หมวดหมู่ : หนังแอนนิเมชั่น , หนังแอคชั่น , หนังผจญภัย
เรื่องย่อ : Batman: Bad Blood แบทแมน : สายเลือดแห่งรัตติกาล (2016) พากย์ไทย
ชื่อภาพยนตร์: Batman: Bad Blood แบทแมน : สายเลือดแห่งรัตติกาล
ผู้กำกับภาพยนตร์: Doug Liman
ผู้เขียนบทภาพยนตร์: Patrick Ness, Christopher Ford
นักแสดง: Max More , Tom Holland, Daisy Ridley, Demián Bichir
แนว/ประเภท: Adventure, Action, Animation
ความยาว: 1 ชม. 49 นาที
วันเข้าฉาย: 19 January 2016
เดเมี่ยนกลับมาเป็นโรบินอีกครั้งและพบว่าบรูซ เวย์น พ่อของเขาหายตัวไป ส่วนไนท์วิงก็ต้องมาปลอมตัวรับหน้าที่เป็นแบทแมนเสีย เอง ในระหว่างการสืบหาตัวบรูซ พวกเขาได้พบกับแบทวูแมน ซึ่งอาจเป็นคนสุดท้ายที่เห็นแบทแมนตอนมีชีวิต พวก เขาจึงร่วมมือกันในฐานะสมาชิกครอบครัวฮีโร่ จนพบว่าแบทแมนได้ก้าวเข้าสู่ด้านมืดและตั้งตัวเองเป็ นหัวหน้าอาชญากรรายใหม่ของเมืองก็อตแธม!!!
IMDB : tt4870838
คะแนน : 6.8
รับชม : 1905 ครั้ง
เล่น : 513 ครั้ง
เขาเรียกว่ายุคหลัง The Dark Knight ใช่ไหม ลูเซียส ฟ็อกซ์วาดออกมาซะเหมือนมอร์แกน ฟรีแมนเลยทีเดียว พอมองเป็นภาคต่อของ Son of Batman ที่ปั้นเดเมี่ยนให้เป็นโรบินแล้วรู้สึกว่าภาคนี้ดรอปไปเลย สเกลเนื้อหาแฟนตาซีขึ้นเรื่อย ๆ แผนการตัวร้ายเว่อร์ขึ้นไปอีกเหมือนหลุดมาจากตัวร้ายเจมส์ บอนด์ที่อยากจะครองโลก แล้วภาคนี้ปั้นครอบครัวพี่แบทเหลือเกิน ทั้งแบทวูแม่น, แบทวิง, ไนท์วิง, โรบินรวมทีมกันอย่างกับเตรียมไว้สู้จัสติซ ลีก
ภาคนี้เริ่มต้นด้วยการหายตัวไปของแบทแมน ทำให้อัลเฟร็ดต้องตามไนท์วิงให้สวมชุดแบทแมนแทนชั่วคราวไปก่อน โดยพอเดเมี่ยนรู้ข่าวก็กลับมาก็อทแธมด้วยเช่นกัน อีกทั้งยังมีแบทวูแม่นที่ออกสืบการหายตัวไปของแบทแมน และยังเปิดตัวแบทวิงคนล่าสุด
ถ้าใครสังเกตหนังรวมทีมฮอลลีวูดช่วงหลัง ๆ คงจะสังเกตว่าช่วงยุคหนึ่งนักแสดงหญิงจะเริ่มมีบทบาทในการรวมทีมกับผู้ชายมากขึ้น และปัจจุบันนักแสดงผิวดำจะเริ่มมีบทบาทเด่นขึ้นเรื่อย ๆ ไม่ต่างกันกับแอนิเมชั่นแบทแมนที่เริ่มให้น้ำหนักกับเพศหญิงและตัวละครผิวดำมากขึ้น อย่างภาคนี้พอมารวมแล้วค่อนข้างชัดเจนเลย แถมตัวแบทวูแม่นยังแสดงออกชัดเจนด้วยว่าเป็นเลสเบี้ยน ซึ่งสอดคล้องกับการสนับสนุนสิทธิของ LGBT ด้วย (กลุ่มบุคคลที่มีความหลากหลายทางเพศ)
ในแง่คาแรคเตอร์ ผมชอบภาคนี้อยู่อย่างนึงที่พูดถึงไนท์วิงในฐานะผู้อยู่ภายใต้เงาของแบทแมน ตอนที่เดเมี่ยนถากถางดิค เกรย์สันว่าคงจะชอบสินะที่ได้สวมชุดแบทแมน แล้วเดเมี่ยนอัดกลับระบาดความอัดอั้นของตัวเองที่ต้องอยู่ภายใต้เงาของแบทแมนแม้กระทั่งยามที่เขาหายตัวไปนี่มันน่าหยิบไปต่อยอดทำเป็นภาคเดี่ยวของตัวเองอยู่เหมือนกัน คิดว่าน่าจะทำเป็นแอนิเมชั่นที่เข้มข้นระดับน้อง ๆ Under the Red Hood เลย
ส่วนเนื้อเรื่องภาคนี้เรากลับรู้สึกไม่ค่อยโอเคเท่าสองภาคก่อนหน้า (Son of Batman และ Batman vs. Robin) ไป ๆ มา ๆ จักรวาลนี้เริ่มจะทำให้บรูซ เวย์นกลายเป็นโทนี่ สตาร์คแล้วคือไปไหนใครก็รู้หมดว่าบรูซ เวย์นเป็นแบทแมน เสน่ห์ของตัวละครเป็นความลับเริ่มหายไปทุกที ยิ่งมาอยู่ในแผนการตัวร้ายที่แฟนตาซีใหญ่โตขึ้นแต่ความสนุกกลับน้อยลง แอ็คชั่นทำได้ตามมาตรฐานไม่ได้รู้สึกโดดเด่นอะไร (ชอบตอนเรียกแม่ชีถือดาบคาตานะว่า นันจา)