หมวดหมู่ : หนังตลก , หนัง Netflix , หนังโรแมนติก
เรื่องย่อ : Crazy About Her {Loco por ella} บ้า... ก็บ้ารัก (2021) [บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : Crazy About Her {Loco por ella} บ้า... ก็บ้ารัก
แนว/ประเภท : Comedy, Romance
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Dani de la Orden
บทภาพยนตร์ : Natalia Durán, Eric Navarro
นักแสดง : Álvaro Cervantes, Susana Abaitua, Luis Zahera
วันที่ออกฉาย : 26 February 2021
Crazy About Her บ้า…ก็บ้ารัก หนัง Netflix รักตลกดราม่าจากสเปน ที่พาคุณไปพบกับเรื่องราวความรักในแบบต่างๆ ของผู้ป่วยจิตเวช ผ่านเรื่องราวความรักของหนุ่มผู้หลงรักสาวรักสนุกวันไนท์สแตนด์ในค่ำคืนเดียว แต่แล้วกลับพบว่าเธอคือผู้ป่วยจิตเวชที่หนีออกจากโรงพยาบาลบ้า ทางเดียวที่จะเข้าหาเธอคือ ต้องแสร้งบ้าเพื่อเข้าไปอยู่ในนั้นด้วย!
IMDB : tt11698630
คะแนน : 0
รับชม : 802 ครั้ง
เล่น : 140 ครั้ง
ฟังดูเรื่องราวมันน่าจะเป็นหนังตลกจริงๆ จังๆ ที่เอาคนปกติดีไปอยู่ในดงคนบ้าใช่มั้ยครับ แต่กลายเป็นว่านี่เป็นหนังรักตลกที่เต็มไปด้วยดราม่าลึกซึ้ง สะเทือนใจ จนเสียน้ำตาได้ไม่รู้ตัว เมื่อเรื่องราวดำเนินไปแบบไม่ได้เน้นตลกอะไรมากอย่างที่เข้าใจในตอนแรก และก็ไม่ได้เอาอาการทางจิตของผู้ป่วยมาเล่นเป็นเรื่องตลก ด้อยค่าคนที่ป่วยเป็นโรคแบบต่างๆ ในเรื่องนี้เลย กลายเป็นว่าพระเอกที่เข้าไปเพราะเรื่องรัก กลับต้องพบกับโลกใหม่ที่ทำให้เขาต้องใกล้ชิดผู้ป่วยจิตเวชหลากหลายแบบ และต้องคบเป็นเพื่อนเพื่อให้การประเมิณจากผู้ป่วยด้วยกันเองออกมาได้ดี จะได้มีโอกาสกลับไปใช้ชีวิตข้างนอกได้ แต่การคบเป็นเพื่อนนี้กลับทำให้เขารับรู้ว่าโลกในนี้มีเรื่องราวปัญหาในชีวิตสะเทือนใจของผู้ป่วยจิตเวชที่ใครยากจะเข้าใจซ่อนอยู่ในตัวทุกคน และกลายเป็นพระเอกเองที่มาช่วยทำให้ผู้ป่วยเหล่านี้รู้สึกปลดล็อกสิ่งที่ค้างคาไว้ในชีวิต
หนังทำช่วงดราม่าปลดล็อกปัญหาออกมาได้สะเทือนใจในแบบไม่บิ้วคนดูให้รู้ก่อนเลยว่านี่คือสิ่งที่ผู้ป่วยคนนี้ต้องการให้พระเอกช่วย ซึ่งซีนแรกที่ออกมาเป็นเรื่องราวของชายที่คิดว่าตัวเองอยู่ในโลกของสายลับต้องปกปิดความลับตัวเองทุกอย่าง หนังทำได้น่าประทับใจมากในการส่งต่ออารมณ์ในเรื่องที่พระเอกประสบอยู่ไปยังผู้ชมได้ทันที เรียกว่าใครอ่อนไหวนี่มีน้ำตาแตกแน่นอน และก็มีเคสต่อจากนั้นตามมาอีกเป็นเรื่องราวความรักของผู้ป่วยด้วยกันเอง จากสาวที่เป็นโรคชักกระตุกหลงรักหนุ่มรักสะอาดแบบเว่อร์ๆ (เป็นโรคจิดแบบหนึ่ง) ซึ่งก็กลายเป็นเรื่องราวลุ้นรักจากพระเอกที่ทำตัวเป็นกามเทพให้ทั้งคู่ ผ่านสกิลสำนวนการเขียนสคิปต์ของพระเอกที่เป็นงานถนัด และก็มีเรื่องราวอื่นๆ ตามมาอีกเรื่อยๆ ซึ่งหนังใช้เวลาส่วนนี้ไปชั่วโมงกว่า แทบไม่ได้มายุ่งกับเรื่องปัญหาความรักของพระเอกนางเอกแบบที่เริ่มมาตอนแรกเลย แต่กลับทำออกมาได้ประทับใจ ให้ความรู้สึกฟีลกู๊ดลุ้นให้ผู้ป่วยเหล่านี้ได้ผ่านปัญหาชีวิตไปให้ได้
หลังผ่านไปชั่วโมงกว่าเรื่องถึงวกกลับเข้ามาที่ปัญหาความรักของพระเอกที่เกิดขึ้นในตอนแรก และก็มีฉากที่พระเอกต้องเลือกว่าจะออกหรือจะอยู่ต่อไป ซึ่งหนังวางจังหวะเหตุผลของเรื่องไว้ลงตัวมาก ทำให้เราเชื่อได้ว่าทำไมพระเอกเลือกที่จะไม่ไป แม้จะกลับออกไปได้ง่ายๆ แล้วก็ตาม เมื่อพระเอกเลือกอยู่เพื่อแก้ปัญหาความรักที่เกิดขึ้นกับนางเอก ซึ่งเป็นโรคจิตประเภทหนึ่งที่อันตรายกับคนรอบข้าง (อ่านในสปอยล์ด้านล่างเพิ่มได้ว่าโรคอะไรครับ) และก็เป็นสาเหตุให้เธอปิดใจกับทุกคน กลายเป็นสาวรักสนุกไม่ผูกพันหรือต้องการรู้สึกยึดติดใครไว้กับตัว จึงทำให้พระเอกต้องพยายามให้เธอเปิดใจและเชื่อว่าโรคนี้ต้องรักษาหายได้ เป็นช่วงที่หนังออกแนวสวีทโรแมนติกให้กำลังใจฝ่าฟันปัญหาให้กับคนรัก ซึ่งฟังดูอาจจะน้ำเน่า และดูก็เหมือนหนังง่ายๆ ตามสูตร แต่กลายเป็นว่านี่เป็นแค่ช่วงพักก่อนจะเข้าสู่ปมปัญหาที่แท้จริง ซึ่งหนังเลือกเส้นทางไม่เพ้อฝันไปจากความเป็นจริง และก็ทำให้คนดูเข้าใจเชิงลึกมากขึ้นด้วยว่า สิ่งที่พระเอกทำไม่ใช่สิ่งที่ถูกนัก ปัญหาของคนป่วยทางจิตไม่ใช่จะแก้กันได้ง่ายๆ แบบที่คิด แต่ไม่ต้องกลัวว่าหนังจะจบแบบเศร้าหดหู่ เพราะหนังหาทางออกจบในแบบที่ใกล้เคียงกับความเป็นจริงที่สุดได้ดี แต่ก่อนจบมีฉากตลกๆ กลับมาหลุดโลกนิดหน่อยให้คนดูได้ยิ้มๆ ผ่อนคลายกำลังดี เรียกว่าจบสวยลงตัวมากครับ
อีกสิ่งที่ทำให้เรื่องดีขึ้นมากคือ ตัวละครสมทบที่เป็นผู้ป่วยในโรคต่างๆ กันในกลุ่มเพื่อนพระเอก แต่ละคนแสดงออกมาดีเว่อร์จนเหมือนเป็นผู้ป่วยโรคนั้นจริงๆ โดยเฉพาะสองคนหลักที่ป่วยคิดว่าตัวเองเป็นสายลับกับสาวโรคชักกระตุก หนังไม่ได้มีบททำให้พวกเขาดูตลกเลย กลับกันเรากลับรู้สึกสะเทือนใจ เข้าใจมากขึ้นว่าทำไมคนป่วยถึงเลือกปิดตัวเองมาใช้ชีวิตในนี้แทนที่ข้างนอก แต่จุดนี้ก็น่าเสียด้วยว่าพอเป็นหนังความยาวแค่ชั่วโมงกว่า ทำให้เรื่องไม่สามารถปันเวลาให้กับคนป่วยอื่นๆ ที่อยู่ในกลุ่มเพื่อนพระเอกได้มากกว่าสองคนนั้นที่เป็นตัวหลักของเรื่องราวดราม่าในเรื่องนี้
นานๆ จะมีหนังเน็ตฟลิกซ์แท้ๆ ที่เขียนบทออกมาได้อย่างน่าประทับใจ ไม่ลวกๆ ไม่เป็นไปตามสูตรง่ายๆ ถ้าใครเคยชอบหนังแนวผู้ป่วยทางจิตอย่าง One Flew Over the Cuckoo’s Nest (บ้าก็บ้าวะ) ของแจ็คนิโคลสันที่เก่าแบบขึ้นหิ้ง หรือ ซีรีส์เกาหลีน้ำดีปีก่อน It’s Okay to Not Be Okay (เรื่องหัวใจ ไม่ไหวอย่าฝืน) ที่ทั้งสองเรื่องเกี่ยวโรงพยาบาลและผู้ป่วยจิตเวชทั้งคู่ เรื่องนี้ก็คืออารมณ์ใกล้เคียงกัน และก็ทำออกมาได้เคารพผู้ป่วย ไม่ถูกนำมาเป็นตลก แนะนำเลยว่านี่จะเป็นหนังเล็กๆ ที่ดูจบแล้วเก็บเกี่ยวความประทับใจกลับไปได้มากกว่าที่คิดแน่นอนครับ