หมวดหมู่ : หนังผจญภัย , หนังตลก , หนัง Netflix , หนังครอบครัว
เรื่องย่อ : The Christmas Chronicles 2 ผจญภัยพิทักษ์คริสต์มาส ภาค 2 (2020) [ พากย์ไทย บรรยายไทย ]
ชื่อภาพยนตร์: The Christmas Chronicles 2 ผจญภัยพิทักษ์คริสต์มาส ภาค 2 (2020)
ผู้กำกับภาพยนตร์: คริส โคลัมบัส
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Matt Lieberman , คริสโคลัมบัส
นักแสดง: Kurt Russell , Goldie Hawn , Darby Camp
แนว/ประเภท: ผจญภัย, ตลก, ครอบครัว
ความยาว: 1 ชม. 52 นาที
วันเข้าฉาย: 25 พฤศจิกายน 2563 (สิงคโปร์)
ในภาคนี้เป็นเรื่องราวของ เคท ที่กำลังประสบกับปัญหากับการที่แม่ของเธอนั้นกำลังจะมีความสัมพันธฺกับคนที่มีลูกติดมา โลกของเธอเริ่มจะไปสวยงามอีกต่อไป เธอเลยพยายามขอพรให้เธอได้หลุดพ้นจากทริปที่น่าอึดอัด
จนพวกเธอนั้นได้มาเจอกับซานต้นอีกครั้ง แต่ในครั้งนี้เธอก็ต้องปกป้องวันคริสต์มาสไว้ให้ได้อีกครั้ง เพราะว่าที่ขั้วโลกเหนือเองก็เกิดเรื่องราวที่จะทำให้วันคริสต์มาสหายไปตลอดกาล งานนี้เคท พร้อมกับ แจ็ค ต้องปกป้องจากสิ่งที่จะมาทำลายวันคริสต์มาสไว้ให้ได้
IMDB : tt11057644
คะแนน : 6.5
รับชม : 33926 ครั้ง
เล่น : 17154 ครั้ง
หนังเป็นการหยิบจับตำนานซานต้าครอสมาเล่าในยุคสมัยใหม่ (ตอนนั้นก็ปี 2018 สองปีก่อนในภาคแรก) มาเรียบเรียงและดัดแปลงใหม่ผ่านตัวละคร เท็ดดี้ พี่ชายที่หลังเสียหัวหน้าครอบครัวไปก็ต้องแบกรับการดูแลน้องสาว เคท ที่แสนโลกสวยเชื่อในซานต้าครอสว่ามีอยู่จริง พร้อมกับแม่ที่วัน ๆ ทำแต่งาน จนกลายเป็นเด็กมีปัญหาทำตัวแย่ จนได้พบเจอกับซานต้าครอสโดยไม่ได้ตั้งใจในเมืองลอสเวลล์ รัฐแมสซาชูเซส เกิดเป็นการผจญภัยในคืนคริสต์มาสอีฟที่ป่วนไปทั่วเมือง ที่สุดแล้วทุกคนก็ได้เรียนรู้ที่จะมีความสุขในวันคริสต์มาส ซึ่งแม้คำวิจารณ์จะก้ำกึ่งบวกลบ แต่ด้วยกระแสยอดนิยมในเน็ตฟลิกซ์ ก็ปฏิเสธไม่ได้เลยว่า นอกจากตัวละครซานต้าที่เฟี้ยวสุด ๆ ซีจีสุดเจ๋ง กับเจ้าพวกเอลฟ์ผู้ช่วยก็เป็นสิ่งที่เรียกความหรรษาให้กับเรื่องราวแล้ว ทำไมถึงจะต้องหยุดสร้างอยู่แค่ภาคเดียวล่ะ บอกเลยว่ามันนานมากจนผมลืมไปเลยว่าเคยมีภาคต่อ ภาคแรกก็ทิ้งท้ายเครดิตอยู่แล้ว ที่มีคุณนายซานต้าปรากฏตัวให้เห็นแว้บ ๆ
ผมเองก็ออกไปทางดูเพลิน ๆ ไม่ได้ว้าวอะไรมาก แต่มีภาคต่อเรื่องอะไรจะต้องพลาดล่ะ ซึ่งขอบอกเลยว่า นักแสดงแต่ละคนก็ไม่ธรรมดาเลย อย่างเคิร์ต รัสเซลล์ กับ โกลดี ฮอว์น นักแสดงรุ่นเดอะที่มาร่วมจอกันครั้งแรก จูดาห์ เลวิส พ่อหนุ่มที่เคยพาเราไปสุดเหวี่ยงในแฟรนไชน์หนังคัลท์พี่เลี้ยงโหดสั่งฆ่ากับเด็กชายเด๋อหวังแอ้มสาวอย่าง THE BABYSITTER ที่ใครหลายคนคงชอบการแสดงของเขา Jazhir Bruno ที่เพิ่งผ่านหนังเรื่อง The Witches แม่มดที่แอนน์ แฮททาเวย์เล่นไปสด ๆ ร้อน ๆ ไหนจะจูเลี่ยน เด็นนิงสัน พ่อหนุ่มร่างท้วมที่ฝากผลงานกวน ๆ ใน DEADPOOL 2 หรือผลงานที่กำลังจะมาอย่าง Godzilla vs. Kong หรือแม้แต่ ไทรีส กิบสัน พ่อหนุ่มนักขับรถขอพักมือจากแฟรนไชน์ THE FAST AND FURIOUS ก็มารับบทง่าย ๆ สไตล์หนังครอบครัว ฉะนั้นรู้จักกันพ่อหอมปากหอมคอแล้ว มาดูดีกว่าว่าภาคต่อนี้จะยังมีมนต์ขลังของจิตวิญญาณของคริสต์มาสเหมือนภาคก่อนหรือไม่กันเถอะ
“สองปีหลังจากภาคแรก เคท เด็กสาวผู้มีศรัทธาในคริสต์มาสสุดใจที่เคยร่วมมือกับพี่ชายอย่างเทดดี้ปกป้องคริสต์มาส ต้องพบกับการเติบโตและการเปลี่ยนแปลง เมื่อครอบครัวที่สุขสันต์ต้องพบปัญหา เมื่อแม่ของเธอกำลังจะได้เริ่มต้นกับผู้ชายคนใหม่ที่มีลูกติดอย่าง แจ็ค ผู้หวาดกลัวไปหมดทุกอย่าง ทำให้เธอขอพรให้ตัวเองหลุดพ้นจากทริปที่แสนน่าเบื่อ ณ เม็กซิโก แต่มันดันเป็นจังหวะเดียวที่ขั้วโลกเหนือกำลังมีปัญหาเมื่อภัยร้ายจากผู้ไม่หวังดีกำลังคืบคลานสู่หมู่บ้านคริสต์มาส เธอจึงต้องหวนคืนสู่ศรัทธา โดยร่วมกับเพื่อน ซานต้า เหล่าเอลฟ์แสนน่ารัก และคุณนายซานต้า เพื่อปกป้องคริสต์มาสจากการถูกทำลายตลอดกาล”
คาดหวังประเด็นใหม่ ๆ ที่ไม่ย่ำอยู่กับที่ ในภาคแรกโฟกัสที่ความสัมพันธ์ของ เท็ดดี้ กับ เคท ในการรับมือกับการสูญเสียในเมืองใหญ่ ครั้งนี้หนังจึงโฟกัสที่การรับมือกับความเปลี่ยนแปลงผ่านตัวละคร เคท ที่เติบโตขึ้น ท่ามกลางการผจญภัยในดินแดนขั้วโลกเหนือแทน และเจอปัญหาที่เธอไม่สามารถโลกสวยได้อย่างเมื่อก่อน แต่เสน่ห์เธอก็ไม่ได้หายไป เธอยังคงเป็นคนเดิมแต่โตขึ้น สิ่งที่น่าเสียดายคือ เท็ดดี้ นั้นไม่ได้มีความสำคัญกับเรื่องราวอีกต่อไป เพราะดูเหมือนในภาคนี้เขาจะไม่มีความจำเป็นต้องแบกรับอะไรอีก เลยใส่ตัวละครใหม่อย่าง แจ็ค เข้ามารับหน้าที่เล่าเรื่องร่วม พร้อมด้วยคุณนายซานต้าที่รอบนี้มาเป็นตัวละครหลักที่คอยสนับสนุนตัวละครทุกตัวได้อย่างอบอุ่นและไม่ได้รู้สึกเป็นส่วนเกินหรือน่ารำคาญ แถมผมก็ค่อนข้างชอบการดีไซน์ให้เธอเป็นคนใจดีและรักเด็กมาาก ๆ แถมสามารถรับมือกับทุกอย่างได้อย่างฉลาดและโดดเด่น ในขณะที่ซานต้าที่รอบนี้อาจจะไม่ได้เปลี่ยนไปมาก แต่ก็ยังมีลูกเล่นแพรวพราวเหมือนเดิม ยังมีบทเป็นหลักอยู่
ปมปัญหาสำคัญตัวร้ายของภาคนี้ ค่อนข้างธรรมดาและคาดเดาง่ายมาก ซึ่งมองว่ามันทำให้หนังขาดความสดใหม่จากที่พยายามปูมา เพราะแม้จะให้ความสำคัญกับพื้นที่ดินแดนและจุดกำเนิดของซานต้าและเอลฟ์มากขึ้น แต่มันก็ไม่ได้ทำให้หนังดูแปลกใหม่อะไร การเปิดเผยปมคำตอบต่าง ๆ ก็ดูเป็นสูตรสำเร็จ ดูเป็นหนังคริสต์มาสแฟนตาซีวันหยุดทั่วไปของเน็ตฟลิกซ์ ในขณะที่ภาคแรกหยิบซานต้าไปโลดแล่นในเมืองอย่างสุดเจ๋ง และมีหลายฉากให้ลุ้นไปกับตัวละคร คาดเดายากว่าจะเกิดอะไรขึ้น แต่ภาคนี้แม้จะมีฉากคล้าย ๆ กัน แต่ก็ไม่ได้น่าจดจำเท่าเลย ฉากซึ้งต่าง ๆ ที่ภาคแรกทำได้ดี แต่ภาคนี้มันกลับเฉย ๆ มาก ความที่มันดูง่ายไปหมดคือจุดอ่อนของภาคนี้เลย เสียดายแทนนักแสดงที่แสดงออกมาได้ดีมาก ๆ แต่บทมันกลับไม่ขยี้อะไรเพิ่ม เกือบเข้าใจมูลเหตุจูงใจและเห็นใจแล้ว แต่เปล่าเลย กลายเป็นรำคาญแทน ในขณะที่ตัวละครอื่นก็ดูไม่มีพัฒนาการอะไรเลย
สิ่งที่ The Christmas Chronicles 2 ยกระดับมากกว่าภาคแรกอีกอย่างเลย คืองานภาพและเสียงที่จัดเต็มตั้งแต่ซีจี การเนรมิตหมู่บ้านซานต้าที่ไม่เคยถูกแสดงให้เห็นแบบภาพจริง ๆ มาก่อนในภาคแรก ไหนจะซีจีเอลฟ์ที่ดูน่ารักและน่าหมั่นเขี้ยวที่ดูกลมกลืนกับฉากอย่างไม่โดด ซีจีสัตว์ก็ทำออกมาได้สมเหตุสมผล อาจไม่สมจริง แต่ในสถานการณ์หรือลักษณะมันเอื้อให้ออกแนวแฟนตาซี และการถ่ายทำก็มีการพัฒนามากขึ้นในด้านมุมกล้องที่ถ่ายออกมาได้โฟกัสฉากดี ยังไม่รวมกับการใส่ดนตรีประกอบที่ดีไม่ตก และเข้ากับเรื่องราวในฉากนั้น ๆ แน่นอนว่าซานต้ายังมีเพลงสนุก ๆ ที่โชว์เสน่ห์เหมือนเดิมเหมือนภาคก่อน แต่ไม่ได้ดีกว่ากันเท่าไหร่ เอาเป็นว่าเด็ก ๆ หรือใครชอบหนังแฟนตาซีคงถูกใจ แต่อย่าคาดหวังเนื้อเรื่องมาก เพราะหนังเป็นหนังครอบครัวที่โลกสวยกว่าภาคแรกอีก
ในส่วนของประเด็นมันค่อนข้างแบ่งออกมาได้สะเปะสะปะ เพราะเล่นทั้งประเด็นการยอมรับในความเปลี่ยนแปลง การไม่หนีจากปัญหาที่ตัวเองก่อ การมีความกล้าแล้วจะข้ามผ่านที่ถูกเล่าออกมาเป็นช่วง ๆ ซึ่งแม้มันจะเป็นอะไรที่ต่างภาคก่อนที่ว่า คริสต์มาสคือการให้ แต่มันก็ไม่ได้ทำให้เรารู้สึกอินเลย เช่นเดียวกับความสัมพันธ์ของตัวละครในเรื่องที่เคมีดูไม่ค่อยจะต่อติดกันเท่าไหร่ เหมือนเวลามันห่างกันเกินไป เราเลยไม่รับรู้ถึงความผูกพัน แต่อาจจะเป็นปัญหาของผมแล้วล่ะมั้ง ที่ไม่ได้สัมผัสถึงความเอาจริงเอาจังในการเล่าเรื่อง และยังไม่รวมกับการแบ่งตัวละครให้มีฉากการผจญภัยแบบหนังแฟนตาซีคริสต์มาสที่จงใจใช้ฉากซึ้ง ๆ เป็นสูตรสำเร็จอีก น่าผิดหวังมากจริง ๆ แต่สำหรับคนที่ไม่คิดอะไรมาก หรือดูภาคแรกมาอาจจะชอบที่หนังเฉลยรายละเอียดที่เกี่ยวข้องกับภาคแรกบางส่วนก็ได้ แต่ผมก็รู้สึกเฉย ๆ อยู่ดี
ถ้าคนชอบภาคแรก คุณอาจจะชอบหรือไม่ชอบภาคนี้ หนังมันครอบครัวและเด็กจ๋า ๆ เป็นการผจญภัยที่แฟนตาซีแต่น่าเบื่อมากกว่าภาคก่อนมาก ๆ ผู้ใหญ่อาจจะเฉย ๆ แต่เด็ก หนู ๆ น่าจะชอบอะไรแบบนี้ ทั้งซีจีสวย ๆ ตัวละครการ์ตูนที่เน้นการทำตัวบ้า ๆ บอ ๆ เปิ่น ๆ น่ารัก ตัวละครร้ายแบบหนัง 90 เรื่องคุณภาพยอมรับว่ามันคือหนังโรงเลยทีเดียว ไม่ใช่แค่คุณภาพหนังเน็ตฟลิกซ์แบบที่ทำออกมาในช่วงสองสามอาทิตย์นี้ ผมล่ะไม่แปลกทำไมถึงได้ฉายโรง เพราะถ้าได้เห็นฉากต่าง ๆ มันอลังมาก แต่ก็ไม่ได้ยกระดับหนังจากภาคแรก และมันอาจจะไม่ดีเท่าภาคแรกแน่ ๆ มีเวลาว่างจะชมก็ได้ แต่ถ้าข้ามไปก็ไม่น่าเสียดายอะไรเท่าไหร่ สำหรับผม และยิ่งการที่ไม่มีเท็ดดี้แล้ว หนังดูไม่สนุกเลย ทั้ง ๆ ที่เป็นตัวละครสำคัญของภาคแรกแท้ ๆ เข้าใจว่าต้องถ่าย The Babysitter: Killer Queen ไล่เลี่ยด้วย แต่ก็แบบ คงไม่มีแล้วล่ะภาคต่อ จบลงแบบนี้แหละดีแล้ว