Z แซด (2019) [ บรรยายไทยแปล ]

ในขณะที่หนังฟอร์มใหญ่หนีสถานการณ์โควิด-19 ไปปีหน้ากันแทบหมดสิ้นแล้ว หลังจาก Tenet ยอมเสียสละตัวเองเป็นตัวอย่างว่า คนดูยังออกมาดูหนังในโรงในระดับปกติเหมือนก่อนที่โลกมนุษย์จะเจอกับโควิด แล้วก็ทำรายได้ไปแบบหืดขึ้นคอ ช่วงนี้ก็เลยมีแต่หนังฟอร์มเล็กเข้าฉายกันแทบทุกสัปดาห์ และส่วนใหญ่ก็มักจะเป็นหนังสยองขวัญ เพราะเป็นแนวที่ใช้ทุนต่ำ ไม่ต้องใช้นักแสดงชื่อดัง เจ้าของหนังเอาเข้าโรงฉายก็ถือว่าเจอความเสี่ยงต่ำ แล้วก็เป็นที่ต้อนรับจากคนดูทั่วโลกเสมอมา Z ก็คือหนังสยองขวัญเรื่องล่าสุด ที่ตระเวนฉายตามเทศกาลหนังสยองขวัญมาตั้งแต่ปลายปีที่แล้ว ในสหรัฐฯ ก็ปล่อยให้เช่าดูทางสตรีมมิงไปเมื่อเดือนพฤษภาคม ส่วนตลาดนอกสหรัฐฯ ก็มีฉายตามโรงในบางประเทศรวมถึงบ้านเรา

หนังเล่าเรื่องครอบครัว 3 คนพ่อแม่ลูก ที่ประกอบไปด้วย เบ็ธ เป็นแม่ เควิน เป็นพ่อ และ โจชัว ลูกชายวัย 7 ปี ครอบครัวก็ดูมีความสุขดีจนกระทั่งโจชัวเริ่มสร้างเพื่อนในจินตนาการขึ้นมา เขาบอกพ่อกับแม่ว่าเพื่อนของเขาชื่อ Z แรก ๆ ก็ดูเหมือนเรื่องปกติที่เด็กจะสร้างเพื่อนในจินตนาการขึ้นมา แต่เวลาผ่านไปในช่วงสั้น ๆ เบ็ธก็เริ่มสัมผัสความไม่ชอบมาพากลจาก Z เพื่อนในจินตนาการของโจชัว แต่เมื่อมาระบายกับเควิน เขาก็มองเป็นเรื่องตลก จน Z เริ่มแผลงฤทธิ์มากขึ้นจนมีผลกับอุปนิสัยของโจชัว ส่งผลกับการเรียนและชีวิตประจำวัน จนเบ็ธต้องหาทางรับมือกับ Z

อย่างที่บอกไป Z น่าจะใช้ทุนสร้างที่ต่ำมาก นักแสดงพอคุ้นหน้าบ้าง โดยเฉพาะ คีแกน คอร์นเนอร์ เทรซี ที่อยู่ในวงการมาแล้วกว่า 20 ปี ส่วนใหญ่ก็ได้รับบทสมทบมาตลอด และ เจ็ตต์ ไคลน์ ในบท โจชัว เป็นดาราคนเดียวในเรื่องนี้ที่น่าชื่นชมมาก เจ็ตต์ อายุแค่ 7 ขวบ แต่ประสบการณ์การแสดงโชกโชนมาก เล่นหนังมาแล้ว 24 เรื่อง เด่น ๆ ก็คือ The Boy และ Skyscraper เจ็ตต์เป็นเด็กหล่อหน้าตาขึ้นกล้อง แล้วก็ถ่ายทอดให้คนดูสัมผัสได้ถึงความไร้เดียงสาและสอดแทรกพิษภัยไว้ในคราเดียวกัน

พิจารณาในแง่ของหนังสยองขวัญ ปริมาณความน่ากลัว และความรู้สึกที่ได้รับขณะดู Z ยังอยู่ในเกณฑ์ครึ่งล่าง การค่อย ๆ ยกระดับความน่ากลัวของ Z ในช่วงต้นนั้นปูมาได้ดี ค่อย ๆ ทวีระดับความรุนแรง ยิ่งปูมาดี ก็ยิ่งสร้างความคาดหวังให้คนดู ซึ่งสุดท้ายก็เหมือนไปไม่ถึง ไปไม่สุดในดีกรีความน่ากลัว เราได้เห็นภาพลักษณ์ของ Z ผ่านการวาดของโจชัว เป็นอสุรกายที่ดูน่ากลัวเลยล่ะ แล้วกล้องก็แช่กับภาพนี้นาน ๆ ทำให้คนดูคาดหวังว่าสุดท้ายเราจะได้เห็น Z ออกมาอาละวาดในช่วงท้าย แต่เอาเข้าจริงแล้วไม่มีนะครับ จนจบเรื่อง Z โผล่มาแวบ ๆ ไม่ถึง 1 วินาที นับรวมได้ 3 ครั้ง แล้วทั้ง 3 ครั้งเป็นตุ้งแช่ล้วน ๆ ภาพไม่ค่อยน่ากลัวหรอก แต่ตกใจเพราะดนตรีประกอบนี่ล่ะ แล้วตลอดเรื่องก็ไม่มีฉากโหดให้เห็น ไม่มีเลือด ไม่มีฉากอี๋แหยะ น่าจะแปะเรต PG-13 ได้เลยล่ะ

เหตุที่ Z ไม่สามารถออกมาเพ่นพ่านแบบตัวเป็น ๆ ได้ ก็เพราะกรอบที่ตีไว้โดย แบรนดอน คริสเต็นเซ็น ผู้กำกับที่ควบหน้าที่เขียนบทร่วมกับ โคลิน มินิฮาน ที่ตั้งใจให้หนังออกมามีส่วนผสมของ สยองขวัญ กับจิตวิทยา เล่นกับการคาดเดาของคนดู ให้ดูไปคิดวิเคราะห์ไปว่าสรุปแล้ว Z มันมีตัวตนจริง ๆ หรือไม่ หรือเป็นปีศาจในจินตนาการของโจชัว และเบ็ธ ที่เห็นกันอยู่แค่ 2 คนหรือไม่ ซึ่งหนังก็จบแบบทิ้งไว้เป็นการบ้านให้คนดูไปวิเคราะห์กันต่อ ก็ถึอว่าค้างคาพอควร กับการกระทำบางอย่างที่ดูเป็นรูปธรรมเกินกว่าฝีมือของอสุรกายในจินตนาการ แต่หนังก็จบไปโดยไม่มีการเฉลยที่ชัดเจน ก็ถือว่าค้างคาพอควร

แต่ถ้าย้อนไปดู Still/Born ผลงานกำกับเรื่องก่อนหน้าที่เขาก็เขียนบทร่วมกับ โคลิน มินิฮาน เช่นเคย ก็ยังคงออกแนวสยองขวัญผสมจิตวิทยาคล้าย ๆ กันนี่ล่ะ ก็ต้องยกให้จุดนี้ล่ะที่เป็นข้อดีของหนัง ที่ทำให้ Z แตกต่างจากหนังสยองขวัญที่อัดแน่นในท้องตลาด ที่ไม่ได้เน้นความน่ากลัวเป็นหลัก แต่เป็นหนังที่ให้คิดวิเคราะห์ตามหนังไปด้วย โดยเฉพาะครึ่งหลังที่หนังเผยประวัติความเป็นมาของ Z ก็ถือว่าเป็นการยกระดับเส้นเรื่องให้ดูระทึกมากขึ้น ถ้าไม่ต้องไปคำนึงถึงความน่ากลัวของหนังอ่ะนะ แล้วก็ชวนติดตามว่าเบ็ธจะหาทางออกจากสถานการณ์เลวร้ายนี้อย่างไร

Z จึงเหมาะสำหรับคนที่อยากดูหนังสยองขวัญในแนวทางที่แตกต่าง ไม่ใช่มีแค่ฉากน่ากลัว เป็นหนังที่ต้องใช้สมองคิดตาม ตีความจากสัญลักษณ์ บุคลิกตัวตนของตัวละคร เก็บรายละเอียดปลีกย่อยในบทสนทนา ออกจากโรงมาแล้วยังต้องตีความต่อ สรุปแล้ว Z มันมีตัวตนจริงไหมนะ?