวงของพาร์คเกอร์ เขาทดลองนำเสนอแจ๊สในบริบทของ "คูล" ผ่อนปรนการโซโล่แบบกระชากมากพลัง และความเร่งเร้าของจังหวะลง แต่ยังเข้มข้นด้วยสาระของแนวเสียงประสาน อย่างที่มีคนเรียกกันว่า "Soft but Intense"
จากการมีส่วนสำคัญในพัฒนาการของดนตรีแจ๊ส ตั้งแต่ บีบ็อพ , คูล , ฮาร์ดบ็อพ , โมแดล และ ฟิวชั่น ทำให้ ไมล์ส เดวิส ได้รับฉายาว่าเป็นผู้ปฏิวัติวงการแจ๊ส 5 ยุค
อิทธิพลของเขายังส่งผลถึงวงการแจ๊สร่วมสมัย ดังเห็นได้จากการที่อดีตลูกวงของ ไมล์ส ล้วนแต่เป็นศิลปินแนวหน้าระดับโลกทั้งสิ้น เช่น เฮอร์บี แฮนค็อก, เดฟ ฮอลแลนด์, จอห์น สโกฟิลด์, จอห์น แมคลาฟลิน, ชิค คอเรีย, คีธ จาร์เร็ทท์, รอน คาร์เตอร์, ไมค์ สเทิร์น ฯลฯ รวมทั้งนักดนตรีรุ่นใหม่ๆ ที่ยังหนีไม่พ้นจากร่มเงาการสร้างสรรค์ของเขา
นอกจากการเรียนรู้เพื่อสร้างงานต่อไปเบื้องหน้า จนแทบไม่เคยทำงานย้อนหลัง หรือกลับคืนไปยังจุดเดิม ไมล์ส ยังมีจุดเด่นในหลายเรื่อง เช่น การมีภาวะผู้นำที่เด่นชัด และการมีสายตาแหลมคมในการเลือกสรรนักดนตรีรุ่นใหม่เข้ามาเป็นสมาชิกในวง
นอกจากนี้ ยังมีวิสัยทัศน์ในการเปลี่ยนแปลงดนตรีให้พลิกโฉมหน้าไปอย่างผิดหูผิดตา แม้กระทั่งในยุคหลังก่อนการเสียชีวิต ไมล์ส ยังเคยพยายามนำเสียงบรรยากาศของเมืองนิวยอร์กซิตี กับดนตรีฮิพฮ็อพ แทรกผสานไว้ในอัลบั้ม Doo-Wop มาแล้ว
นี่คือตัวอย่างของคนที่เรียนรู้อยู่ตลอดเวลา ผลงานของเขาทำให้สถาบันการศึกษานำมาสร้างองค์ความรู้และต่อยอดได้จนถึงขั้นปริญญาเอก ทั้งที่ตัวเองเรียนไม่จบปริญญาตรีเลยด้วยซ้ำ.