High & Low: The Movie 3 - Final Mission คราอวสานของซอร์ด (2017) [ บรรยายไทย ]

"คราอวสานของซอร์ด"

ตั้งแต่ละครซีซั่นแรกของโปรเจ็คต์ HiGH&LOW ออกอากาศตอนแรกในปี 2015 ในตอนนั้น คงไม่น่าจะมีใครคาดคิดว่าเรื่องราวการต่อสู้ของเหล่าลูกผู้ชาย จะเดินทางมาได้ยาวนานนับปี ผ่านเรื่องราวต่างๆ มากมาย จากการต่อสู้เพื่อพิสูจน์ตัวเอง เรื่องราวได้ขยายมาสุดทางที่การปะทะกันของสองขั้วอำนาจ ระหว่างฝ่ายซอร์ด ที่มีพันธมิตรสุดแกร่งคอยช่วยเหลือ และคุริวกรุ้ป ที่ชักใหญ่รัฐบาลอยู่เบื้องหลัง
และแล้วในที่สุด ปี 2017 (ส่วนเราได้ดูกัน 2018) ปมทุกปม เรื่องราวที่สานและโยงใยกันเรื่อยมา ก็ได้เวลาขมวดสู่บทสรุป ในภาพยนตร์ลำดับสุดท้ายของโปรเจ็คต์
HiGH&LOW THE MOVIE 3 FINAL MISSION

ที่ผ่านมา HiGH&LOW ถูกฉาบหน้าและรู้กันดีในหมู่ผู้ชมว่าเป็นหนังแอ็คชั่นสุดมัน ที่มาพร้อมลีลาการต่อสู้ที่ทั้งเท่และสวยงาม
แน่นอนว่า FINAL MISSION ก็ยังคงเป็นเช่นนั้น แต่สิ่งที่เห็นได้ชัดเจนเลยก็คือ โทนหนังที่เปลี่ยนไปสุดๆ จากแต่ก่อน บรรยากาศในเรื่องจะครอบด้วยอารมณ์คุกรุ่นของความคึกคะนอง พลังใจที่เร่าร้อน พร้อมเข้าซัดกันตลอดเวลา แม้จะมีดราม่าเข้าแทรก แต่ก็เป็นเพียงแค่ส่วนน้อยนิดเท่านั้น ถ้านับเฉพาะฉบับภาพยนตร์ ทุกการต่อสู้จะเป็นการประจันกันซึ่งๆ หน้า อัดกันแหลกลาน สร้างความบันเทิงขณะรับชมได้ถึงที่สุด
แต่จากท้ายภาค END OF SKY ที่เผยให้เห็นว่าคุริวทุ่มกำลังทั้งหมดเข้าถล่มซอร์ด จึงทำให้มู้ดแอนด์โทนของ FINAL MISSION เต็มไปด้วยความกดดัน สิ้นหวัง และความพยายามในการเอาชีวิตรอดของแต่ละคน แต่ละกลุ่ม ส่งผลให้การต่อสู้ไม่ใช่การฉะกันซึ่งๆ หน้า ฉากระเบิดภูเขาเผากระท่อมลดลงไป แต่จะเน้นไปที่การหนี ซ่อน ซุ่มและสู้แบบโกงโจรแทน ให้อารมณ์เหมือนดูหนังจารกรรมมากกว่า แต่ถึงอย่างนั้น ฉากการปะทะกันตรงๆ ที่มีน้อยนั้นก็ยังคงรักษามาตรฐานความเดือดเอาไว้ได้เป็นอย่างดี
อีกสิ่งที่ชอบมากในภาคนี้ก็คือการได้เห็นการจับคู่ รวมกลุ่มทำภารกิจของกลุ่มที่ไม่คิดว่าจะเข้ากัน ซึ่งถือเป็นความแปลกใหม่ที่น่าชื่นชมและน่าเสียดายในคราวเดียวกันที่ภาคก่อนๆ ไม่ทำแบบนี้

รวมถึงความบังเอิญอย่างน่าประหลาด ระหว่างที่ดู ผมนึกถึง AVENGERS: INFINITY WAR ขึ้นมาจับใจ ถ้าใครที่ได้ดูอินฟินิตี้ วอร์แล้ว ก็คงจะทราบกันดีว่า เรื่องราวถูกเน้นไปที่ธานอส ตัวร้ายหลักของเรื่อง ใน FINAL MISSION ก็เช่นเดียวกันครับ เรื่องราวในภาคนี้จะเน้นไปที่คุริวกรุ้ปเกิน 60% ได้เห็นแง่มุมและเรื่องราวภายในกลุ่มมังกรเก้าหัวนี้มากยิ่งขึ้น ซึ่งอาจจะสร้างความเกลียดชังให้กับคนที่เกลียดอยู่แล้ว หรืออาจจะทำให้บางคนมองกลุ่มมังกรรุ่นเก๋านี้ด้วยสายตาที่เปลี่ยนไป

ในแง่ของปมต่างๆ ที่ถูกปล่อยทิ้งไว้มากมายตั้งแต่ละครซีซั่นแรก แม้จะคลายได้ไม่หมด แต่ปมสำคัญๆ ก็ได้รับการเฉลย เช่น ในส่วนของสโมกกี้ ในที่สุดก็ได้รู้เสียทีว่าอาการป่วยออดๆ แอดๆ นั้นเกิดจากอะไรกันแน่
รวมถึงการปิดฉากของบางตัวละคร (ที่ไม่ใช่คนเดียว) ก็ทำร้ายจิตใจผู้ชมมากพอสมควร แต่ในขณะเดียวกัน ก็เป็นการปิดฉากที่สวยงามและเหมาะสมอย่างยิ่ง

แต่ปัญหาใหญ่ที่แก้ไม่เคยตกมาตลอดก็ยังคงเป็นเรื่องของการเฉลี่ยบทบาทของตัวละครจำนวนมหาศาลในเรื่อง บางคน บางกลุ่มก็เด่นมาก บางกลุ่มก็จืดลงไป ในขณะบางกลุ่ม ถึงแม้จะออกน้อย แต่กลับแย่งซีนไปได้หน้าตาเฉย บางกลุ่มก็อันตรธานหายเข้ากลีบเมฆไปเสียอย่างนั้น (ดีใจที่ในที่สุดกลุ่มแยงกี้สลัม รู้ดบอยส์ ก็โดดเด่นเป็นเรื่องเป็นราวเสียที) แต่ก็อย่างว่าแหละครับ ขืนเล่าเรื่องทุกคนทุกกลุ่ม ความยาวของภาคนี้คงมากกว่าสิบชั่วโมงเป็นแน่แท้

ในส่วนของตอนจบ อย่างที่รู้กันว่าซอร์ดจะได้ปะทะกับคุริวขั้นแตกหัก ซึ่งก็เป็นไปตามนั้น ไม่ได้หักมุมแต่อย่างใด แต่ก็อึ้งพอสมควรที่ทิศทางของบทสรุปเดินทางไปแบบนั้น

กล่าวโดยสรุป HiGH&LOW THE MOVIE 3 FINAL MISSION ถือว่าเป็นการปิดตำนานการต่อสู้ของเหล่าลูกผู้ชายได้อย่างสวยสดงดงามและน่าประทับใจ แค่ได้เห็นการเติบโต รอยยิ้มและน้ำตาของเหล่าตัวละครที่ผูกพันมากว่าสามปี เพียงแค่นี้ก็อิ่มเอม แม้จะไม่ได้สมบูรณ์แบบมากนัก และรอยรั่วรวมถึงคำถามต่างๆ ยังคงค้างคาอยู่ แต่ก็เพียงพอแล้วที่จะทำให้โปรเจ็คต์ HiGH&LOW อยู่ในหัวใจ อยู่ในความชื่นชอบ และไม่ว่าจะกลับมาดูอีกสักกี่ครั้งก็ยังคงสนุกไปกับเรื่องราวได้ตลอด