หมวดหมู่ : หนังดราม่า , หนัง Netflix , หนังโรแมนติก
เรื่องย่อ : Your Name Engraved Herein ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ (2020) [ บรรยายไทย ]
ชื่อภาพยนตร์ : Your Name Engraved Herein ชื่อที่สลักไว้ใต้หัวใจ
แนว/ประเภท : Drama, Romance
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Kuang-Hui Liu
บทภาพยนตร์ : Yu Ning Chu
นักแสดง : Jean-François Blanchard, Akira Chen, Edward Chen
วันที่ออกฉาย : 26 September 2020
เรื่องราวจะเริ่มขึ้น ในไต้หวันในยุคหลังยกเลิกกฎอัยการศึก ในปี 1987 โดยจะเปิดเรื่องมาเป็นการบอกเล่าชีวิตในวัยหนุ่มของ อาฮั่น ที่เล่าเกี่ยวกับตัวเขาและเพื่อนสนิทคือ เบอร์ดี้ ซึ่งพวกเขาเคยใช้ชีวิตอยู่ในโรงเรียนประจำที่เป็นโรงเรียนคริสเตียนชายล้วนมาก่อน โดยอาฮั่นจะเล่าความคิดและความรู้สึกของเขาให้กับอาจารย์สอนดนตรีที่เป็นบาทหลวงในโรงเรียน ซึ่งเรื่องราวจะเผยให้เห็นความสัมพันธ์ระหว่างเขาและเบอดี้ที่ต้องปิดซ่อนเอาไว้ในยุคสมัยที่สังคมทั่วไปยังไม่ยอมรับคนข้ามเพศ กระเทย เกย์ LGBT ต่างๆ
IMDB : tt10329134
คะแนน : 7.1
รับชม : 10960 ครั้ง
เล่น : 3445 ครั้ง
ต้องยอมรับเลยว่า หนังเรื่องนี้มีการเล่าเรื่องที่ กระชับ แต่ก็ลุ่มลึกไปในตัว แม้แต่คนดูทั่วไปที่ไม่ใช่ LGBT ก็อาจจะรู้สึกเชื่อมโยงไปกับตัวละครได้ไม่ยาก ดังนั้นสำหรับคนดูที่เป็น LGBT น่าจะยกให้นี่เป็นหนังรักขึ้นหิ้งของพวกเขาไปเลยก็ไม่ยาก
ซึ่งผู้เขียนรีวิวเป็นชายแท้ๆ ทั้งแท่งที่มีภรรยาแล้ว ยังต้องยอมรับเลยว่านี่เป็นหนังน้ำดีเรื่องหนึ่งที่นำเสนอความสัมพันธ์ของตัวละครได้สมจริงและลุ่มลึกเอามากๆ ครับ
ประเด็นของตัวหนังชัดเจนอย่างมากว่า ต้องการวิพากษ์สังคมไต้หวันโดยเฉพาะในระดับสถาบันโรงเรียนเป็นหลัก เรียกว่าเจาะเข้าถึงแก่นกันเลย ตามด้วยระดับครอบครัว ค่านิยมและทัศนคติในสังคมของไต้หวันเอง ที่ทำให้คนดูได้เห็นว่า กว่าจะมาเป็นไต้หวันที่ได้ชื่อว่าเป็นชาติที่มีเศรษฐกิจดีเยี่ยมและเป็นสังคมประชาธิปไตยนั้น แท้จริงแล้วเมื่อยุค 50-90s สังคมไต้หวันมีความเป็นสังคมกึ่งเผด็จการทหารและเอียงขวาอย่างรุนแรงเอามากๆ และไม่มีที่ว่างให้กับสิ่งที่นอกเหนือจากนั้น
ดังนั้นอย่าว่าแต่เรื่องชายรักชายจะได้รับการยอมรับหรือไม่ เพราะมันเป็นไปไม่ได้สำหรับสภาพสังคมแบบนี้ หรือถ้าจะว่าตามตรงก็คือกลุ่มประเทศเอเชียตะวันออกเกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะเป็น จีน ญี่ปุ่น เกาหลีใต้ ที่รากฐานวัฒนธรรมคล้ายคลึงกัน ล้วนเป็นสังคมที่ค่อนข้างแข็ง และไม่ยอมรับความเป็น LGBT ได้เลย
โดยสิ่งเหล่านี้จะสื่อออกมาทางสองตัวเอกทั้ง อาฮั่น และ เบอร์ดี้ ที่ต่างก็ต้องหลบๆซ่อนๆความสัมพันธ์เอาไว้ ซึ่งเบอร์ดี้ก็เลือกที่จะเปลี่ยนแปลงไปเลยด้วยการคบหาผู้หญิงแทน แต่มันกลายเป็นความสัมพันธ์ที่ล้มเหลวในอนาคตเมื่อชีวิตแต่งงานของเขาก็ต้องจบลงด้วยการหย่าร้าง
ในหนังมีการสื่อประเด็นนี้เอาไว้ที่พอดูแล้ว มันน่าจะสะท้อนใจชาวเกย์ที่โตมาจากยุค 80-90 จำนวนมหาศาลทั่วโลก ที่ต้องแสร้งทำเป็นชายแท้แล้วแต่งงานกับผู้หญิง เพื่อปดปิกตัวเอง แต่กลายเป็นว่ามันเป็นการฝืนธรรมชาติของพวกเขา ซึ่งสุดท้ายแล้วชีวิตก็ไม่มีความสุขอยู่ดี
แต่ก็อย่างที่ตัวละครในเรื่องพูดไว้ท้ายเรื่อง
“ใครมันจะไปรู้ว่าอีก 30 ปีข้างหน้า โลกจะเปลี่ยนไปขนาดนี้”
ด้านการแสดง คงต้องยกย่องทีมนักแสดงที่ทำได้ดีมาก โดยเฉพาะสองตัวเอก ที่แสดงโดย Edward Chen และ Tseng Jing-hua
ส่วนจุดด้อยของหนังก็พอมีอยู่บ้าง โดยเฉพาะการที่หนังไปให้น้ำหนักกับฉากเข้าบทรักของสองตัวเอกชายในช่วงกลางเรื่องมากเกินไป แล้วละเลยช่วงชีวิตหลังจากเป็นผู้ใหญ่แล้วของทั้งสองคน ซึ่งน่าเสียดายว่าน่าจะนำเสนอชีวิตของพวกเขาหลังจาก Time Skip ไปแล้วมากกว่านี้ โดยเฉพาะฝั่งของเบอร์ดี้ที่แต่งงานไปแล้วล้มเหลวกับชีวิตคู่ เลยทำให้พอดูแล้วอาจจะรู้สึกว่าหนังมันเรื่อยๆไปหน่อยในตอนท้าย
ภาพรวมแล้ว นี่เป็นหนังรักไต้หวันของชาว LGBT ที่สร้างจากชีวิตจริงของผู้กำกับ ซึ่งอาจจะไปจี้ใจคนดูที่เป็น LGBT ที่โตมาจากยุค 80-90 จนอินไปกับหนังเลยก็ว่าได้