หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนังระทึกขวัญ , หนังผจญภัย
เรื่องย่อ : Skyline สงครามสกายไลน์ดูดโลก (2010) [พากย์ไทย บรรยายไทย]
ชื่อภาพยนตร์ : Skyline สงครามสกายไลน์ดูดโลก
แนว/ประเภท : Action, Sci-Fi, Thriller
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Colin Strause, Greg Strause
บทภาพยนตร์ : Joshua Cordes, Liam O'Donnell
นักแสดง : Eric Balfour, Donald Faison, Scottie Thompson
วันที่ออกฉาย : 11 November 2010
เพื่อนกลุ่มหนึ่งที่ปาร์ตี้กันบนคอนโดหรู จาร์รอด (เอริค บัลโฟร์) และ อีเลน (สก็อตตี้ ธอมป์สัน) เดินทางไปร่วมงานวันเกิดของ เทอร์รี่ (โดนัลด์ ไฟสัน) เพื่อนสนิทและแฟนสาว แคนดิส (บริตตานีย์ แดเนียล) ที่เมืองลอสแองเจลิส แต่เมื่อแสงประหลาดถูกส่องลงมาจากท้องฟ้าก่อนที่ดวงอาทิตย์จะขึ้นเพียงสอง ชั่วโมง ทุกชีวิตบนโลกก็แทบสูญสิ้น พวกเขาคือผู้รอดชีวิตและจะต้องหาทางเอาตัวรอดจากหายนะครั้งนี้ นอกจากนี้ พวกเขายังต้องผจญกับผู้บุกรุกจากนอกโลก ไม่ว่าจะเป็น “แทงค์เกอร์” ขนาดมหึมาใกล้เคียงคิงคองสูงกว่า 65 ฟุต “ไฮดร้า” หน่วยต่อสู้ทางอากาศ จนถึง “โดรน” หน่วยปฏิบัติการณ์ขนาดเล็ก มนุษย์ทุกคนไม่มีทางหนีรอดและทำลายมัน หรือนี่คือ วันสิ้นโลกอย่างแท้จริง
IMDB : tt1564585
คะแนน : 4.4
รับชม : 3137 ครั้ง
เล่น : 1035 ครั้ง
จากหน้าหนังที่ว่าด้วยมนุษย์ต่างดาวบุกโลก ตัวอย่างหนังดูน่าสนใจตั้งแต่แรกเห็น “SKYLINE : สงครามสกายไลน์ ดูดโลก” ถูกตั้งความหวังทันทีว่าต้องเป็นหนังสุดมันส์ส่งท้ายปี บางคนถึงกับวาดหวังว่ามันจะเป็นไอดี 4 ของยุคนี้ กระทั่งหนังหลายๆเรื่องต่างหลีกทางให้กับสกายไลน์เปิดตัวฉายในเมืองไทยเพียงหนึ่งเดียวแบบไร้คู่แข่ง เพราะมันเป็นงานกำกับของมือสเปเชียล เอฟเฟกต์ศิษย์เอกลูกหม้อเจมส์ คาเมรอนที่เคยผ่านงานอย่าง อวตาร, 2010, เอเลี่ยน แต่ด้วยเงินทุนเพียง 20 ล้านเหรียญสหรัฐ (บางข้อมูลบอกว่าใช้เพียง 10 ล้านเท่านั้น) จัดเป็นหนังทุนต่ำที่ผู้สร้างจำกัดงบประมาณในทุกๆด้านทั้งเนื้อหา สถานที่ถ่ายทำ ตัวนักแสดงโดยทุ่มงบทั้งหมดไปกับสเปเชียล เอฟเฟกต์ที่ตัวเองถนัด ผลออกมาสกายไลน์จึงเป็นหนังที่มีดีแค่สเปเชียล เอฟเฟกต์เท่านั้นไม่พูดพร่ำทำเพลงหนังเปิดเรื่องทันทีด้วยลำแสงสีฟ้าที่พวยพุ่งลงมาพร้อมกับดูดทุกคนที่มองแสงนั้นขึ้นไปบนฟ้าเหมือนในหนังตัวอย่าง จากนั้นก็ย้อนเรื่องกลับไปเมื่อสิบกว่าชั่วโมงก่อนหน้านี้
หญิงชายคู่หนึ่งเดินทางมาร่วมงานวันเกิดเพื่อนบนคอนโดสุดหรูในลอสแองเจลิส หลังจากงานปาร์ตี้็้จบลงทุกคนต่างเข้านอน แล้วทั้งหมดก็ถูกปลุกให้ตื่นด้วยลำแสงสีฟ้าจากมนุษย์ต่างดาว ที่ใช้มันในการดูดมนุษย์ขึ้นไปบนยานอวกาศซึ่งจอดรออยู่ โดยมีเป้าหมายนำมนุษย์ไปทำอะไรบางอย่างเพื่อใช้ในการปลุกชีพของเหล่าเอเลี่ยนให้มีชีวิตแล้วกลับมาทำลายล้างโลกหนังเดินตามสูตรสำเร็จของหนังทุนต่ำ โดยเลือกนักแสดงที่มีชื่อเสียงไม่มากนัก ดำเนินเรื่องให้ตัวละครทั้งหมดถูกบีบให้อยู่ในสถานการณ์ที่คับขันบนพื้นที่อันจำกัด จากนั้นค่อยๆสังหารตัวละครทีละตัวในรูปแบบที่คนดูคาดไม่ถึง มันดูไม่ต่างอะไรจากหนังเกรดบีพวกฆาตกรโรคจิตที่คอยฆ่าเหยื่อทีละคนในบ้านกลางป่าที่ไม่มีใครเข้าไปถึง เพียงแค่เปลี่ยนจากฆาตกรโรคจิตมาเป็นเอเลี่ยนและบ้านกลางป่าเป็นคอนโดสุดหรูกลางเมืองเท่านั้น แม้ว่าหนังจะใช้สูตรสำเร็จของหนังทุนต่ำ แต่มันก็ยังคงใช้ได้ผลในการตรึงคนดูให้อยู่กับที่ และลุ้นตื่นเต้นไปกับสถานการณ์ตลอดเรื่องว่าจะดำเนินและมีจุดสิ้นสุดต่อไปอย่างไร รวมถึงตั้งคำถามร่วมไปกับตัวละครว่ามนุษย์ต่างดาวมีวัตถุประสงค์อะไรต่อการบุกโลกในครั้งนี้ต้องยอมรับในฝีมือของสองพี่น้องโคลินและเกร็ก สเตราส์ที่เนรมิตเจ้าเอเลี่ยน ยานอวกาศ ฉากการต่อสู้ไล่ล่าทำลายล้างออกมาได้อย่างตื่นตาตื่นใจ สมเป็นมือเอฟเฟกต์แถวหน้าของฮอลลีวูดที่เคยผ่านงานอย่าง Avatar, 2012, Iron Man 2, The Curious Case of Benjamin Button, 300 มาแล้ว แม้จะเคยมีผลงานการกำกับหนังรื่องแรก Aliena vs. Predator : Requiem / 2007 ที่ทั้งคู่ไม่ค่อยปลาบปลื้มเท่าไหร่นักกับการถูกบีบบังคับให้ทำหนังตามที่นายทุนต้องการ พอถึงผลงานลำดับต่อมาสองพี่น้องสเตราส์จึงเลือกที่จะรวบรวมหาเงินทุนด้วยตัวเองโดยไม่พึงพาเงินจากสตูดิโอขนาดใหญ่ หนังใช้ทีมงานไม่ถึง 20 คน ใช้คอนโดของตัวเองเป็นสถานที่ถ่ายทำ จัดหาอุปกรณ์ นักแสดงเองทั้งหมดเพื่อควบคุมงบประมาณที่มีอยู่จำกัดให้ได้หนังออกมาตามที่ตัวเองต้องการสกายไลน์จึงดูมีกลิ่นของหนังหลายๆเรื่องตั้งแต่ District 9 กับภาพยานอวกาศที่ลอยอยู่เหนือน่านฟ้าของเมืองใหญ่ ,Cloverfield กับการหลบหนีไล่ล่าของเหล่าเอเลี่ยนบนตึกสูง ,War of the Worlds กับเหล่าเอเลี่ยนที่มีหนวดคล้ายแมงมุม มันเหมือนการจับเอาโน่นนิดนี่หน่อยมาผสมปนเปลงไปในหนังบางคนอาจจะไม่ชอบเพราะไม่มีอะไรแปลกใหม่ ยิ่งมาเจอกับเนื้อเรื่องที่แทบจะไม่มีอะไรเลย ซ้ำร้ายตอนจบก็ดูห้วนๆเล่นจบกันดื้อๆแบบไม่ทันตั้งตัว ต้องให้คนดูไปตามต่อในภาคสองซึ่งจะเริ่มถ่ายทำในปีหน้า หลายคนจึงเกิดอาการเซ็งสุดขีดเหมือนคนถ่ายไม่สุดแต่ต้องลุกเดินออกจากโรงหนังเสียแล้วหนังมีทุนสร้างแค่ 20 ล้านเหรียญแต่ทำสเปเชียล เอฟเฟกต์ออกมาได้ไม่แพ้หนังลงทุนเป็น 100 ล้านเหรียญต้องขอชมเชยในส่วนนี้ ส่วนเนื้อเรื่องที่ดูไม่ค่อยมีที่มาที่ไปเท่าไหร่ การแสดงที่ดูแข็งไปบ้าง สถานที่ซึ่งถูกจำกัดอยู่แต่ในคอนโดเท่านั้น ทั้งหมดนี้น่าจะถูกแก้ไขปรับปรุงให้ดีขึ้นในภาคต่อไป เชื่อว่าสกายไลน์คงจะได้กำไรเป็นกอบเป็นกำและสามารถนำไปเป็นทุนสร้างภาคสองให้มันมีเนื้อเรื่องที่แข็งแรงกว่านี้และคลายข้อสงสัยต่างๆที่ยังค้างคาใจคนดูในภาคนี้ให้กระจ่างหนังเรื่องนี้น่าจะเป็นตัวอย่างที่ดีสำหรับหนังทุนต่ำที่รู้ว่าตัวเองมีอะไรจะขาย แล้วแสดงศักยภาพในส่วนนั้นออกมาให้เต็มที่ รู้จักชูจุดเด่นที่ตัวเองถนัดมาบทบังจุดด้อยให้คนดูเห็นน้อยที่สุด ใครที่ต้องการดูหนังที่มีเอฟเฟกต์เยอะๆ แอ็กชั่นมันๆสมจริงสมจังน่าจะชอบหนังเรื่องนี้ ส่วนใครที่อยากดูหนังแอ็กชั่นที่มาพร้อมกับเนื้อหาอันเข้มข้นแข็งแรงคงผิดหวังและอาจบรรจุหนังเรื่องนี้เป็นหนังห่วยแห่งปีก็ได้ มันขึ้นอยู่กับรสนิยมของคนดูแต่ละคนว่าเป็นไปในแบบไหน สำหรับผมแค่ได้ลุ้นแบบนั่งไม่ติด ตื่นตาตื่นใจกับเอฟเฟกต์ที่อัดไม่มียั้งกับหนังทุนต่ำแบบนี้ก็พอใจแล้วครับ