หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังตลก , หนังดราม่า , หนัง Netflix
เรื่องย่อ : We Can Be Heroes รวมพลังเด็กพันธุ์แกร่ง ([2020) [ พากย์ไทย บรรยายไทย ]
ชื่อภาพยนตร์ : We Can Be Heroes รวมพลังเด็กพันธุ์แกร่ง
แนว/ประเภท : Action, Comedy, Drama
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Robert Rodriguez
บทภาพยนตร์ : Robert Rodriguez
นักแสดง : YaYa Gosselin, Pedro Pascal, Priyanka Chopra
วันที่ออกฉาย : 25 December 2020
หนังอยู่ในจักรวาลเดียวกับ “The Adventures of Sharkboy and Lavagirl” ผลงานหนังซูเปอร์ฮีโร่วัยเด็กที่ออกฉายเมื่อปี 2005 ที่ให้ชาร์คบอยกับลาวาเกิร์ลโตเป็นผู้ใหญ่และแต่งงานมีลูกกันแล้ว และลูกของพวกเขาก็มีพลังพิเศษในการควบคุมน้ำ ปั้นให้น้ำเป็นตัวอะไรได้มากมาย เมื่อซูเปอร์ฮีโร่รุ่นพ่อแม่ถูกผู้ร้ายจากต่างดาวลักพาตัวไปจนหมด ก็ถึงคราวที่บรรดาลูกๆ ตัวน้อยต้องรวมทีมกันเพื่อกอบกู้โลกในตัวอย่างหนังฉบับเต็มของ “We Can Be Heroes”
IMDB : tt10600398
คะแนน : 5.6
รับชม : 96787 ครั้ง
เล่น : 36832 ครั้ง
เรื่องราวในช่วงแรกอาจจะทำให้หลาย ๆ คนอาจเลิกดูก็เป็นได้ เมื่อการใส่ซีจีสู้กับสัตว์ประหลาดในช่วงแรกนั้นมันช่างแย่เหลือเกิน พร้อมด้วยชุดเห่ย ๆ ที่ทำล้อเลียนซุปเปอร์แมน ทำให้ตอนแรกนั้นมีอคติไปบ้าง แต่เมื่อพอดูไปเรื่อย ๆ กลับพบว่าเรื่องนี้มีความน่าสนใจมากกว่าที่คิด นี้มันคือหนังสำหรับ Geek ซุปเปอร์ฮีโร่เลยก็ว่าได้ การทำฮีโร่ต่าง ๆ แทบจะยกมาจากตัวละคร DC comics เกือบทั้งหมด ไม่ว่าจะมี มิราเคิลแมนที่ล้อเลียนซุปเปอร์แมน, สโลโมที่ล้อเลียนแฟรช นู้ดเดิ้ลล้อเลียนมนุษย์ยางยืด นอกจากนี้ยังมี ฟาสฟอร์เวิดและรีไวล์ไทม์ ที่ยังสามารถย้อนอดีตและเร่งเวลาได้เหมือนวิดีโอเพลเยอร์ ทำให้เมื่อดูไปเรื่อย ๆ พลังส่วนใหญ่ก็จะออกแนวเวอร์ ๆ ทั้งนั้น เวลาดูเลยสนุกที่เด็กเหล่านี้ชอบเอาพลังเหล่านี้มาทำอะไรแปลก ๆ อยู่เสมอ พร้อมประโยคแซะหนังฮีโร่เก่า ๆ ที่ทำให้คนดูต้องฮา แต่พอหนังเล่าถึงกลางเรื่อง หลาย ๆ อย่างภายในเรื่องก็เริ่มที่จะสนุกน้อยลง ฉากแอ็กชั่นที่ทำออกมาค่อนข้างแย่ การเตะต่อยที่ไม่มีอิมแพ็ค ความไม่สมเหตุสมผลมาเต็มไปหมด ส่งผลให้อารมณ์ร่วมหายไปมีแต่ชงมุกไปเรื่อย จนกระทั่งถึงปลายเรื่องที่จะมีหลาย ๆ อย่างที่สนุกถาโถมเข้ามาไม่หยุด ความสนุกอยู่ที่บทสนทนา และการเล่าเรื่องของท้าย ๆ บท ที่ชงมุกออกมาได้ดี และยังเก็บรายละเอียดของเรื่องเฉลยออกมาได้โอเค บทสรุปโอเค ไม่ย้อนแย้งกับตัวเรื่องซักเท่าไหร่
ถ้าใครติดตามนักแสดงเก่า ๆ จาก The Adventures of Sharkboy and Lavagirl in 3-D อาจจะต้องผิดหวังกันได้ เพราะบทเด่น ๆ ของพวกเขานั้นแทบจะไม่มีเลย การโชว์พลังเหมือนกับการมาโชว์ความอ่อนซะมากกว่า คนที่จะมาดูเรื่องนี้เพื่ออยากเห็นพัฒนาการของพวกเขานั้น อาจจะต้องทำให้ผู้ชมผิดหวัง เพราะนี้เป็นหนังโฟกัสไปที่ลูก ๆ ของเหล่าฮีโร่เพียงอย่างเดียวเลย การมาของคนรุ่นใหม่จะมาแทนที่คนยุคเก่า
การแสดงของเหล่าเด็ก ๆ ยังคงมีปัญหาอยู่ที่การแสดงของพวกเขายังไม่สามารถดึงดูดผู้ชมให้สามารถอินไปกับเนื้อเรื่องได้ ซึ่งมันช่างน่าเสียดายมาก ที่นักแสดงจาก Spy kids แสดงออกมาได้ดีกว่า ไม่ว่าจะเป็นฉากต่อสู้หรือการพูดคุย ยังคงยกให้ The Adventures of Sharkboy and Lavagirl in 3-D ยังดีกว่าเรื่องนี้
We Can BE Heroes เป็นผลงาน Robert Anthony Rodriguez โปรดิวเซอร์จาก Spy kids ทั้งสี่ภาค และผู้กำกับ The Adventures of Sharkboy and Lavagirl in 3-D จึงไม่ค่อยแปลกใจเลยว่าทำไมหนังเรื่องนี้ถึงมีกลิ่นอายของหนังซุปเปอร์ฮีโร่เด็กมากขนาดนี้ นี้เป็นการนำผลงานเมื่อ 15 ปีที่แล้ว มาปัดฝุ่นใหม่อีกทีให้ทันสมัยมากขึ้น พร้อมด้วยการล้อเลียนประเด็นของเหล่าฮีโร่ที่หลาย ๆ คนสงสัย ทำให้หนังเรื่องนี้มีสีสันมากขึ้น จึงมั่นใจว่าเรื่องนี้ถ้าใครเป็นแฟน ๆ ของเหล่าฮีโร่อาจจะชอบมุกที่หยอกล้อและความบันเทิงที่เรื่องนี้นำเสนออย่างแน่นอน