หมวดหมู่ : หนังสยองขวัญ , หนัง Netflix
เรื่องย่อ : The Rope Curse 2 เชือกอาถรรพ์ 2 (2020) [ บรรยายไทย ]
ชื่อภาพยนตร์ : The Rope Curse 2 เชือกอาถรรพ์ 2
แนว/ประเภท : Horror
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Shih-Han Liao
บทภาพยนตร์ : Tzu-Ming Ma
นักแสดง : Kang-sheng Lee, Wilson Hsu, Vera Chen
วันที่ออกฉาย : 2 September 2020
หลังพิธีกรรมขับไล่วิญญาณเกิดบานปลาย พระลัทธิเต๋าที่มีบาดแผลในใจพยายามช่วยเด็กสาวผู้โดดเดี่ยวซึ่งเป็นร่างทรงต่อสู้กับวิญญาณร้ายที่สิงสู่ร่างน้าสาวของเธอ
IMDB : tt13212006
คะแนน : 6.2
รับชม : 5778 ครั้ง
เล่น : 1589 ครั้ง
ถึงจะออกตัวว่าเป็นหนังภาค 2 แต่ข้อดีคือ ผู้กำกับ เหลียวฉีฮั่น ที่กำกับมาตั้งแต่ภาคแรกเลือกจะทำหนังที่แยกขาดจากกัน คือไม่ต้องดูภาคแรกมาก็สามารถรู้เรื่องได้ โดยสิ่งที่ดึงมาจากภาคแรกแบบหลวม ๆ ก็คือมีตัวละครหมอผีในภาคแรกโผล่มาเชื่อมเรื่องตอนต้นนิดหน่อย แบบที่ไม่เคยดูมาก็ไม่ได้รู้สึกอะไร
และส่วนที่ดึงจากภาคก่อนมาแบบเห็นชัด ๆ คงเป็นคอนเซ็ปต์เรื่องเชือกต้องสาปที่ทำให้ใครที่พัวพันล้วนต้องตาย ในภาคก่อนเป็นวิญญาณแค้นของเด็กสาวสมัยมัธยมที่อาฆาตเพื่อนที่กลั่นแกล้ง มาในภาคนี้จะเกี่ยวกับเชือกในพิธีกรรมบูชา พรายมหาภูต วิญญาณที่ร้ายที่สุดในประเทศไทย (ตามในเรื่องว่า) คือแค่จุดนี้ก็รู้สึกอยากดูแล้ว ว่าหนังไต้หวันจะมองผีไทยแบบไหน แล้วที่ว่าร้ายที่สุดในไทยนี่จะเฮี้ยนขนาดไหน ที่สำคัญคือหมอผีจีนจะเอาอะไรมาปราบกัน (ใจหนึ่งผู้เขียนก็แอบเชียร์ผีไทยนะ แบบเลือดรักชาติเกิดแรงขึ้นมา ..ฮา)
ยอมรับว่าทำใจไว้ประมาณหนึ่ง ว่าหนังผีไต้หวันจากประสบการณ์ที่ดู ๆ มาอย่างเรื่องที่เกริ่นมาก่อนหน้า ว่ามันก็จะมีขนบบางอย่างของมัน ที่คล้าย ๆ เชย ๆ แบบที่เราดูหนังผีเอเชียมานั่นล่ะ มุกก็ไม่ค่อยต่างนัก และเรื่องนี้ก็แบบนั้นล่ะ ผีตามมาตรฐานไม่มีอะไรมากกว่านั้น-น้อยกว่านั้น สายหนังผีก็แค่พอดูฆ่าเวลาแบบอาจไม่ได้ประทับใจพิเศษอะไรมาก มีแค่บิ๊กไอเดียที่แตกต่างกันและดูน่าสนใจ
สำหรับเรื่องนี้ก็ไม่มีอะไรมากอย่างที่บอก แค่ตัวร้ายเป็นผีที่เก่งสุดของไทย โอเคแค่นั้นล่ะพอ อยากดูละ แต่พอดู ๆ ไปกับพบว่าหนังมันมีความสนุกในแบบที่เราหาจากหนังผีประเทศอื่นไม่ได้เหมือนกันนะ และนี่คือข้อดีที่อยากมาเหลาวันนี้
พรายมหาภูต นี่โคตรน่าสนใจ ในเรื่องเป็นเหมือนผีที่อิทธิฤทธิ์สูงอยู่ในรูปปั้นคล้ายพ่อแก่ ให้อารมณ์เป็นพวกอาคมเขมรด้วย พวกพ่อค้ายาเสพติดไทยจะทำพิธีบูชากัน คราวนี้พรายมหาภูตมันก็เข้าสิงคนให้ฆ่าตัวตายด้วยการผูกคอตาย ใครโดนสิงก็จะตาแดง ๆ แถมยังย้ายร่างสืบทอดไปสิงคนอื่น ๆ ได้เรื่อย ๆ
อ่านมาถึงตรงนี้ ใช่เลยครับ หนังเรื่องนี้เอาผีมาแทนไอเดียเรื่องปัญหายาเสพติดจากไทยที่เข้าไปทำลายสังคมไต้หวัน ใครเสพก็จะตาแดง ๆ เหมือนเป็นบ้า สุดท้ายไม่ฆ่าคนอื่น ก็ฆ่าตัวตาย แถมยังแพร่ระบาดไปคนอื่นได้อีก เฮ้ย เจ๋ง!
อีกอย่างที่โคตรชอบคือวิธีการสู้กับผี ที่มันโคตรเอกลักษณ์แบบหาที่อื่นไม่ได้เลย ในหนังผีชาติอื่น ๆ มันจะเป็นแบบหมอผีเทพ ๆ ลุยปราบผีแบบใส่เดี่ยว แต่ฉากการไล่ผีของหนังผีจีนอย่างเรื่องนี้มันจะแบบ สำนักไล่ผี มีความเท่ ๆ แบบแก๊ง ที่เดินกร่างทำพิธีกลางถนน แล้วแบบร่างทรงเทพจงขุยที่อยู่กลางขบวนนี่จะแบบ เท่มากอ่ะ คือเออผีร้าย ๆ มันต้องเจอฝ่ายธรรมะระดมพลแบบอเวนเจอร์ดิ ให้ความรู้สึกแบบพอฟัดกัน
แต่ก็ใช่ว่าหนังจะเป็นแบบนั้นทั้งเรื่องนะ มันก็สร้างสถานการณ์ให้ฝั่งตัวเอกหมอผี ทำพิธีเทพใหญ่ ๆ ไม่ได้แบบต้นเรื่องเพราะตำรวจตามมาไล่ (ฮ่า ๆ) พวกพี่แกเลยต้องออกมาแอบช่วยเหยื่อที่ถูกพรายมหาภูตตามล่าเอง ตรงนี้อาจคิดว่าเริ่มจะกลับมาคล้ายหนังเรื่องอื่น ๆ แล้ว แต่ป่าวเลย หมอผีบอกตัวเด็กสาวมีชะตาต้องช่วยตนเอง เลยแนะพิธีให้แล้วปล่อยเด็กสาวไปฟัดเอาเองตอนกลางเรื่อง
แล้วความสนุกแบบหนังผีจีนที่ไม่ค่อยมีในที่อื่นคือ พิธีกรรมจะสู้ผีต้องมีเงื่อนไขกำกับไว้ อย่างตอนขบวนแห่ตอนต้นก็บอกว่า ในพิธีไล่ผีห้ามบอกชื่อตัวเองเพราะผีจะตามมาฆ่า (เออคิดได้) พอหญิงสาวต้องทำพิธีไปโลกวิญญาณช่วยน้าตัวเองก็มีเงื่อนไขว่า ห้ามทำเทียนดับ และใครเรียกห้ามหันหลังไปมอง (อันนี้เชย ๆ หน่อยแต่ก็ยังทำงานกับคนดูอยู่ดี) คือพอมันมีกฎ มีเงื่อนไขกำกับ มันก็เป็นจุดอ่อนให้เราได้ลุ้นตลอดไง นี่ล่ะเคล็ดลับความสนุกที่หาจากที่อื่นยาก
ตอนจบอยากให้มาดูด้วยว่า ผู้สร้างหนังมองว่าจะปราบปัญหายาเสพติดจากไทยได้อย่างไร ซึ่งสะท้อนผ่านแนวคิดการเอาชนะพรายมหาภูตในเรื่องด้วยนี่ล่ะ
ร่ายข้อดีไปเยอะ มาถึงข้อเสีย จริง ๆ ก็น่าจะนึกออกล่ะ เป็นข้อเสียเดิม ๆ คือซีจีไม่ค่อยดี หนังก็ไม่ได้ดูมีคลาสสูงอะไร หนังผีที่โพรดักชันดูดีนิดหน่อย เป็นสไตล์หนังผีบันเทิงบ้าน ๆ นั่นล่ะ ดูเอามันได้เป็นหลัก
จุดที่น่าเสียดายสุดคือ หนังได้ หลี่ คังเซิง พระเอกที่เคยเล่นหนังให้ผู้กำกับคนดังอย่าง ไฉ้หมิงเลี่ยง มาแล้วหลายเรื่อง อาทิ Vive L’Amour (1994) The Wayward Cloud (2005) Stray Dogs (2013) มาแสดงนำในบทหมอผีรุ่นพ่อ ที่ต้องมาช่วยสาวน้อย คือบทมันก็ปูมีดราม่ามาล่ะ แต่แบบมันต้องใช้ระดับหลี่คังเซิงมาเล่นไหม ก็ไม่ และเป็นการใช้เขาที่แบบเสียของไปหน่อย แต่มองแง่ดี ก็นับว่าหนังน่าดูขึ้นเยอะเพราะเขานี่ล่ะ
สรุป นี่เป็นหนังผีไต้หวันอีกเรื่องที่คงผ่านมาและผ่านไป แต่กระนั้นก็ทิ้งความน่าสนใจไว้ให้เราดูหลายอย่าง ที่สำคัญสุดคือ ผีไทยที่ว่าเก่งที่สุดน่ากลัวที่สุด (ตามที่หนังว่า) มาอยู่ในหนังชาติอื่นมันจะเป็นอย่างไรกัน ดูเพลิน ๆ ฆ่าเวลา แบบไม่ต้องคาดหวังอะไรมากได้สนุกอยู่นะ