Zero ซีโร่ คนเล็กใจใหญ่ (2018) [บรรยายไทย]

คำเตือน: รีวิวเรื่องนี้จะมีการพูดถึงฉากสำคัญบางฉากในหนัง ถ้าไม่สปอย ก็ไม่รู้จะหยิบอะไรมาพูดเหมือนกัน..เอาจริงๆ รีวิวจะจืดไปเลย

หนัง Zero เรื่องนี้มองปกผ่านๆ อาจนึกว่าเป็นหนังดราม่าโรแมนติกแบบ Me Before you เวอร์ชั่น Bollywood แต่จริงๆแล้วไม่ใช่ ครึ่งแรกของหนังเหมือนหนังรักของชายร่างแคระกับสาวอัจฉริยะผู้มีความผิดปกติทางร่างกาย แต่ครึ่งหลังมันกลายเป็นหนังง้อแฟนไซไฟแบบ First Man (2018) ซะงั้น


หนังเรื่องนี้ใช้ทุนการสร้างไปกว่า 200 ล้านรูปี ตกเป็นเงินไทยประมาณ 92 ล้านบาท แพงลิ่ว





และยังเป็นหนังเรื่องสุดท้ายของนักแสดงดังอย่าง นักแสดงดังวัย54 ปี Sridevi Kapoor ที่เสียชีวิตไปเมื่อ 24 กุมภาพันธ์ ปีที่แล้ว จากการจมน้ำที่ดูไบสหรัฐอาหรับเอมิเรตส์ นับเป็นเรื่องที่น่าเศร้ามากในวงการณ์ภาพยนตร์

หนังพูดถึง.. โบอาห์ซิง นำแสดงโดย SRK หรือ Shah Rukh Khan นักแสดงดังระดับตำนานของอินเดียขวัญใจมหาชนตลอดกาล ถ้าเทียบกับฮ่องกงก็เหมือน หลิวเต๋อหัว ถ้าบ้านเราประมาณพี่ติ๊ก เจษฎาภรณ์ ผลดี หรือ เบิร์ด ธงไชย เบอร์นั้นเลย หล่อตลอดกาลไม่แก่เลย ทุกวันนี้แอดอยากหาดูผลงานเรื่อง Fan ของเขาอยู่

SRK มารับบทเป็น ชายร่างแคระอายุ 38 ที่ตามหารักแท้ที่เหมาะสมกับขนาดตัวเขา จนกระทั่งเขาไปเจอ อาเฟีย แสดงโดย Anushka Sharma(เคยเล่นผลงานดังๆอย่าง PK)

อาเฟียเป็นสาวอัจฉริยะที่ทำงานคล้ายๆกับนาซ่า ส่งลิงไปดาวอังคาร แต่มีความผิดปกติทางร่างกายแต่เกิด พูดขยับได้ไม่เหมือนคนปกติ เดินไม่ได้อาศัยนั่งวิลแชร์

เมื่อโบอาห์ซิงมาเจอเธอ เขาถึงกับผิดหวัง เพราะในรูปถ่ายเธอไม่ได้บอกว่าเธอนั่งรถเข็น แถมเขาโดนฝ่ายหญิงหักหน้าตั้งแต่ไม่ทันจีบ

อย่างที่บอกครึ่งแรกของหนังเล่าถึงการหักหน้า หรือตามล่าตามจีบกันของคู่นี้ ที่ดูแล้วเหมือนหนังรักหวานๆเรื่องนึง เหมือนดู Long Shot ที่มาพร้อมกับฉากเต้นร้องรำสไตล์หนังอินเดีย ที่มีงานภาพสวย

และที่น่าชื่นชมอีกอย่างคือ งานสเปเชียลเอฟเฟคไม่ใช่ขี้ๆ สามารถเมคอัพ พระเอกหล่อๆอย่างSRK ให้อยู่ในร่างคนแคระได้ แบบไม่รอย โคตรสมจริง เหมือนพี่แกเตี้ยจริงๆ หนังไม่รู้ได้ทีมงานมือดีจากนอกหรือป่าว เพราะมีการถ่ายทำถึงอเมริกา

เมื่อครึ่งแรกหนังผ่านไปมาถึงจุดเปลี่ยนของตัวละคร
ในคืนก่อนแต่งงาน โบอาห์ซิง ไปงานปรากฏตัวของนักแสดงซุปตาร์สาวที่เขาแอบปลื้มมานาน แล้วเกิดเหตุอะไรบ้างอย่างให้เขาได้จูบกับเธอ

มันเหมือนความไม่พอของฝ่ายชาย หลังจากโบอาห์ซิงและอาเฟีย ในวันที่ทั้งคู่กำลังจะแต่งงาน ฝ่ายชายดันหนีออกจากงานแต่ง เพื่อไปทำฝัน นั้นคือการได้พบกับนักแสดงสาวที่ว่า ถึงขั้นเดินทางไปเมืองใหญ่ประกวดเต้นให้ชนะเพื่อเจอสาวที่ชอบ

อารมณ์มันเหมือนกับชายที่ได้คว้าดาวตามที่หวังแต่มันยังไม่พอสำหรับเขา แบบยอมทิ้งรักไปทำตามฝันเพื่อคว้าพระจันทร์ต่อไป

พอดูมาถึงจุดนี้รู้สึกว่ามันผิดคาดจากที่คิดไว้ อย่างที่ว่าอย่าตัดสินหนังสือจากหน้าปก คือแอดนึกว่าจะได้ดูหนังแบบ me Before you หรือ The Fault in Our Stars อะไรเทือกนั้น แต่มันไม่ใช่แล้ว

โบอาห์ซิงไปทำงานร่วมกับซุปตาร์สาวที่ชอบ จนสาวที่ว่าไล่เขาไป จนโบอาห์ซิงสำนึกได้ จึงกลับไปหาภรรยาอาเฟียที่ไปทำงานที่อเมริกา เตรียมจะปล่อยลิงขึ้นจรวด..

เขาเดินทางกลับไปแล้วพบว่าเธอตั้งท้องกับเขาจนมีลูก นั้นทำให้โบอาห์ซิงรู้สึกผิดอย่างมาก และที่หนักกว่านั้น เธอกำลังมั่นกับชายคนใหม่เสียแล้ว

เขาทำทุกวิถีทางเพื่อง้ออาเฟีย จนท้ายที่สุดมาจบที่ยอมเสนอตัวเป็น1ในผู้ถูกคัดเลือกให้ไปดาวอังคารแล้วเขาถูกเลือกเป็นตัวแทน คนทั้งประเทศไปดาวอังคาร

เป็นหนังแขกที่ฝ่ายชายง้อฝ่ายหญิงที่โคตรลงทุน มันง้อแบบฉบับBollywood จริงๆ เคยดูหนังแอ็คชั่นBollywood วันนี้ได้ดูหนังรักBollywood ก็เวอร์ไม่แพ้กัน รู้สึกเลย มันไม่ใช่หนังรักที่ถูกจริตเราซักเท่าไหร่



 

แถมพระเอกเรื่องนี้มีความสามารถพิเศษสามารถเคลื่อนย้ายดวงดาวบนฟ้าได้ ซึ่งแอดก็ไม่เข้าใจตรงส่วนนี้ของหนังเหมือนกันว่าวันพยามจะสื่ออะไร

เพราะมีอยู่ช่วงนึงที่พระเอกหนีไปในเมืองใหญ่ เพื่อเจอซุปตาร์ เขาไม่สามารถย้ายดวงดาวได้แบบตอนอยู่บ้านเกิด ใครดูเข้าใจก็ลองคอมเม้นท์บอกกันหน่อย..

ถ้าตามความเข้าใจแอดมินช่วงนึงของหนังมันมีการพูดถึงเล็กๆน้อยยๆ ถึงการหักอก หักหลังตัวเองหรือหักอกคนรัก จะไม่มีใครเชื่อฟัง แม้แต่สุนัขที่เลี้ยงไว้
อันนี้คือสิ่งหนังน่าจะพยามสื่อ แต่ทำไม่ต้องเป็นดาว? น่าจะเป็นความเชื่ออะไรของอินเดียหรือป่าว อันนี้ไม่รู้

การใช้ชีวิตแบบวิ่งหนี หนีหัวใจตนเอง หนีจากทุกคน หนีจนตัวละครเข้าใจภายหลังได้ว่า การเดินหนีจากปัญหาอาจไม่ใช่สิ่งที่ถูกเสมอ

เอาตามความจริงหลังดูหนังเรื่องนี้จบ ตั้งคำถามกับตัวเองว่าได้อะไรจากการดูเรื่องนี้ คำตอบคือไม่ ไม่ได้อะไรนอกจากความบันเทิงจากความขันของ Shah Rukh Khan หนังมันก็ดูสนุกเรื่อยๆ แต่ก็มีเครื่องหมายเควสชั่นมาร์ค ขึ้นมากลางหัว เราดูอะไร? ดูทำไม? กำลังดูอะไร? แล้วได้อะไร?
คำสอนที่สอดแทรกเข้ามาในหนังที่ สะเปะสะปะ
หยิบหนังเรื่องนี้มาดูงานเอาสนุกกับงานภาพ และซีจีสวยๆก็พอแล้ว..

ถามจริงคุณเห็นปกเรื่องนี้แล้วคิดว่ามันคือหนังแนวไหน ประมาณไหนกัน แต่สำหรับแอดมันผิดกับที่คิดไว้ค่อนข้างมาก

คอหนังอิเดียน่าจะชอบเรื่องนี้...คนทั่วไปดูได้ เป็นหนัง เด็กดูได้ ผู้ใหญ่จะไม่ดูก็ได้

แต่ก็ขอชื่นชมงานCGจริงๆทั้งตัวจรวดกระสวยหรือ เมคอัพคนสูงให้แคระและเนียนได้ก็โอนะ มันยังดูโอกว่าตอนดูกัปตันอเมริกา ที่คริส อีแวนส์ ในร่างผอมแห้ง มันยังดูหัวกับตัวไปคนละทางบ้าง แต่หนังอินเดียเรื่องนี้ทำเนียนพอสมควร

ตัว Anushka Sharma นางเอกก็เล่นเนียนเหมือนคนผิดปกติร่างกายจริงๆ
6.5คะแนนนี้ให้ เพราะความเบอร์ใหญ่ของตัวนักแสดง มีแม่เหล็ก เรียกคนให้ดูได้ มีพลังดาราอย่าง SRK มาอยู่ในหนัง และงานภาพคอมพิวเตอร์กราฟิกที่สมจริง

นอกเหนือจากนี้ของตัวหนังไม่มีอะไรน่าพูดถึงหรือจดจำเท่าไหร่ มันพอดูได้ จะไม่ดูก็ได้ ประมาณแบบหยิบเรื่องนี้ดูฆ่าเวลา ใครใช้Netflix ในวันที่แบบ ไม่รู้จะดูอะไรก็ลองหยิบเรื่องนี้มาดูแล้วกันครับ