หมวดหมู่ : หนังอาชญากรรม , หนังสยองขวัญ , หนัง Netflix , หนังลึกลับซ่อนเงื่อน , หนังวิทยาศาสตร์ Sci-fi , หนังระทึกขวัญ
เรื่องย่อ : The Call สายตรงต่ออดีต (2020) [ พากย์ไทย บรรยายไทย ]
ชื่อภาพยนตร์ : The Call สายตรงต่ออดีต
แนว/ประเภท : Horror, Crime, Mystery
ผู้กำกับภาพยนตร์ : Chung-Hyun Lee
บทภาพยนตร์ : Chung-Hyun Lee, Sergio Casci
นักแสดง : Park Shin-Hye, Jong-seo Jun, Sung-ryung Kim
วันที่ออกฉาย : 31 March 2020
The Call สายตรงต่ออดีต หนังเกาหลีแนวระทึกขวัญ สั่นประสาทเรื่องใหม่แกะกล่องจาก Netflix นำแสดงโดย ‘พัคชินฮเย’ และ ‘จอนจงซอ’ เรื่องราวของของผู้หญิง 2 คนที่อยู่คนละช่วงเวลาห่างกัน 20 ปี แต่สามารถสื่อสารกันได้ผ่านโทรศัพท์ และหนึ่งในนั้นเป็นฆาตกรต่อเนื่อง
โทรศัพท์ปริศนาเปิดโอกาสให้ฆาตกรต่อเนื่องสนทนากับหญิงสาวที่อยู่บ้านหลังเดียวกันในอีก 20 ปีข้างหน้าเพื่อใช้ชีวิตและอดีตของเธอเป็นสิ่งต่อรองในการเปลี่ยนแปลงโชคชะตาของตัวเอง
IMDB : tt10530176
คะแนน : 8.4
รับชม : 28525 ครั้ง
เล่น : 11527 ครั้ง
เป็นหนังแนวระทึกขวัญที่เล่นกับเรื่องของเวลา นางเอกในเวลาปัจจุบัน ปี 2019 แต่ดันติดต่อกับคนปลายสายที่เคยอยู่บ้านนี้เมื่อ 20 ปีก่อนผ่านทางสายโทรศัพท์
นางเอก ซอยอน คือสาวที่กำพร้าพ่อไปเพราะอุบัติเหตุทางอัคคีภัย เหลือเพียงแค่แม่ที่เธอมองเป็นตัวการที่ทำให้เธอต้องสูญเสียพ่อ ดังนั้น การที่ได้รู้ว่าปลายสายคือคนในอดีตผู้เคยอยู่ในบ้าหลังนี้จึงกลายเป็นเรื่องสำคัญสำหรับเธอไปในทันที
เมื่อซอยอนได้รับการช่วยเหลือจากยองซุก จนทำให้พ่อเธอกลับมามีชีวิตอยู่อีกครั้ง เพราะการแก้ไขอดีตซึ่งเป็นสิ่งที่ไม่ควรจะไปเปลี่ยนแปลง เพื่อตอบแทนในสิ่งที่ซองยุกทำให้ เธอเองก็เลยช่วยส่งเพลงของศิลปินที่เธอชื่นชอบไปให้ฟัง กลายเป็นว่าต่างคนต่างตอบแทนกัน แต่ก็ทำให้ซอยอนถูกผูกติดกับยองซุกไปโดยปริยาย
เมื่อปลายสายคือ สาวที่มีสภาพจิตไม่ปกติ ไม่พอ ในเวลานั้นเธอยังอยู่บ้านนี้กับแม่เลี้ยงที่ใจร้ายสุดๆ และซอยอนกลายเป็นทางรอดของเธอ ด้วยความซื่อบื้อหรืออะไรสักอย่างที่ทำให้ซอยอนเข้าตาจน จำเป็นต้องทำตามคำขอแกมบังคับของเธอ ที่สุดท้าย กลายเป็นว่าซอยอนต้องดิ้นรนเพื่อไม่ให้ต้องสูญเสียแม้กระทั่งชีวิตตัวเอง
เรื่องราวที่มีเงื่อนงำน่าสนใจ ชวนระทึกติดตามต่อ เพราะสิ่งที่เกิดขึ้นในอดีตจะส่งผลต่อปัจจุบัน ขณะเดียวกัน คนในปัจจุบันก็สามารถรู้เหตุการณ์ในอดีตที่เกิดขึ้นไปแล้วได้
ตัวละครก็นับว่าเก่งกาจ รู้จักใช้สมองคิดหาวิธีการต่างๆ เพื่อเอาตัวรอด ทั้งหนังก็พยายามดำเนินให้เรื่องมันเคลื่อนไปอยู่ตลอด เวลาทั้งสองช่วงที่เดินไปพร้อมกัน หนังใช้การตัดสลับให้คนดูร่วมลุ้นว่ามันจะลงเอยตรงที่ใด ไม่มีส่วนไหนที่น่าเบื่อ
เช่นเดียวกับการได้เห็นความเปลี่ยนแปลงของตัวละครตัวหนึ่ง
สาวสภาพจิตไม่ปกติที่ต่อมาจะต้องกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง เธอจึงเป็นตัวอันตราย เมื่อเจอกับปลายสายที่เป็นสาวที่อ่อนไหวและไม่ทันคน จึงกลายเป็นการสร้างบ่วงให้ตัวเองต้องติดกับ
แต่หนังก็มีหลายจุดที่ดูไม่น่าเชื่อหรือไม่สมเหตุผลสักเท่าไหร่นัก บางจุด เราอาจคิดว่ามันต้องเป็นอย่างนี้แน่เลย แต่มันก็ไม่ได้เป็นเพราะหนังเลือกจะเล่าจากมุมของซอยอน บ้างก็เป็นเหตุการณ์ที่เกิดขึ้นจะๆ ต่อหน้าต่อตา แต่กลับเป็นว่า หนังพยายามจะโชว์ซีจีจนเรื่องราวดูไม่สมจริง แม้แต่การสังหารจนมีศพอยู่ในบ้านก็ยังไร้กลิ่นจนกระทั่งตำรวจมาเยือนก็ยังไม่ได้กลิ่น
แต่ถึงอย่างนั้น ในช่วงครึ่งหลังของหนังก็นับได้ว่าน่าลุ้นระทึกอยู่
พัคชินฮเยในเรื่องนี้ เราจะได้เห็นลุคในแบบผมสั้นที่ก็น่ารักไปอีกแบบ ทั้งยังได้เห็นทั้งในลุคผมยาวด้วย เธอได้แสดงในบทบาทที่เกรี้ยวกราดที่อาจไม่คุ้นเคยจากที่เคยเจอในซีรีส์ต่างๆ แต่บทบาทในมุมดราม่าเรียกน้ำตา ชินฮเยก็ทำได้เยี่ยมยอด เล่นเอาน้ำตาซึมตามไปด้วยเลย
ขณะที่จอนจงซอ เรื่องนี้ เธอได้เล่นเป็นหญิงสาวที่ออกอาการโรคจิตเลยมีโอกาสได้แสดงความสามารถมากหน่อย เธอค่อยๆ เปลี่ยนจากคนมีสภาพจิตอ่อนๆ กลายเป็นหนักข้อขึ้นเรื่อยๆ จากการมีแม่เลี้ยงที่ดูร้ายๆ แถมเล่นของอีก สุดท้ายเธอเลยกลายเป็นฆาตกรต่อเนื่อง
เธอเล่นได้ร้ายและบ้าถึงดีเลยแหละ
นอกเหนือจากสองตัวนี้แล้ว เราก็คงจะได้พบกับนักแสดงที่คุ้นหน้าคุ้นตาที่เคยมีผลงานในซีรีส์เกาหลีอีก ไม่ว่าจะเป็น Oh Jeong Se/โอจองเซ เขาคือมูนซังแทที่เคยคุ้นในซีรีส์เรื่อง It’s Okay to Not Be Okay ส่วนอีกคนก็ Park Ho San/พัคโฮซัน เขาเคยเล่นทั้งซีรีส์ Prison Playbook และ My Mister พอเจอสองคนนี้แล้วต้องร้องอ๋อขึ้นมาทันที
โดยรวมก็ถือได้ว่าไม่เลวเลยแหละสำหรับหนังเรื่องนี้ นอกจากดำเนินเรื่องได้ชวนติดตามแล้ว ซีจีการจัดฉากและการเก็บรายละเอียดต่างๆ ก็เป็นส่วนสำคัญ รวมไปถึงเพลงประกอบที่เป็นแนวร็อกมันๆ แรงๆ ก็ส่งเสริมภาพลักษณ์ของสาวโรคจิตได้เป็นอย่างดี
แม้แต่ตอนจบก็ยังมีอะไรให้ต้องคิดตาม