หมวดหมู่ : หนังแอคชั่น , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : Tenet เทเน็ท (2020) IMAX Version [ พากย์ไทย บรรยายไทย ]
ชื่อภาพยนตร์ : Tenet เทเน็ท
แนว/ประเภท : Action, Sci-Fi, Thriller
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Christopher Nolan
บทภาพยนตร์ : Christopher Nolan
นักแสดง : John David Washington, Robert Pattinson, Elizabeth Debicki
วันที่ออกฉาย : 27 August 2020
จะเป็นอย่างไร.. หากเหตุการณ์ที่กำลังจะเกิดมันเลวร้ายยิ่งกว่าวันโลกาวิวัฒน์! ฝ่าทฤษฎีของกาลเวลาเพื่อความอยู่รอดของมวลมนุษยชาติ โดยการจารกรรมสุดยิ่งใหญ่ครั้งนี้ทุกคนจะได้ตามหาคำตอบด้วยกันว่า เทเน็ท คืออะไร? เหตุการณ์อะไรที่จะร้ายแรงยิ่งกว่าวันอวสานของโลกมนุษย์? และการย้อนเวลานั้นแตกต่างกับการเดินทางข้ามเวลาอย่างไร?
IMDB : tt6723592
คะแนน : 7.8
รับชม : 142494 ครั้ง
เล่น : 71376 ครั้ง
เป็นภาพยนตร์แนวแอ็คชั่นจารกรรมไซไฟที่ถูกปั้นออกมาจากวิสัยทัศน์อันกว้างไกลของผู้กำกับมากฝีมือที่ทำเรื่องไหนออกมา เป็นได้รับกระแสว่าล้ำตลอด อย่าง คริสโตเฟอร์ โนแลน ผู้เคยพาเราไปสำรวจความทรงจำที่ย้อนจากหลังไปหน้าจาก MOMENTO พาเราเดินทางสู่โลกแห่งความฝันและการจารกรรมอย่าง INCEPTION พาเราเดินทางข้ามโพ้นจักรวาลเหนือกาลเวลาอย่าง INTERSTELLAR และเพาเราสำรวจช่วงเวลาแห่งสงครามอย่าง DUNKIRK และในปี 2020 นี้ เขาจะพาเราไปสำรวจทุกสิ่งทุกอย่างที่มาจากประสบการณ์การทำหนังของเขา ไม่ว่าจะเรื่อง เวลา แผนจารกรรม วิทยาศาสตร์ และการเล่าเรื่องที่มีชั้นเชิงใน TENET ครับ
หลังจากที่โควิดได้ทำให้ TENET ต้องย้ายกำหนดฉายจากเดือนกรกฎาคม มาที่สิ้นเดือนสิงหาคม ทำให้ภาพยนตร์เรื่องนี้เรียกได้ว่าเป็นความหวังที่จะเรียกศรัทธาคนชมภาพยนตร์ให้กลับมาเข้าโรงอีกครั้ง หลังธุรกิจเหล่านี้ได้ซบเซา และถูกแทนที่ด้วยบริการสตรีมมิ่งที่ทำให้เราแทบลืมไปเลยว่า ยังมีภาพยนตร์ที่หน้าจับตามองออกฉาย และเชื่อว่าต่อไปจะไม่มีแค่เรื่องนี้ จะมีเรื่องอื่นอีกมากมายที่รอเข้าฉาย ซึ่งเรามาติดตามกันว่ามันจะแสดงศักยภาพของมันได้มากแค่ไหน แต่ก่อนอื่นเลยมาอ่านเรื่องย่อกันก่อน
ตัวเอก (จอห์น เดวิด วอร์ชิงตัน) ถูกดึงเข้าสู่แผนจารกรรมครั้งสำคัญขององค์กรลับปริศนาภายหลังการตายของเขาที่มีเพียงคำว่า “เทเน็ท” ที่เป็นกุญแจนำทาง และเขาต้องออกเดินทางในแทบทุกมุมโลก เพื่อค้นหาเบาะแสสำคัญที่จะหยุดยั้งเหตุการณ์ที่เชื่อว่าเป็นสงครามโลกครั้งที่สาม และเผชิญหน้ากับปรากฏการณ์ประหลาดที่ทำให้วัตถุหรือสิ่งต่าง ๆ เดินทางย้อนเวลาได้ ร่วมด้วย นีล (โรเบิร์ต แพททินสัน) ชายหนุ่มปริศนาที่ปรากฏตัวเพื่อช่วยเหลือเขา แคทเทอรีน (เอลิซาเบธ เดบิกกี) สาวเศรษฐินีที่มีปัญหากับ อังเดร เซเตอร์ (แคนเนธ์ บรานาห์) พ่อค้าขายอาวุธสงครามที่เป็นชนวนสำคัญที่อาจพลิกชะตาโลกทั้งใบได้ แต่เมื่อยิ่งเข้าใกล้ความจริงมากเท่าไหร่ ความเป็นจริงยิ่งเลือนราง และกาลเวลานั้นก็ค่อย ๆ สั่นคลอนความเชื่อของทุกคนไปตลอดกาล”
คริสโตเฟอร์ โนแลนเคยกล่าวว่า เขาเคยคิดอยากทำหนังเจมส์ บอนด์ ในแบบตัวเอง ซึ่งเขาก็ได้ทำมันออกมาแล้ว เทเน็ทจะพาคนดูค่อย ๆ สัมผัสโลกที่เหนือกว่าความเป็นจริงที่เราเคยอยู่ แต่ก็ยังค่อย ๆ แทรกปริศนาและเบาะแสตามแบบโนแลน ถ้าใครดูหนังเก่ามาจะเข้าใจได้ทันทีว่าหนังของเขาจะมีการโปรยขนมปังให้ใช้ในการรวบรวมเบาะแส และแน่นอน อย่าคิดตามหลักความเป็นจริงทางวิทยาศาสตร์ ไม่เช่นนั้นคุณจะทั้งงง และสับสน ทำตามที่ตัวละครในตัวอย่างบอก “อย่าพยายามเข้าใจ ให้ใช้ความรู้สึก”
คุณจะได้ค่อย ๆ สงสัยและอยากรู้ไปกับพระเอก และแน่นอนคำอธิบายของหนังเรื่องนี้มีไม่มากมาย แต่ต้องตั้งใจฟังและอย่าพลาดรายละเอียด ไม่เช่นนั้น คุณอาจจะหลุดจากโลกในหนัง หรือหลับทันที แต่เรื่องแบบนั้นมันก็คงยาก เพราะอาเข้าจริง แม้เราจะไม่เข้าใจ แต่หนังก็มอบความบันเทิง มีเสน่ห์แบบสายลับ และความไซไฟได้อย่างเต็มรูปแบบโดยไม่เวอร์วังจนเกินไป จนผมยอมรับเลยว่า ล้ำจริง ไรจริง ดูไม่รู้เรื่องแต่โคตรมัน แต่มันแลกมาด้วยข้อเสียคือ ในช่วงท้ายของบทสรุปในหนังมันเหมือนวางมาให้เป็นอีกแบบนึง เลยคิดว่ามันเล่นใหญ่ไปนิด แต่มันก็ไม่ได้เป็นปัญหาสำคัญอะไรของเรื่อง ผมคงไม่สปอย แต่บอกได้ว่า มันเป็นเรื่องที่หนังไซไฟชอบทำ แต่โนแลนเล่ามันลึกขึ้นมากกว่าเดิม
มีใครหลายคนคงสงสัยว่าการกลับด้านหรือกลับข้างนี่มันเกิดจากอะไร ผมบอกได้แค่ว่า มันเป็นการดัดแปลงอนุภาคของหน่วยกระแสวัดเวลา ซึ่งเป็นกฎที่โนแลนคิดขยายขอบเขตให้กว้างกว่าวิทยาศาตร์ในโลกแห่งความจริงร่วมกับนักฟิสิกส์ที่เคยทำงานร่วมกัน เพื่อใช้ในภาพยนตร์โดยเฉพาะ เทเน็ทในเรื่องก็ไม่ได้มีการให้น้ำหนักอะไรมากอย่างที่คิด เอาจริง ๆ ดูจนจบก็ยังไม่สามารถเข้าใจได้ว่า เทเน็ท หมายถึงอะไร และมันไม่ใช่สิ่งที่คุณคิดแน่ สิ่งที่หนังทำได้ดีคือการสร้างโลกของตัวเองขึ้นมาตามความเป็นจริง แต่ก็ใส่เรื่องการเดินทางข้ามเวลา ซึ่งมันเดินทางยังไง ก็ต้องไปชมกันครับ บอกได้อย่างเดียวว่า มันเจ๋งมาก ๆ ในฐานะที่ผมศึกษาทฤษฎีนี้มาประมาณนึง แต่คนดูทั่วไปอาจจะตามกฎไม่ทัน ซึ่งนั่นสิ่งที่คุณต้องชั่งน้ำหนักเอาเอง ว่ามันเป็นยังไง แต่นี่คือสิ่งที่ผมเข้าใจหลังจากชมภาพยนตร์จบครับ