หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : Sightless โลกมืด (2020) [ บรรยายไทย ]
ชื่อภาพยนตร์ : Sightless โลกมืด
แนว/ประเภท : Drama, Thriller
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Cooper Karl
บทภาพยนตร์ : Cooper Karl
นักแสดง : Madelaine Petsch, Deniz Akdeniz, Alexander Koch
วันที่ออกฉาย : 29 September 2020
หลังจากต้องพักรักษาตัวเพราะถูกทำร้ายจนทำให้ตาบอดอดีตนัก ไวโอลินเกิดความรู้สึกเคลือบแคลงใจในพฤติกรรมของผู้คนรอบข้างที่ดูไม่ชอบมาพากล
IMDB : tt10303430
คะแนน : 5.4
รับชม : 2848 ครั้ง
เล่น : 810 ครั้ง
จะเป็นอย่างไรถ้าหากประสาทสัมผัสทั้ง 5 ของเรานั้นไม่สามารถทำงานได้ 1 อย่าง โดยเฉพาะประสาทสัมผัสด้านการมองเห็น และสาเหตุมันไม่ได้เกิดจากอุบัติเหตุด้วย ซึ่งจากเดิมเราเคยเชื่อทุกสิ่งทุกอย่างที่ตาเราเห็นว่าเป็นจริง แล้วเมื่อเรา ไม่สามารถรับรู้จากการมองได้แล้ว และเราจะสามารถเชื่อประสาทสัมผัสที่เหลือทั้งหมดที่เรารับรู้ได้หรือไม่
โลกมืด ว่าด้วยเรื่องราวของ เอลเลน นักดนตรีสาวผู้โด่งดัง ถูกทำร้ายอย่างทารุณจากบุคคลไม่ทราบชื่อ จนสาเหตุให้เธอต้องตาบอดอย่างถาวร เธอมีญาติเองคนเดียวคือพี่ชายที่ทำธุรกิจอยู่ที่ประเทศญี่ปุ่น พี่ชายให้จัดให้เธอไปอยู่ในห้องพักแห่งหนึ่ง พร้อมกับจ้าง เครตันนักหนุ่มบำบัดไว้ดูแลเธอ
เครตันจะมาดู้แลเธอทุกวัน ทำอาหารเที่ยงให้ สอนให้รู้จักการใช้ชีวิตแบบคนตาบอด ซึ่งช่วงแรกเอลเลน ไม่สามารถปรับตัวได้เลย แต่ก็มีเครตันช่วยดูแลและเป็นกำลังใจเสมอ
คืนหนึ่งเธอรู้สึกว่าที่ข้างห้องของเธอนั้นมีการทะเลาะเบาะแว้งกันอย่างรุนแรง เธอได้ยินเสียงหญิงสาวร้องไห้ เธอรับรู้ได้ว่าน่าจะเกิดจากการกระทำของสามี แม้ว่าเธอตาบอดเธอก็พยายามหาทางติดต่อเพื่อช่วยเหลือผู้หญิงคนนั้น แม้จะโทรแจ้งตำรวจแล้วก็ตาม ตำรวจก็บอกว่าไม่มีใครทำร้ายเธอ เธอเชื่อมั่นว่าประสาทสัมผัสด้านการรับฟังของเธอนั้น ไม่ผิดแน่นอน วันหนึ่งหญิงสาวข้างห้อง ได้มาเคาะประตูหาเธอ เอลเลนจึงชวนเข้ามา เธอสัมผัสที่ใบหน้ารู้ว่านั้นคือรอยเย็บ เชื่อมั่นในตัวเองว่าสิ่งที่เธอได้สัมผัสด้วยมือนั้นไม่ผิดแน่นอน แต่ผู้หญิงคนนั้นก็กระซิบข้างหูของเธอว่า อย่าไว้ใจใคร
เอลเลนเริ่มสังเกตว่า ภายในห้องพักคืนนั้นมีหลายอย่างที่ผิดปกติ เช่นสายลมที่พัดเข้าหน้าต่างนั้น แทบจะเป็นแบบเดียวกันทั้งหมด เสียงจอดรถอยู่ข้างล่างอาคารก็เป็นเสียงของรถคันเดิมและจอดในเวลาเดิมสลับวันเว้นวัน รู้สึกว่ามีบางสิ่งบางอย่างไม่ชอบมาพากลซะแล้ว
เมื่อถึงที่สุดของเธอแล้ว เธอก็พยายามฆ่าตัวตาย กระโดดลงจากลงไปเลยแต่ความฝันก็เกิดขึ้น เธอกลับไม่ตาย แต่เธอเดินไปอยู่ในห้องห้องหนึ่งที่มีผนังล้อมรอบ สมองจะเกิดการประมวลความคิด แล้วเธอก็รับรู้ได้ว่าแท้จริงแล้วเธอไม่ได้อยู่ในห้องพัก เธออยู่ในห้องห้องหนึ่งที่สร้างให้เป็นเหมือนห้องพัก แล้วเธอก็เริ่มทบทวนคำหญิงสาวข้างห้องที่พูดกับเธอว่า อย่าไว้ใจใคร พร้อมๆกับการทบทวนเหตุการณ์ที่เธอถูกทำร้าย ทั้งหมดทั้งมวลนี้ไม่ได้เป็นไปตามปกติ เธอจึงสงสัยเครตัน ชายหนุ่มนักบำบัดของเธอ เรื่องราวจะดำเนินต่อไปอย่างไร สรุปแล้วเกิดอะไรขึ้นกับเอลเลนกันแน่ เชื่อเถอะว่ามันคุ้มที่คุณจะดูต่อ สามารถรับชมได้ทาง Netflix ครับ
ตอนแรกที่ดูจากตัวอย่างก็คิดว่า Sightless น่าจะเป็นหนังแนวลึกลับ สยองขวัญ จิตวิทยา แต่พอได้ดูไปจนถึงที่หนังเฉลยบอกเลยว่าประทับใจมาก โอ้โหนี่มันหนังแนวจิตวิทยาระทึกขวัญชัด ๆ ไม่มีทางไหนที่เราจะดูในช่วงชั่วโมงแรกเรารู้สึกว่าหนังจะออกมาแนวนี้ได้ เขาเก็บงำบางสิ่งบางอย่างเอาไว้ดีมาก แต่เขาก็ไม่ได้งำไปทั้งหมด เขาได้ให้คำไบ้กับเราไว้หลายจุด เพียงแต่เราจะนำมาเชื่อมโยงได้เองหรือไม่ต่างหาก
ความพิเศษสุดของหนังคือ เขาสามารถประสานประสาทสัมผัสการรับรู้ของตัวละครผ่านมาถึงคนดูได้อย่างเก่งกาจและมีชั้นเชิง มีหลายครั้งที่หลังได้บอกกับเราว่า ทุกสิ่งทุกอย่างที่อยู่รอบข้างเรานั้นหลายครั้งเราก็จินตนาการขึ้นมา ว่ามันควรจะเป็นสีอะไร มันควรจะเป็นรูปร่างหน้าตาอย่างไร แล้วเมื่อเราเชื่ออย่างนั้นไปแล้วเราก็คิดว่าสิ่งนั้นเป็นจริงถ้าเป็นอย่างนั้นไปเสมอ
หนังเล่นกับสัญชาตญาณของเรา เราคิดว่าการรับรู้และสัมผัสของเรานั้นถูกต้องเสมอ ทั้ง ๆ ที่มันอาจจะไม่ได้เป็นไปตามสิ่งที่เราคิดก็ได้ ดังนั้นหนังจึงตั้งคำถามกับคนดูว่า ทุกสิ่งที่เรารักรู้นั้นมันเป็นจริงอย่างที่เราคิดแน่หรือ
หนังเรื่องแสดงชั้นเชิงในการเล่าเรื่องประเด็นนี้ได้อย่างเก่งกาจจนเราอึ้งไปเลย
โดยเฉพาะหนึ่งชั่วโมงแรกของเรื่องนั้นค่อนข้างช้ามาก ช้าขนาดที่ว่าทำให้ใช้เวลาผมดูหนังเรื่องนี้ 3 วัน หนังเล่าเรื่องแค่ว่าเอลเลนใช้ชีวิตอยู่ในห้องของเธออย่างไร สนทนากับนักบำบัดอะไรบ้าง เวียนไปเวียนมาอย่างนั้น แต่ในความเชื่องช้านั้น หนังก็ทำให้เราเกิดการคุ้นชินกับตัวละคร กับเสียงต่าง ๆ ชินจนเชื่อว่าใช่ พอใช่ก็จะตลบหลังคนดู ก็จะส่งผลในตอนท้ายทำให้เรื่องทรงพลัง
ในด้านการแสดงต้องขอชื่ชมว่า Madelaine Petsch นางเอกเล่นดีมาก มากจนเชื่อว่าเธอตาบอดจริง ส่วนคนอื่นก็ไม่มีอะไรประทับใจ
อย่างไรก็ตามหนังก็มีจุดบอด จุดให้เราตั้งคำถามถึงความสมเหตุสมผลอยู่หลายครั้ง โดยเฉพาะประเด็นการเอาตัวรอดของนางเอกในสถานการณ์คับขัน ที่มันไม่น่าจะง่ายขนาดนั้น